แท็กซี่สุดหื่น หวังเคลมลูกสะใภ้ ออกอุบายเคลียร์เรื่องคลิปลับ

31 ส.ค. 67

แท็กซี่สุดหื่น หวังเคลมลูกสะใภ้ ออกอุบายเคลียร์เรื่องคลิปลับ ก่อนรับมาคุยที่ห้อง แต่ดิ้นหลุด พลเมืองดีเข้าช่วยถูกกระทืบสลบ ก่อนคนร้ายหลบหนีลอยนวล

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 30 ส.ค. 67 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดองนาง พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายบริเวณลานจอดรถร้านสะดวกซื้อ ภายในซอยร่วมพัฒนาแยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 100 หรือ ซอยวัดใหญ่บางปลากด หมู่ที่ 3 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 

ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถ พบกลุ่มชาวบ้านยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีนายวัฒนะ วงศ์คง อายุ 31 ปี มีใบหน้าบวมปูด และศีรษะบวมโน และนายป้อม หิรัญวงศ์ อายุ 30 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมมี น.ส.แบมนามสมมติ อายุ16 ปี ผู้เสียหายยืนร้องให้ตัวสั่นอยู่ด้วย 

นายวัฒนะ ซึ่งเป็นพลเมืองดี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยนายป้อมและเพื่อนรุ่นพี่อีก 1 คน นั่งดื่มเบียร์กันอยู่หน้าห้องเช่า ภายในซอยร่วมพัฒนา แยกที่ 1 ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 100 เมตร ในระหว่างที่พวกตนนั่งคุยกัน ได้มีหญิงสาวผู้เสียหายที่ชื่อน้องแบมเดินออกมาจากห้องที่ 3 ในสภาพเนื้อตัวสั่นน้ำตาคลอเบ้า ก่อนที่จะถามพวกตนว่า มีโทรศัพท์ไหมว่าจะขอโทรหาพ่อให้มารับหน่อย เป็นจังหวะที่มีชายวัยกลางคน ซึ่งตนทราบภายหลังว่าเป็นพ่อสามีของน้องแบมเดินตามออกมา ก่อนที่จะมาหาเรื่อง พร้อมตะคอกใส่พวกตนว่า อย่ามายุ่งก่อนที่จะดึงมือน้องแบมเดินออกไปทางปากซอย 

ในระหว่างนั้นตนเห็นมือของน้องแบมพยายามกวักเรียกพวกตนหลายครั้ง ตนเห็นว่าน่าจะเกิดเรื่องที่ไม่มีขึ้น จึงขี่รถจักรยานยนต์ และปั่นรถจักรยานตามกันออกไป เมื่อไปถึงบริเวณลานจอดรถด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ เห็นน้องแบมกำลังขึ้นไปนั่งในรถแท็กซี่ที่จอดติดเครื่องอยู่ ก่อนที่พ่อสามีของน้องแบมทราบชื่อภายหลัง นายสุทัศน์ อายุ 46 ปี จะเดินปรี่มาหาเรื่องพวกตน พร้อมท้าทายและด่าหยาบคาย ก่อนที่จะถูกสาวหมัดแลกใส่กันยับ 

โดยมีภรรยาของตนถ่ายคลิปไว้ได้เกือบทั้งหมด แต่ตนสู้ไม่ได้ถูกต่อย และกระทืบจนสลบ ก่อนที่นายป้อมเดินทางมาถึงจึงได้ช่วยตนไว้ ได้พร้อมพยายามช่วยจับตัวนายสุทัศน์ แต่ไม่ทันวิ่งหลบหนีไปก่อน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาตรวจสอบ พร้อมช่วยเหลือหลังจากที่สอบถามข้อมูลชนวนเหตุเบื้องต้นแล้วจึงได้เดินทางไปยังห้องเช่าภายในซอยร่วมพัฒนา แยกที่ 1 บริเวณชั้นล่างห้องที่ 3ซึ่ งเป็นห้องที่น้องถูกก่อนเหตุ 

โดยน้องแบม เล่าว่า ตนเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่าน อ.พระประแดง โดยได้คบหากับลูกชายของนายสุทัศน์มานานกว่า 1 ปี ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาหลังจากที่ตนกลับจากโรงเรียน ผู้ก่อเหตุได้ขับรถแท็กซี่มารับตนที่บ้านภายในซอยริมคลองแยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 80 ซอยโกเบ ว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ก่อนที่จะพาขึ้นรถขับกลับมาที่ห้องของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ ในระหว่างทางผู้ก่อเหตุได้พูดจาถามไถ่ตนในเรื่องที่ลูกชายเคยมีแฟนมาแล้ว และพูดคุยอ้างถึงเรื่องคลิปลับที่ผู้ก่อเหตุแอบซ่อนกล้องไว้ในห้องเช่าที่อยู่ก่อนหน้านี้ในเขตราษฎร์บูรณะ ก่อนที่จะย้ายมายังในซอยสุขสวัสดิ์ 100 ได้ประมาณ 2-3 เดือนว่าได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่ตนมีอะไรกับลูกชายหลายครั้ง และยังได้เฝ้าดูพฤติการณ์ของพวกตนมาโดยตลอด กระทั่งมาถึงห้องผู้ก่อเหตุได้ให้ตนเดินเข้าไปรอในห้องส่วนผู้ก่อเหตุจะตามไปที่หลัง 

กระทั่งผู้ก่อเหตุเดินมาถึงที่ห้องได้พูดคุยอ้างถึงเรื่องคลิปหลายครั้งว่าจะให้ทำอย่างไร หรือจะให้ปล่อยคลิปลงโซเชียลดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยให้แฟนตนหักการ์ดทิ้งไปแล้ว 1 อัน ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นการ์ดอะไร และไม่เคยเห็นคลิปและกล้องวงจรปิดเลย ตนได้แค่พูดว่าแล้วแต่พ่อเถอะ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุกลับพูดว่ามีความรู้สึกกับตนมากกว่าลูกสะใภ้ ก่อนที่จะเดินเข้ามาดึงตัวตนเข้าไปกอดพร้อมจูบที่หน้าผากและใบหน้า ตนพยายามดิ้นหนีพร้อมขอร้องว่าอย่าทำตนเลย แต่ผู้ก่อเหตุไม่สนใจ ก่อนที่จะพยายามกอดพร้อมไล่จูบที่ใบหน้าและพยายามจูบปากแบบแลกลิ้น แต่ตนได้พยายามผลักตัวผู้ก่อเหตุออก พร้อมพูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานาก่อนที่จะสะบัดตัวหนีออกมาจากห้องได้ จึงเดินไปของยืมโทรศัพท์กับพี่ที่นั่งดื่มอยู่หน้าห้องเช่า เพื่อจะโทรแจ้งพ่อของตนให้มารับ แต่ผู้ก่อเหตุตามมาทัน ก่อนจะกระชากแขนตนให้เดินพ้นจากกลุ่มวงเหล้านี้ ตนรู้สึกกลัวจึงได้พยายามกวักมือเรียกพวกพี่ที่นั่งดื่นเหล้าให้มาช่วย กระทั่งมาถึงลานจอดรถจึงเกิดการชกต่อยกันและผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป 

ทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุ พร้อมเชิญผู้เสียหายและพลเมืองดีไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ พร้อมส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรวบรวมหลักฐานก่อนที่จะออกหมายเรียกนายสุทัศน์ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ในส่วนพลเมืองดีที่เข้าไปช่วยให้แจ้งความลงบันทึกประจำวันในข้อหาถูกทำร้ายร่างกาย และไปตรวจสอบร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อดำเนินการตามคดีต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส