ครูหนุ่มแวะซดข้างทาง ก่อนวนชนดะอยู่ 3 รอบ สรุปเมาไหม?

21 ก.ย. 67

ครูหนุ่มกลับจากงานเกษียณแวะซดเบียร์ต่อ ก่อนซิ่งกระบะย้อนศรชนดะวนไป 3 รอบ รถพัง 4 คัน ก่อนขับหนี สรุปครูไม่เมา คนมันง่วง!

จากเหตุการณ์ที่ ครูหนุ่มที่บุรีรัมย์กลับจากงานเลี้ยงเกษียณ แวะซดเบียร์ที่ร้านอีก 2 ขวด  บ่นน้อยใจ ผอ.ไม่รับไหว้บอกคนในร้าน “ตบผมหน่อย”   เจ้าของร้านเห็นท่าไม่ดีประคองขึ้นรถ   ก่อนซิ่งกระบะวนไปมาย้อนศรชนดะ จยย.พนักงาน และรถยนต์ที่จอดดูเหตุการณ์พังยับ 4 คันชาวบ้านกระโดดหนีตายวุ่น   หลังก่อเหตุยังขับหนี ตร.-กู้ภัยไล่ล่าเกือบ 20 กม.  เจ้าตัวบอกแค่เข้าใจผิดไม่ได้เมา  แต่ขอนอนพักที่ห้องสอบสวนเพราะเพลีย

ล่าสุด พ.ต.ท.ประยูร    ฤทธิ์ตา   สารวัตรสอบสวน สภ.แคนดง   จ.บุรีรัมย์  ได้นำตัวนายพีช   อายุ 27 ปี  ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แคนดง  มาสอบปากคำ  หลังจากครูพีช   ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ  สีฟ้า  ติดหลังคาแครี่บอย         ไปชนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง  ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายแคนดง – สตึก ในเขตเทศบาลแคนดง  ต.แคนดง อ.แคนดง  เมื่อเวลาประมาณ 01.44 น. ที่ผ่านมา   จนรถจักรยานยนต์ของพนักงานซึ่งจอดอยู่หน้าร้านพังเสียหาย 3 คัน  ทั้งยังย้อนศรกลับมารอบที่สองหวิดชนเจ้าของร้านและพนักงาน ที่ออกมายืนดูเหตุการณ์และรถที่พังเสียหาย   ต่างพากันกระโดดหลบหนีเอาชีวิตรอดด้วยความตื่นตกใจ   แต่ครูหนุ่มคนดังกล่าวก็ยังขับรถคันเดิมวนกลับมาเป็นรอบที่ 3 ชนรถกระบะของร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ที่จอดดูเหตุการณ์อยู่ข้างทาง  จนพังเสียหายอีก 1 คัน รวมเป็น 4 คัน

หลังจากก่อเหตุชนรถพัง 4 คันแล้ว  ครูหนุ่มคนดังกล่าวก็ขับรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุหลบหนี  มุ่งไปทาง อ.คูเมือง   หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง  และหน่วยกู้ภัย  ก็ได้ขับรถไล่ล่าติดตามไปไกลประมาณ 20 กิโลเมตร กระทั่งไปพบจอดรถทิ้งไว้ในพื้นที่ ต.บ้านแพ อ.คูเมือง  แล้วหลบไปอยู่ที่บ้านญาติ  เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวกลับมาที่โรงพัก 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย พบระดับแอลกอฮอล์ 35 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์   ซึ่งยังไม่เกินกฎหมายกำหนด  แต่อย่างไรก็ตามก็ได้ให้ทาง รพ.เจาะเลือดส่งตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายตามขั้นตอนอีกครั้ง  คาดว่ารอผลตรวจ 1-2 สัปดาห์

