พิพัฒน์ กำชับประกันสังคมเยียวยาด่วน 3 เหยื่ออุโมงค์ถล่ม

29 ส.ค. 67

พิพัฒน์ รมว.แรงงาน กำชับประกันสังคมเยียวยา 3 เหยื่ออุโมงค์ถล่มตามสิทธิ์ที่พึงได้รับโดยเร่งด่วน

​จากกรณีเกิดเหตุดินทรุดตัวภายในอุโมงค์รถไฟคลองไผ่ ช่วงคลองขนานจิตร ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้คนงานที่กำลังปฏิบัติงานขุดเจาะอุโมงค์ติดอยู่ภายใน 3 ราย ซึ่งล่าสุดเสียชีวิต 1 ราย กู้ภัยนำศพออกจากอุโมงค์ได้แล้ว และเร่งช่วยชีวิตอีก 2 คน

s__6217749_0

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยแรงงานที่ประสบเหตุ สั่งการนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือสิทธิกองทุนเงินทดแทนเหตุประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานเต็มที่

ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประสบเหตุเป็นลูกจ้างของบริษัท จงจู้ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ซอยหัวหมาก 23 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ประกอบกิจการก่อสร้างถนน สะพานและอุโมงค์ โดยผู้ประสบภัยทั้ง 3 คน เป็นลูกจ้างชาวต่างชาติ ชื่อ นายหูเสียงหมิ่น เพศชาย สัญชาติจีน (ผู้ควบคุมงาน) นายตงซิ่นหลิน เพศชาย สัญชาติจีน (ผู้ขับรถแบคโฮ) ส่วนอีกรายเป็นแรงงานชาวเมียนมา ไม่ทราบชื่อ (ผู้ขับรถบรรทุก)

1534019_0

ในเบื้องต้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน จะได้ค่ารักษาพยาบาล 65,000 บาท หากบาดเจ็บรุนแรงหรือเรื้อรังจ่ายไม่เกิน 165,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท และหากมีการหยุดงาน จะได้รับค่าทดแทนรายเดือน ร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกิน 14,000บาทต่อเดือน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงาน ได้ส่งกำลังใจให้ผู้ประสบเหตุและเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือได้โดยปลอดภัย ย้ำเตือนถึงคนงานทำงานด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาทอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขอให้มั่นใจว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมพร้อมดูแลช่วยเหลือลูกจ้างและผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างถูกต้อง ครบถ้วนและทันท่วงที.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส