แม่เล็ก แสงเดือน โพสต์ลา "พลายขุนเดช-พลายดอกแก้ว" รับไม่อยากให้เขาไป

"แม่เล็ก แสงเดือน" โพสต์ลาพลายขุนเดช-พลายดอกแก้ว รับไม่ได้ที่ถูกคุกคามรอบด้าน แต่อีกใจก็ไม่อยากให้เขาไป

ความคืบหน้ากรณีดรามาเรื่องช้าง 2 เชือก ระหว่าง แม่เล็ก แสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง (Elephant Nature Park) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม กับ หนูนา กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลังแม่เล็กได้โพสต์ขอร้องให้คุณหนูนา มารับ 2 เชือกที่ฝากเลี้ยงไว้นานนับ 10 ปี นั่นก็คือ พลายขุนเดช และพลายดอกแก้วไปเลี้ยงในสถานที่ที่คิดว่าเหมาะสมกว่าที่ปางช้างภายใน Elephant Nature Park ต่อมา น.ส.กัญจนา ได้ติดต่อให้ทีมควาญช้าง ทีมร่มแดนช้าง ทีมปางช้างแม่แตง ทีมหมอสถาบันคชบาลฯ ไปเคลื่อนย้ายช้างทั้ง 2 เชือก เพื่อไปพักที่ร่มแดนช้างเชียงใหม่ เป็นการเบื้องต้น แต่การปฏิบัติการเคลื่อนย้ายต้องหยุดชะงัก เพราะเนื่องจากเป็นเวลาค่ำและช้างทั้ง 2 เชือก ยังไม่คุ้นเคยกับควาญช้าง ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น




ล่าสุด แม่เล็ก แสงเดือน ได้โพสต์ข้อความถึงพลายขุนเดชและพลายดอกแก้ว ว่า น้องขุนเดชเป็นช้างพลายที่บาดเจ็บที่เท้าหน้า สาเหตุเท่าที่ทราบน่าจะมาจากแร้วกับดัก จากภาพที่พบวันแรกของกรมอุทยานฯ น้องผอมมากแต่น้องแข็งแกร่งต่อสู้ชีวิตจนรอด

ขุนเดชเป็นช้างของกรมอุทยานฯ และคุณหนูนาได้นำมาฝากเลี้ยงที่มูลนิธิฯ เมื่อสิบปีที่แล้ว เมื่อมาถึงที่มูลนิธิน้องได้รับการต้อนรับจากแม่รับช้างทันที แม่รับทุกตัวต่างหลงรักขุนเดช เนื่องจากเท้าของขุนเดชมีแผลใหญ่ลึกมากทางเราต้องดูแลรักษาล้างแผลใส่ยาทุกวัน พวกเราต้องสั่งตัดถุงเท้าชนิดพิเศษที่เป็นผ้าฝ้ายพื้นหนังเทียมให้ขุนเดชใส่ทุกวัน ตอนที่มาแรกๆ แผลยังไม่ค่อยแห้ง ใช้ถุงเท้าวันละสามถุง แต่หลังจากนั้นแผลเริ่มดีขึ้นใส่ถุงเท้าวันละสองครั้งเช้าเย็น และใช้พลาสเตอร์ยืดอย่างน้อยเดือนละสองร้อยม้วนในการปิดร่องถุงเท้าป้องกันเท้าสกปรก

คุณหมอทุกท่านช่วยกันดูแลขุนเดชทุกวันอย่างดี ขุนเดชมีรองเท้าหลายคู่ และมีขาเทียมเสริมเกราะที่ผลิตโดยช่างทำขาเทียมสัตว์ชั้นนำจากอเมริกา ตอนนี้ขาดเทียมนั้นได้หายไปกับน้ำหมดแล้ว

แม่เล็ก แสงเดือน ยังระบุอีกว่า น้องไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างที่มีการเอาไปกล่าวหา น้องสามารถสร้างปฎิสัมพันธ์กับช้างที่อยู่ในรอบๆ บริเวณ ดิฉันขอให้คนที่นำข้อมูลไปลงข่าวขอให้กรุณาหยุดสร้างข่าวเท็จและสร้างความสับสนให้กับสังคม ซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับช้างแต่อย่างใด พวกเราเลี้ยงและดูแลน้องมานาน พวกเราย่อมรักและผูกพันจากการที่ดูแลน้องทุกวัน แต่การที่พวกเราถูกคุกคามจากรอบด้านเราไม่อาจที่จะยอมรับได้อีกต่อไป

สำหรับพลายทั้งสองทั้งขุนเดชและดอกแก้ว ถ้าท่านยังไม่สามารถหาพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะให้น้องอยู่ได้ ก็สามารถประสานมาได้ค่ะ น้องสามารถอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้บ้านที่ดีกว่าที่อยู่กับพวกเรา เพียงแต่ต้องการให้มีการสื่อสารต่อคนรอบข้างให้เข้าใจชัดเจนถึงสภาพความเป็นอยู่ตามข้อเท็จจริง ไม่ไปบิดเบือนชีวิตความเป็นอยู่ของน้องสู่สังคม ขอบคุณค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มแฟนคลับของคนรักช้าง เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจมากมาย แต่ถึงที่สุด แม่เล็ก แสงเดือน ได้คอมเมนต์ตอบกลับไปว่า "ไม่อยากให้เขาไปค่ะ แต่..."