ไทยคุมน้ำได้ชัวร์เดือนนี้ แต่ก.ย.ระวังพายุ-เอลนิโญมาเสริมกัน พังแน่!

29 ส.ค. 67

ไทยคุมน้ำได้! ผู้เชี่ยวชาญน้ำห่วงจ.สุโขทัยแช่น้ำยาว ฝากถึงพื้นที่ลุ่มต่ำ 3 จุด รีบขนของด่วน พร้อมเตือนช่วงก.ย. ถ้าพายุมา เอลนิโญเสริมทัพอีก รอบนี้ภาคอีสานไม่รอด!

นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการและผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำจากทีมกรุ๊ป ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ออนไลน์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยจังหวัดที่เผชิญสถานการณ์น้ำท่วมที่น่าห่วงมากที่สุด คือจังหวัดสุโขทัย เพราะรับน้ำจากจังหวัดแพร่ 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อน้ำผ่านมาที่สุโขทัย ก็ต้องผันน้ำ ปล่อยน้ำเข้าไปทำให้คันคลองที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทำให้คันคลองพัง ทำให้เกิดปัญหาหนัก เพราะมีน้ำเหลืออยู่ 800 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีการผันน้ำเข้าแก้มลิงบางระกำส่วนหนึ่ง ซึ่งก็ต้องค่อยๆ ปล่อยไป เพราะไม่เช่นนั้นชาวบ้านเดือดร้อน

1724935915532

โดยปริมาณน้ำที่ผ่านจังหวัดสุโขทัยที่มีขนาด 700-800 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังอยู่ในระดับทรงๆ อยู่ๆ ซึ่งถ้าดูจากต้นทางแถวห้วยสัก ก็เห็นได้ชัดว่าปริมาณน้ำลดลงมาก เช่นเดียวกับที่แพร่ที่น้ำลดลง ไม่กี่วันนี้น้ำคงไหลอยู่ในตลิ่งหมด ส่วนที่เหลือก็เป็นน้ำในทุ่งที่เอาเข้าไปฝากไว้ในทุ่ง แต่คราวนี้พอมาถึงที่ศรีสัชนาลัยยังยังไม่ค่อยลงเลย เรียกว่าแบบนั้นยังทรงตัวทรงตัวปริมาณที่ผันไปได้เพียงเท่านั้น จึงเห็น เหตุการณ์คันกั้นน้ําทยอยแตกหลายจุด ดังนั้นจึงฝากบอกให้ผู้เกี่ยวข้องคอยหมั่นสังเกตตรวจคันกั้นน้ำ ถ้าจะให้ดีหมั่นตรวจ 3 เวลาหลังอาหาร โดยเฉพาะบริเวณใกล้เมือง หรือ หมู่บ้าน เพราะหากคันพัง กระแสน้ำแรงเหมือนรถปิกอัพวิ่งชน

เมื่อถามว่ามวลน้ำกองที่สุโขทัยกี่วัน ทางคุณชวลิตตอบชัดๆว่า ประมาณ 3-4 วัน แต่ไม่ใช่ลดจะฮวบหายไปเลย น้ำท่วมกินเวลาต่ออีกอย่างน้อยก็สองสัปดาห์ จากนั้น มวลน้ำไหลไปทางพิจิตร ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง  และน้ำจะเดินทางต่อไปที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเมื่อชุมแสงถึงนครสวรรค์ปากน้ำโพ ก็ไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ เพราะว่าเป็นที่ที่ค่อนข้างจะกว้าง น้ำเข้าไปในพื้นที่ลุ่มต่ําและกระจายตัวออกไป

ส่วนสัปดาห์หน้า น้ำถึงไปถึงชัยนาท ทีนี้ยิ่งไม่ต้องห่วง มีเขื่อนเจ้าพระยาที่สามารถอัดน้ำเข้าไปทางระบบชลประทานในตะวันตกและตะวันออก ซึ่งเป็นการกระจายน้ำเข้าไปในพื้นที่ระบบชลประทานเจ้าพระยาใหญ่ ซึ่งหากน้ำมาถึง 2000 ลูกบากศ์เมตรก็ยังจัดการได้ เพราะเรามีอุปกรณ์ที่ดี

1724935345010

แต่ก็มีจุดที่ต้องระวัง อย่างพื้นที่ด้านล่างของเขื่อนที่ต้องรับน้ําเพิ่ม จะเป็นคนในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมี 3 จุด คือ โพงเพง เสนา บางบาล ที่จะต้องขนของขึ้นที่สูง เพราะจะมีการทยอยปล่อยน้ำ 700-1000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงว่าน้ำจะถึงอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะไม่ถึงแน่ๆ เพราะน้ำก้อนนี้กระจายตัวในระบบชลประทานใหญ่ไปแล้ว

ส่วนที่กังวลกันมากคือแถบกทม.และปริมณฑล ตรงนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำบอกชัด คนปทุมธานี นนทบุรี กทม. และสมุทรปราการ ไม่ต้องไปห่วง ปริมาณน้ําอัตราการไหลก็คงจะลงมาในอัตราประมาณ 1000 ถึง 1200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในขณะที่รูปตัดลําน้ําตัวเจ้าพระยาปทุม กรุงเทพฯ ก็ได้ขนาด 2000 ถึง 2500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขึ้นอยู่กับน้ําทะเลขึ้นลงด้วย ยืนยันชัดๆ ว่าไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่แน่ เพราะมวลน้ำก้อนนี้ไม่ใหญ่ ซึ่งน้ำในทุ่งตอนนี้มีน้อย เพิ่งเป็นน้ำชุดนี้ที่ปล่อยน้ำเข้าทุ่ง ดังนั้นน้ำแผ่ไปได้ไม่ไกล เพราะพื้นที่ในระบบชลประทานของไทยมีถึง 7 ล้านไร่ ถือว่ามีมาก และเรายังมีพื้นที่ที่จะปล่อยน้ำเข้าไปฝากไว้ และเกษตรกรไม่เดือดร้อน ซึ่งเราคุมน้ำได้

1724935758533

ส่วนเรื่องสถานการณ์ฟ้าฝนปีนี้ จะซ้ำรอยปี 54 หรือไม่ ทางผู้เชี่ยวชาญบอกถ้าเทียบกับปริมาณน้ำจริงๆ ยังไม่ถึง 1 ใน 4 ของปี 54 เพราะฝนที่เกิดขึ้น เพราะน้ำที่มาจากแม่น้ำยมขาเดียวเท่านั้น เพราะมวลน้ำที่ทำให้ท่วมจริงๆ ต้องมีฝนตกติดต่อกันเกิน 5 วัน  คือ ตกหนัก 100 มิลลิเมตรขึ้น 3 วัน และ 200 มิลลิเมตรขึ้นไปอีก 2 วัน แต่หลังจากวันที่ 30 สิงหาคมไป ฝนตกน้อยลง จะไปเจอฝนอีกที่ช่วงเดือนกันยายน พร้อมทั้งบอกว่า อยากให้เงี่ยหูฟัง ช่วงเดือนกันยายน พายุถ้ามาก็มาตามธรรมชาติ ถ้าหากพายุมา 2 ลูกติดกัน อันนั้นน้ำท่วมแน่ๆ แล้วถ้าดันมีปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เลื่อนเวลาจากกรกฎาคม มาประมาณปลายเดือนกันยายน ซึ่งถ้ามาพร้อมๆ กัน คือมาเสริม ทำให้ฝนมากน้ำมาก ซึ่งจะทำให้พายุผ่านฟิลิปปินส์มาทะเลจีนใต้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งผ่านทะเลมาพายุยิ่งมีพลังมาก มีแรงลมส่ง พอขึ้นฝั่งเวียดนามวันเดียว อาจจะทำให้ภาคอีสานน้ำท่วมได้

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส