ผู้ว่าฯศรีสะเกษลุยตรวจสถานการณ์น้ำ หลังอ่างเก็บน้ำที่มหาสารคามแตก

20 ก.ค. 67

ผู้ว่าฯศรีสะเกษลุยตรวจสถานการณ์น้ำ พร้อมรับมวลน้ำทะลักเข้าพื้นที่ จากเหตุการณ์อ่างเก็บน้ำที่มหาสารคามแตก กำชับทุกภาคส่วนเฝ้าระวัง

วันที่ 20 ก.ค. 67 ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา (เขื่อนหัวนา) ต.หนองแก้ว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ตลอดจนตรวจสอบปริมาณระดับน้ำในพื้นที่ลำน้ำมูล และลำน้ำชี เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับมวลน้ำที่จะเข้ามาในพื้นที่ จากเหตุการณ์อ่างห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เกิดน้ำกัดเซาะทำนบดินได้รับความเสียหาย ซึ่งอ่างเก็บน้ำดังกล่าวมีมวลน้ำปริมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร และอาจส่งผลกระทบต่ออำเภอที่ติดลำน้ำมูลของ จ.ศรีสะเกษ 

ประกอบด้วย อ.ศิลาลาด อ.ราษีไศล อ.ยางชุมน้อย อ.กันทรารมย์ และลงพื้นที่จุดเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบในพื้นที่ ต.ทาม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการผู้แทนหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ 

ผู้ว่าฯศรีสะเกษลุยตรวจสถานการณ์น้ำ หลังเขื่อนแตกที่มหาสารคาม

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เราได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนหัวนา และติดตามมวลน้ำจากจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งจากการวิเคราะห์ ทำให้ทราบว่าปริมาณน้ำจากอ่างห้วยเชียงคำ จ.มหาสารคามที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่อาจจะส่งผลกระทบต่อ จ.ศรีสะเกษ แต่ไม่มากนัก เพราะระดับลำน้ำมูลในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษสามารถรองรับมวลน้ำที่จะเข้ามาได้ 

ผู้ว่าฯศรีสะเกษลุยตรวจสถานการณ์น้ำ หลังเขื่อนแตกที่มหาสารคาม

ซึ่งในวันนี้เป็นการซักซ้อมการเตรียมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในห้วงขณะก่อนเกิดภัยทั้งในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอและจังหวัดได้ดำเนินการสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูลด้านน้ำด้านสภาพอากาศด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยตนได้เน้นย้ำหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทำงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบมุ่งเป้าและกำชับ 4 อำเภอที่จะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่มาจากมหาสารคามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเต็มที่ 

ผู้ว่าฯศรีสะเกษลุยตรวจสถานการณ์น้ำ หลังเขื่อนแตกที่มหาสารคาม

นายอนุพงศ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของประชาชน ขอให้ติดตามข่าวสารและรับการแจ้งเตือนจากทางหน่วยงานราชการทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอและจังหวัดเพื่อไม่ให้เกิดความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เป็นการสร้างความตระหนักให้กับประชาชนโดยเราจะใช้ข้อมูลมาบริหารจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งเรามั่นใจว่าหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนจะร่วมมือร่วมใจกันดูแลประชาชนเป็นอย่างดีและผ่านสถานการณ์ต่างๆ ไปด้วยกัน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส