"สเปน" เชือด อังกฤษ ผงาดแชมป์ยูโร สมัยที่ 4

15 ก.ค. 67

การแข่งขันฟุตบอล ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ "ยูโร 2024" รอบรองชนะเลิศ คู่แรก ระหว่าง "ทีมชาติสเปน" พบ "ทีมชาติอังกฤษ" ที่ที่สนามโอลิมปิก สตาดิโอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา  

ก่อนพบกันคู่นี้ "ทีมชาติสเปน" ยังไร้พ่ายทำผลงงานร้อนแรง ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B ชนะรวดทุกนัด เก็บ 9 คะแนนเต็ม (ชนะ โครเอเชีย 3-0 , ชนะ อิตาลี 1-0 และ ชนะ อัลเบเนีย 1-0) เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ก่อนรอบน็อกเอาท์ 16 ทีม จะเอาชนะ จอร์เจีย 4-1 รอบ 8 ทีม ชนะต่อเวลาพิเศษ เยอรมนี 2-1 และล่าสุดรอบรองชนะเลิศ เแซงชนะ ฝรั่งเศส 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 

ขณะที่ "ทีมชาติอังกฤษ" ยังไร้พ่ายด้วยเช่นกัน ผลงานผ่านรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C ชนะ 1 เสมอ 2 เก็บ 5 คะแนน (ชนะ เซอร์เบีย 1-0 , เสมอ เดนมาร์ก 1-1 และ เสมอ สโลวีเนีย 0-0) เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วนรอบ 16 ทีม เอาชนะต่อเวลา สโลวาเกีย 2-1 รอบ 8 ทีม เอาชนะจุดโทษตัดสิน สวิตเซอร์แลนด์ 5-3 และล่าสุด แซงชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 เข้าสู่รอบชิง ได้สำเร็จ 

รายชื่อ 11 ตัวจริง 

อังกฤษ: พิคฟอร์ด , ชอว์, วอล์คเกอร์. เกฮี, สโตนส์, ไรซ์, ไมนู, เบลลิงแฮม, ซากา, โฟเดน และ แฮร์รี่ เคน

สเปน: ซิมอน , การ์บาฆาล, เลอ นอร์กมองด์, ลาปอร์กต์, กูกูเรยา, โรดรี, รุยซ์, โอลโม, ยามาล, วิลเลียมส์ และ โมราต้า

สำหรับผลปรากฎว่า สเปน เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อนในช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 47 จาก นิโก้ วิลเลียมส์ ก่อน อังกฤษ จะมาได้ประตูไล่ตามตีเสมอ นาทีที่ 73 จาก สำรอง โคล พาลเมอร์ แต่ความพยามยามของ สเปน มาได้ประตูชัยท้ายเกม นาทีที่ 87 จาก สำรอง มิเกล โอยาร์ซาบัล เป็น 2-2 

ทำให้ สเปน ทำสำเร็จเป็นแชมป์ ยูโร 2024 และ เป็นสมัยที่ 4 (1964 , 2008 , 2012 และ 2024) มากที่สุดในรายการ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม