รวบแก๊งปลอมเป็นตำรวจ หลอกวิดีโอคอล ลวงโอนเงิน

รวบแก๊งปลอมเป็นตำรวจ ลวงผู้เสียหายวิดีโอคอลผ่านไลน์ ก่อนหลอกโอนเงินสูญ 4 แสน

วันนี้ (19 ก.ย.) พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม นำกำลังฝ่ายสืบสวนจับกุมตัว นายชิษนุพงศ์ พู่สกุล อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 793/2567 ลงวันที่ 30 ส.ค.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่นร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม,และเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องพักไม่มีบ้านเลขที่ บ้านนาบอน หมู่ที่ 8 ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ได้มีคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อมาหา ผู้เสียหายเพื่อแจ้ง เป็นพนักงานธนาคารกรุงไทย โดยใช้อุบายหลอกลวง ว่า ชื่อของผู้เสียหายถูกแอบอ้างไปทำบัตรเครดิตมียอดค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาท และยอดค้างอีกประมาณ 89,000 บาท จากนั้นมีการโอนสายโทรศัพท์ ให้ผู้เสียหายคุยกับคนร้ายอีก 1 รายซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครสวรรค์ โดยมีการแลกไลน์ไป เพื่อสนทนาเป็นข้อความและมีการโทรผ่านวิดีโอคอล ทางแอปพลิเคชั่นไลน์ เพื่อแสดงว่า บุคคลที่ติดต่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และถูกหลอกให้ โอนเงินสดจำนวนกว่า 400,000 บาท เข้าบัญชี นายชิษนุพงศ์ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งใช้เป็นบัญชีม้า ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่าถูกหลอกและเดินทางมาแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า นายชิษนุพงศ์ เจ้าของบัญชี พักอยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการออกหมายจับและติดตามจับกลุ่มตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่า มีคนมาว่าจ้างให้เปิดบัญชีเท่านั้น และได้ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน จึงได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป