ลีซอ โอด ผมก็ผู้เสียหายเหมือนกัน เผยสาเหตุลงทุน เพราะความสงสาร

15 ต.ค. 67

ลีซอ รับเคยเป็นดีลเลอร์ ดิไอคอน แต่ได้รับความผู้เสียหาย บอกไม่มีลูกข่าย ไม่เคยขายของ เผยสาเหตุลงทุน เพราะความสงสาร

วันที่ 15 ต.ค. 67 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานาย ธีรเทพ วิโนทัย หรือ ลีซอ อายุ 39 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติ เข้าให้ข้อมูลกับพงส.บก.ปคบ. กรณี ดิไอคอนกรุ๊ป 

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีประเด็นของภาพนาย ลีซอที่มีการเผยแพร่พร้อมตั้งคำถามว่า เป็นผู้เสียหายหรือเป็นแม่ทีมกันแน่ ต่อมาเมื่อวานนี้ทางภรรยาของนายลีซอก็มีการเดินทางเข้ามาให้ปากคำไปแล้ว วันนี้นายลีซอจึงเดินทางเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมายืนยันความบริสุทธิ์ใจ 

เบื้องต้นของที่นายลีซอสต็อกมาไม่ได้ปล่อยออก และยังไม่ได้หาลูกทีม ก็จะเป็นเหมือนคนทั่วๆไป ที่เปิดดีลเลอร์และไม่ได้ปล่อยของ นอกจากนี้ในวันนี้ยังพาอีกท่านหนึ่งที่เป็นอดีตผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวมาด้วย เนื่องจากขณะที่อดีตผู้บริหารดังกล่าวออกรายการโหนกระแสอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดต่อมาว่า อยากได้คนนี้มาให้ปากคำ เนื่องจากคาดว่าบุคคลดังดล่าวจะมีข้อมูลเยอะ 

ลีซอ รับเคยเป็นดีลเลอร์ ดิไอคอน เผยสาเหตุลงทุน เพราะความสงสาร

ด้านนาย ลีซอ กล่าวว่า วันนี้มาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากไม่ได้มีการส่งต่อ หรือหาลูกทีมใดๆ โดยเหตุผลที่ตนไปเจอกับ บอสพอล เนื่องจากตนได้รู้จักกับแม่ข่ายคนหนึ่งเป็นการส่วนตัว และก็มีโอกาสพูดคุยกัน โดยเริ่มแรกได้พูดคุยกันในส่วนของที่ตรวจATK เพราะภรรยามีการทำธุรกิจเกี่ยวกับATK เเม่ข่ายคนดังกล่าวก็ได้มีการชักชวนให้เข้าไปพูดคุยกันต่อในออฟฟิศ ซึ่งตนคิดว่าจะพูดคุยกันในส่วนของธุรกิจภรรยา จึงเดินทางไปด้วย แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าแม่ข่ายคนดังกล่าวพยายามชักชวน และพูดถึงสินค้า รวมถึงการลงทุนของดิไอคอน ระหว่างนั้นตนก็ได้พบกับ บอสพอล โดยบอสพอลได้มีการขอถ่ายรูปกับตน และตนไม่ได้คิดอะไรจึงถ่ายไป 

ยืนยันว่าครั้งนั้นเป็นการเจอกันครั้งแรกและครั้งเดียว หลังจากที่ตนได้ถูกชักชวนและโน้มน้าวจากแม่ข่ายคนสนิท ก็ตัดสินใจร่วมลงทุน เนื่องจากคิดว่าเป็นคนสนิทก็ช่วยๆไป โดยตนได้ลงทุนไปจำนวนเกิน 220,000 บาท เนื่องจากตอนนั้นมีโปรโมชั่น โดยเป็นการสต็อกสินค้าคอลลาเจนจำนวนประมาณ 10 ลัง ซึ่งตนไม่ได้รับของมา เป็นการสต็อกของเอาไว้ที่บริษัท ทางด้านฝั่งนั้นให้ความเชื่อมั่นว่าไม่ต้องห่วง เหมือนกับเคสของผู้เสียหายหลายๆ คน ตนไม่เคยขายของออกไป เพราะไม่ได้ตั้งใจจะขายตั้งแต่แรก และจากที่ตนตรวจสอบทางบริษัทมีการขายสินค้าดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์ในราคาที่ถูก แต่ขายให้กับดีลเลอร์ในราคาที่ต่างกัน ตนมองว่าหากจะขายปลีกก็ขายลำบาก และไม่ใช่เส้นทางของตนจึงไม่ได้มีการริเริ่ม 

โดยวันที่ตนเข้าไปพบแม่ข่ายคนสนิทที่ออฟฟิศ มีรถซุปเปอร์คาร์จอดอยู่ประมาณหนึ่ง ในตอนนั้นดูเหมือนน่าเชื่อถือ เมื่อตนทราบข่าวก็ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เพราะเป็นสิ่งที่หากเขาทำก็ต้องยอมรับในเหตุผลที่เขาทำ ในวันนี้ตนก็มาในฐานะผู้เสียหาย เนื่องจากรู้สึกว่าทางบริษัทไม่ได้บอกข้อมูลตนทั้งหมด 

เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับแม่ขายคนสนิทเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ นาย ลีซอ ระบุว่า ตนไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้ แต่พบเจอก็ทักทายกันปกติ ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ได้ติดใจอะไร ที่ตัดสินใจลงทุน เพราะเป็นขี้สงสารและคนชอบช่วยเหลือคนสนิทอยู่แล้ว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส