ครอบครัวสาว ร้อง สตช.ถูก "พันตำรวจโท" ปีนบ้าน-ขู่ยิงยกครัว เบ่งไม่กลัวใคร เคยทำงานที่ใต้มา ขณะผู้การฯนนทบุรี จ่อเคลียร์ใจ บ่าย2วันนี้
วันนี้ (5 ส.ค.) กัน จอมพลัง ได้พา น.ส.เล็ก อายุ 30 ปี และน.ส.กี้ 46 ปี แฟนสาว (ทอม) พร้อมครอบครัวรวม 7 ชีวิต เดินทางเข้า ขอความเป็นธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังถูกครอบครัวเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นนายตำรวจยศพันตำรวจโท ปีนเข้าระเบียงบ้าน โดยมีหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิด พบว่าลูกชายของนายตำรวจคนดังกล่าวได้ปีนเข้ามาทางระเบียงบ้าน ซึ่งตรงกับห้องนอน เมื่อไปสอบถามผู้เป็นพ่อ ที่เป็นนายตำรวจยศใหญ่ กับแสดงความไม่พอใจและด่าทอพวกเธอกลับมา อีกทั้งยังมีการข่มขู่ว่าจะทำร้ายผู้เสียหายอีกด้วย
โดยน.ส.เล็ก เปิดเผยว่า ซื้อบ้านที่เกิดเหตุมานาน 6 ปีแล้ว และไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านเลย กระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเหมือนมีคนพยายาม จะเปิดประตูระเบียงบ้าน แต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นผี จึงไม่รู้สึกผิดสังเกต กระทั่งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม น.ส.กี้ ซึ่งเป็นแฟนสาว เห็นว่ามีชายที่เป็นผู้ใหญ่ กำลังปีนอยู่บนระเบียงชั้น 2จึงได้เรียกน้าสาวช่วยกันดู ยืนยันว่าเป็นนายตำรวจผู้เป็นพ่อ กำลังพยายามจะเปิดกระจก วันต่อมาจึงได้เข้าไปสอบถามว่าได้ปีนเข้าบ้านเธอหรือไม่ แต่นายตำรวจคนดังกล่าวกลับแสดงความไม่พอใจบอกว่าพวกตนไปกล่าวหาเขา เธอจึงยอมขอโทษเพราะเห็นว่าไม่มีหลักฐาน
หลังจากนั้นจึงได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณระเบียงดังกล่าว จนวันที่ 25 กรกฎาคม กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพลูกชายของนายตำรวจคนดังกล่าว ขณะกำลังปีนเข้าระเบียงบ้านเธอได้ จึงแจ้งนิติหมู่บ้านเข้าพูดคุยพร้อมกัน แต่คู่กรณียังคงแสดงความไม่พอใจพร้อมท้าว่า หากลูกของตนปีก็ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกเลยพร้อมบอกว่า ลูกของเขาเป็นเด็กพิเศษ หลังจากนั้นครอบครัวของเธอและครอบครัวของนายตำรวจก็มีการทะเลาะปากเสียงกันอยู่เป็นระยะ นายตำรวจมีการข่มขู่ว่าเดี๋ยวจะเอาปืนมายิงผ่านกระจกให้ตาย ตัวเธอจึงกลัวและได้พาครอบครัวทั้งหมดย้ายออกมาอยู่ข้างนอก เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากมีแต่ผู้หญิง
ส่วนตัวรู้สึกงงมากว่าเหตุใดจึงมาปีนที่ระเบียงตน ซึ่งตอนแรกมาซื้อบ้านเคยคุยบอกว่ารู้สึกปลอดภัยมาก ที่มาซื้อบ้านข้างตำรวจแต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้รู้สึกกลัว และมีคำพูดที่ข่มขู่ในลักษณะการจะขู่ยิงผ่านกระจกบ้าน ซึ่งหลังจากนั้นตนก็เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. ซึ่งตนรู้สึกเข็ดกับการซื้อบ้านแบบทาวน์โฮม เพราะไม่คิดว่าจะมีการปีนระเบียงกันเข้ามา
ขณะที่น.ส.กี้ ยืนยันว่า ชายคนที่เธอเห็นกำลังปีนบ้านเธอเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม คือ คนเป็นพ่อ ไม่ใช่ลูกชาย เพราะเห็นพร้อมกันกับน้าสาว และได้ตะโกนถามว่า สารวัตรมาทำอะไร แต่เขาไม่ตอบและปีนกลับเข้าบ้านของตัวเองไป
ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า แทนที่มีเพื่อนบ้านเป็นตำรวจจะรู้สึกปลอดภัยพึ่งพาอาศัยกัน ถ้าลูกเราทำจริงก็ขอโทษรับปากว่าจะดูลูกให้ถือว่าจะจบด้วยดี แต่กลับทำตัวยิ่งใหญ่ บอกว่าตัวเองมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เป็นตำรวจสัญญาบัตร หรือว่าไปทำงานที่ใต้มา ทำให้เรื่องไม่จบ คู่กรณีอยู่ได้แต่ผู้ที่เดือดร้อนกลับอยู่ไม่ได้ ต้องขนลูกขนหลานออกมาจากบ้าน หากเป็นพี่น้องประชาชนจะรู้สึกอย่างไร
นอกจากนี้ตำรวจที่ดีก็มีและคนดีมีเยอะด้วย แต่ถ้าทำแบบนี้ต้องนึกถึงภาพลักษณ์ของคนอื่นด้วย การที่เคยไปทำงานที่ใต้แล้วจะโวยวายทำอะไรก็ได้คงไม่ใช่ ซึ่งหากเขาเครียดจากงานและการเลี้ยงลูกที่เป็นเด็กพิเศษ ตนสามารถช่วยได้ แต่ไม่ควรมาระบายอารมณ์กับเพื่อนบ้านที่เขาไม่รู้เรื่อง
ซึ่งล่าสุด ได้ประสานไปยังผู้บังคับการจังหวัดนนทบุรี เพื่อพาผู้เสียหายเข้าไปพบ ซึ่งจะมีการนัดคู่กรณีมาพูดคุยกันว่าเกิดปัญหาอะไรอะไรเกิดขึ้น และจะสามารถหยุดพฤติกรรมแบบนี้ได้หรือไม่ ในเวลา 14.00น.