จากการสอบถามนายนัฐพงศ์   หรือโอม  อายุ 33 ปี เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ  เล่าว่า  นายพีช หรือครูพีช  เคยมานั่งดื่มกินที่ร้าน 2-3 ครั้ง  ซึ่งร้านตนจะเปิดขายอาหารและเครื่องดื่มตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 6 ทุ่ม  ซึ่งก่อนเกิดเหตุครูพีช ก็แวะมานั่งสั่งเบียร์ที่ร้านดื่ม 2 ขวด   ตอนนั้นตนปิดร้านแล้ว  แต่ยังนั่งเล่นและทำพิชซ่ากินกันกับเพื่อน และพนักงานร้าน  ครูพีช บอกว่า  เพิ่งมาจากงานเลี้ยงเกษียณที่ ร.ร.มัธยมแห่งหนึ่ง  แต่แวะมาดื่มเบียร์ก่อนจะกลับบ้าน  พอดื่มได้สักพักเขาก็เหมือนจะระบายความในใจ ในลักษณะบ่นน้อยใจว่ายกมือไหว้ ผอ. แต่เขาไม่รับไหว้   แล้วจู่ๆ เขาก็บอกให้เพื่อนตน “ตบหน้าเขาหน่อย หรือจะชกก็ได้”   ตนเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงประคองเขาออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้านเขาก็ร้องไห้ฟูมฟาย  ตนก็พยายามปลอบและบอกเขาขึ้นรถกลับบ้าน   แล้วตนก็กลับไปนั่งเล่นกับเพื่อนๆ และพนักงานในร้านต่อ  สักพักได้ยินเสียงรถชนดังโครมหน้าร้านจึงออกไปดู   ก็เห็นรถของครูพีชชน จยย.พนักงานล้มกระจัดกระจายพังเสียหาย 3 คัน  จังหวะที่ยืนดูอยู่  รถครูพีชก็ขับย้อนศรกลับมาอย่างเร็วลักษณะเหมือนจะพุ่งเข้าใส่ตนกับเพื่อนและพนักงานต่างกระโดดหลบเอาตัวรอดด้วยความตื่นตกใจ   แต่เขาก็ยังไม่หยุดยังวนรถกลับมาเป็นรอบที่สาม  ชนรถยนต์ของร้านขายแบตเตอรี่เสียหายอีก  ก่อนจะขับหนีไปโดยไม่จอดลงมาดูเลย   ตอนนั้นพวกตนก็งงและตกใจไม่รู้ว่าทำไมครูพีช  ถึงขับพุ่งชนไปมาถึง 3 รอบ เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน   แต่เขาจะเมาหรือไม่เมาตนไม่ทราบแต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ   ก็อยากให้เขารับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งค่าเสียเวลาด้วย   

ขณะที่วัชระ    จามิกร  อายุ 44 ปี  เจ้าของรถกระบะที่ถูกชนเสียหาย  เล่าว่า  วันนั้นตนขับรถดูน้ำท่วมถนน แล้วเห็นว่ามีอุบัติเหตุรถชน จยย.หน้าร้านอาหารพังเสียหายถึง 3 คัน  แล้วรถคันที่ชน จยย.ก็วนกลับมารอบที่ 3 มาชนรถยนต์ของตนที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายอีก  ก็อยากให้รับผิดชอบ

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.แคนดง   ทราบว่าพนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำอยู่   ทีมข่าวก็ได้สอบถามครูพีชว่าเกิดอะไรขึ้น  ครูพีชตอบแค่ว่าแค่เข้าใจผิดกันแต่คุยกันแล้ว  แต่พอถามว่าทำไมถึงวนไปมาชนถึง 3 รอบ  ครูพีช บอกว่าไม่ได้เมาแค่ง่วง แล้วก็ขออนุญาตนอนพักผ่อนในห้องร้อยเวรฯ เพราะเพลีย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา "ขับรถด้วยความประมาทหวาดเสียวชนรถผู้อื่นทำให้ทรัพย์เสียหาย"  ส่วนจะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมก็ต้องรอพยานหลักฐานเพิ่มเติม  

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส