"เฌอเอม" เปิดใจคัมแบ็กเวทีมิสแกรนด์ กลับมาครั้งนี้! ถ้าต้องสู้อย่างหมาจนตรอกก็ต้องทำ

18 ต.ค. 67

ความฝันไม่มีวันหมดอายุ! เฌอเอม ชญาธนุส เปิดใจคัมแบ็กเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ หลังก่อนหน้านี้เคย "สูญเสียความภูมิใจ" ลั่นกลับมาครั้งนี้! ถ้าต้องสู้อย่างหมาจนตรอกก็ต้องทำ เผยความรู้สึกแฟนนางงามคาดหวังมงแรกมิสแกรนด์อินเตอร์ฯของไทย

 

เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์แฟนนางงามเป็นอย่างมาก! สำหรับ เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ ที่ได้ประกาศ ROAD TO มิสแกรนด์ขอนแก่น 2025 กลับมาลงประกวดชิงมงทองอีกครั้ง ถึงที่ผ่านมาแม้จะชวดมงกุฏมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 ไปนั้น แต่หลายคนก็ยังเชียร์ให้เจ้าตัวกลับมาประกวดอีกครั้ง

ล่าสุด เฌอเอม ชญาธนุส ก็ได้เปิดใจกับทีมข่าวบันเทิงอมรินทร์ออนไลน์ ถึงความรู้สึกในการกลับมาประกวดครั้งนี้ หลังจากที่เคยสูญเสียความมั่นใจว่า “ถ้าครั้งนี้ต้องสู้อย่างหมาจนตรอกก็ต้องทำ” อีกทั้งยังได้เผยความรู้สึกหลังแฟนนางงามหลายคนมองไปไกลอาจจะเป็นนางงามที่ได้มงกุฎแรกของไทย ในเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลอีกด้วย

เฌอเอม ชญาธนุส

อะไรที่ทำให้เราอยากกลับมาประกวดอีกครั้ง?
เอาตรงๆคือก่อนหน้านี้มีภาวะที่ซึมเศร้าแล้วก็รู้สึกสูญเสียตัวตน จากการที่เราพยายามที่จะเข้ากับรสนิยมการเล่นโซเชียลของคนรุ่นใหม่ ซึ่งความจริงแล้วการปรับตัวเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่ว่าเราอาจจะทำมันแบบเร็วเกินไป และกดดันตัวเองมากๆ จนมันมาถึงจุดที่เราแตกสลาย ไม่แน่ใจว่าเราจะกลับมารักตัวเองอีกครั้งได้ยังไง มันมีวันที่เรารู้สึกว่ากับนางงามมันเหนื่อยมาก เราอาจจะยังมีสัก 1 เปอร์เซ็นต์ที่อยากกลับมาอยู่ตรงนี้ แต่ 99 เปอร์เซ็นต์ เราคิดว่าเราหมดก๊อกแล้ว มันเหมือนนี่คือน้ำหยดสุดท้าย ที่มันไม่อาจจะหยดออกมาได้อีกแล้ว

แล้ววันหนึ่งเหมือนเราแค่ตื่นขึ้นมาแล้วเราคิดถึง ชีวิตสมัยเป็นนางงามถ้าเป็นตอนนี้เมื่อก่อนเราคงทำอย่างโน้นอย่างนี้อยู่เนอะ เราก็เลยรู้สึกว่าจริงๆแล้วการเป็นนางงามมันไม่ได้ดีหรือว่าแย่แต่มันอยู่ที่ว่าเราเอาสิ่งนั้นมาสอนชีวิตเรายังไง แล้วเราก็คือว่าด้วยสภาวะที่เราเป็นตอนนั้น ที่มันพยายามจะเป็นให้ได้ทุกอย่างสำหรับทุกคน เราอยากจะลองเริ่มต้นใหม่ในแบบที่ ให้เรารู้จักรักตัวเองมากขึ้น ก็คือเราอยากจะเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน แต่เป็นในแบบสำหรับคนที่มองหาในสิ่งที่เป็นเรา

ก็คือบางทีเราอาจจะไม่ได้แมสเราอาจจะไม่ได้เข้าถึงไปหมด เราอาจจะไม่ได้ง่าย แต่เราต้องหาจุดที่ทำให้โลกรู้สึกได้ว่ามันยังมีด้านนี้อยู่นะ แล้วการที่เห็นคนคนนี้ในบางทีมันเยียวยาเขา มันคอนเน็กกับเขาแล้วสิ่งเหล่านี้จะมาช่วยเอมว่าเอมยังมีอะไรดีๆเหลืออยู่ในตัวบ้าง เพราะก่อนหน้านี้มันมีอะไรที่พอเอมทำได้ไม่เก่งมากพอ มันไม่ได้ตรงจริตเรามากพอเรารู้สึกว่าเราไม่มีค่าอะไรเลย

เฌอเอม ชญาธนุส

การกลับมาครั้งนี้มันยิ่งใหญ่แค่ไหนกับชีวิตเฌอเอม?
เราอาจจะไม่ได้เต้นเก่ง เราไม่ได้น่ารัก เราไม่ได้เสียงเล็ก เราไม่ได้สนุกม่วนจอยเหมือนคนอื่น แล้วเราไม่เคยมีปัญหานี้มาก่อนเลยในชีวิตแต่กลายเป็นว่าปีที่แล้วสุดท้ายแล้วมันทำให้เรา “สูญเสียความภูมิใจ” ในตัวเองไปเยอะมากๆแม้ว่าเราจะภูมิใจในฐานะมิสแกรนด์ แต่เราถามตัวเองทุกวันว่า ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มันผิดไหมที่เราไม่สามารถที่จะตลก มันสมัยใหม่ได้เหมือนคนอื่นๆ แล้วเอมรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นที่สุด เพราะท้ายที่สุดถ้าเราสู้ในแบบคนอื่น เราใช้ชีวิตเป็นคนอื่นเราก็จะเสียดายไปตลอด ปีนี้หนูอยากจะจะกลับมาเป็นนางงาม เวทีนางงามเป็นที่แห่งแรกที่ทำให้หนู รู้สึกว่าได้รับความรัก รู้สึกว่าตัวหนูมีคุณค่า ตั้งแต่ปี 2020 หนูอยากจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง อยากจะสู้ในแบบที่ตัวเรา แล้วก็ตัวเราที่รอคอยทุกคน เปิดกว้างสำหรับทุกคน เมื่อเค้าหันมาแล้วเค้ารู้สึกว่า วันหนึ่งอาจจะได้อะไรที่แตกต่างเราก็จะรออยู่ตรงนั้น แล้วก็มีหลายด้านที่หนูพยายามปรับให้เป็นสากลอยู่ เพียงแต่ว่าเราอาจจะไม่ได้ทอดทิ้ง สิ่งที่เราเคยมีมาเท่ากับที่เราเคยทำแค่นั้นเอง

เฌอเอม ชญาธนุส

เปิดตัวมากระแสดีมากขึ้นแท่นตัวเต็งไปแล้วตอนนี้?
คือหนูว่าการเชียร์ถ้ามันจะสนุกมันต้องเชียร์ไปก่อน เพราะฉะนั้นมันคงไม่ได้แปลกอะไร มันสนุกที่ได้คุยเนอะ ถามว่ากดดันไหม? ก็ไม่ได้กดดันขนาดนั้น ไม่ใช่เพราะเราคิดว่าเรานอนมงยังไงก็ได้อะไรแบบนี้นะคะ แต่เราพยายามโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า ก็ทุกรอบในจังหวัดให้ดี หลายคนจะมองว่ามันมองสั้นไปหรือเปล่าแต่สำหรับเอมอยากจะโฟกัส ถ้าสมมุติมองไกลแล้วมันสะดุดตรงกลาง บางทีอาจจะท้อง่าย เราอาจจะรู้สึกอุ๊ยมันจะราบรื่นไหม แต่ถ้าสมมุติหนูไม่ได้จังหวัดนี้ หนูก็แค่ไปจังหวัดต่อไป ไปจนกว่าหนูจะได้ หนูได้ปุ๊บเป้าหมายต่อไปก็คือประเทศ เพราะหนูคิดว่าคุณสมบัติที่จะไปแข่งระดับประเทศมันได้มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้เรายังไม่อยากมองไปถึงการเตรียมแผนตรงนั้น เราอยากให้ผลงานมันประจักษ์ในทุกขั้นตอนค่ะ

เฌอเอม ชญาธนุส

กลัวไหมที่จะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้เราลำบากใจ?
คงจะเลี่ยงไม่ได้ถ้ามีเรื่องทำให้ลำบากใจหรือว่าเรื่องที่จะทำให้เรากดดันในการเลือกอะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องแก้ปัญหาทีละขั้นตอน และประสบการณ์ที่ผ่านมามันก็ทำให้เรามี การตัดสินใจมีความใจเย็น ที่สำคัญคือมีการสื่อสารระหว่างบุคคลที่ดีขึ้น มีความเข้าใจต่อโลกมากขึ้น คิดว่าตรงนั้นจะช่วยในอนาคตได้เยอะ แล้วก็ไม่อยากให้คนอื่นกลัวด้วยเหมือนกัน ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นถ้าเรา มัวแต่กังวลว่าอันนั้นไม่ได้อันนี้ไม่ได้ สุดท้ายมันก็ไม่ได้ทำ

ตอนนี้แฟนนางงามหลายมองข้ามไปที่จะมงแรกมิสแกรนด์อินเตอร์ฯของไทยแล้ว?
เอาจริงๆก็แอบตกใจนะคะ แล้วก็ไม่เคยคิดภาพนั้นมาก่อนคือเราอ่ะมองแกรนด์ภาพตัวเองเป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์เพราะว่าเราเคยต้องซ้อมต้องเดินเราจะนึกเสมอว่าเราเจ้าเป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เพื่อที่เวลาเราขึ้นเวทีทุกคนจะได้เห็น ความตั้งใจหรือว่าคาริสม่าที่ออกมาจากตัวเราให้มากที่สุดแต่ปีนั้นมันก็ได้ผ่านแล้ว พอมาปีนี้หลายคนพูดถึงมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล เอมก็มีความรู้สึกว่า โห้! มันไกลตัวเหมือนกันนะ เพราะว่าเราไปดูอินเตอร์เนชั่นแนลมาตลอด เรารู้สึกว่าควีนแต่ละประเทศเขาคือขีดสุดแล้วจริงๆของการเป็นควีนของการเป็นมิสแกรนด์แล้วตัวเรา ณ วันนี้เราอาจจะยังไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่เราก็เชื่อว่าเราจะไปถึงได้ในสักวันแน่นอน แล้วเราก็คิดว่าถ้าทุกคนมองแบบนี้เราอยากจะตอบรับความคาดหวัง ให้ได้มากที่สุด

เฌอเอม ชญาธนุส

แต่หลายคนเชื่อมั่นในศักยภาพว่าเราสามารถทำได้สำเร็จ?
หนูก็ดีใจค่ะเพราะว่าหลายๆครั้งหนูก็ไม่มันใจในตัวเอง คือพื้นฐานของเอมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ตื่นกลัวง่ายแล้วก็ขี้อายด้วย แต่ว่าคนจะไม่ค่อยรู้เพราะว่าเวลาที่เราต้องออกไปทำจริง เรามีพื้นฐานมาจากการเป็นนางแบบ พอมันต้องออกปุ๊บ ออกไปเลยทำไปเลยก็คือหน้าเราจะนิ่งไปเลย มันเหมือนกับถึงเวลาต้องทำแล้วเราเป็นอีกคน แต่จริงๆแล้วหลายทีเรามีความกังวล เราได้ใจจากคนอื่นนี้แหละที่มาคอยบอกว่าเราทำได้นะ บางทีเราอาจจะไม่ได้เชื่อในตัวตัวเอง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราเชื่อในคนที่รักเรา ที่คาดหวังและเชื่อในตัวเรา การมีคนเหล่านี้มันทำให้เรารู้สึกว่า อย่างน้อยถ้าเราหมดแรง ข้างในตัวเราเรายังมีความรักของเขาพยุงเราอยู่

ถ้าได้มงมิสแกรนด์ไทยแลนด์อยากจะเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนคือเรื่องอะไรมากที่สุด
ถ้าได้เป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์แล้วจริงๆ หนูอยากอินฟอสคำว่าเวทีเพื่อประชาธิปไตยของมิสแกรนด์ เพราะตอนนี้แม้ว่าเราจะกลับมาในระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งแล้วก็เป็นประชาธิปไตย แต่มีคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม จากช่วงเวลาที่ประเทศไทยอยู่ในระบอบเผด็จการ อยู่ แล้วคนเหล่านี้ถูกจำคุกถูกฝากขัง หรือว่าถูกดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมต่างๆ ผ่านยุคของรัฐบาลทหาร เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถพูดถึงความไม่เป็นธรรมเหล่านี้ สิทธิ์ในการประกันตัวพูดถึงการต่อสู้ที่มันถูกลืมเลือนไป เพราะความสบายที่เราได้ในวันนี้ เอมคิดว่าเวทีเพื่อประชาธิปไตยของแกรนด์มันจะศักดิ์สิทธิ์ มันจะมีอำนาจ แล้วมันก็จะเป็นที่พึ่งของคนไทย มันจะเป็นที่หนึ่งในใจคนไทย มากกว่าในเรื่องของบันเทิง คือมันทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งนี้มันคือตัวแทน คุณค่าที่เขายึดมั่น ในฐานะประชาชน และเวทีนี้ได้ต่อสู้เพื่อเขา

เฌอเอม ชญาธนุส

ถ้าการกลับมาครั้งนี้มันไม่ประสบความสำเร็จอีก?
เราก็ทำดีที่สุดแล้ว คือคำว่าไม่ประสบความสำเร็จ มันอาจจะไม่ได้แปลว่าไม่ได้ตำแหน่งนะคะ ไม่ได้แปลว่าไม่รวยคือมันอาจจะไม่ได้แปลว่าอะไรเลยที่คนคิดๆกัน เอมคิดว่าถ้าเอมไม่ประสบความสำเร็จมันคือความรู้สึกมากกว่า ว่าสุดท้ายแล้วเราไม่ได้ปลดล็อคบางอย่างในใจเรา สุดท้ายแล้วเราไม่ได้รู้จักกับทุกคนในแบบที่เราเป็นจริงๆ มันจะมีคำแรกแรกเลยที่เข้าวงการนางงาม แล้วก็เอมเชื่อมั่นมากๆตอนนั้นก็คือ การที่คุณจะออกไปโชว์สิ่งดีๆให้โลกเห็น คุณจะออกไปเฉิดฉาย คุณจะออกไปโชว์ความสง่างาม คุณต้องโชว์ด้านที่อ่อนแอพร้อมๆกับบาดแผล และความกระเสือกกระสนของคุณไปพร้อมๆกัน เอมคิดว่าถ้าเอมไม่ได้ทำสิ่งนี้ หรือว่าเอมทำสิ่งนี้ไม่สุดทางเอมกั๊กมันไว้เอมไม่ประสบความสำเร็จ

เอมมีความรู้สึกว่าปีนี้สุดท้ายแล้ว “ถ้าเราต้องสู้อย่างหมาจนตรอก เราก็ต้องทำ แล้ววันนั้นเราจะไม่รู้สึกเลยว่าเราเสียศักดิ์ศรีหรือเราล้มเหลว เพราะว่าเราสู้จนตัวตายอันนี้คือความรู้สึกของหนู” หนูมีความรู้สึกว่าทุกอย่างไม่ว่าล้มหรือลุกหนูจะพูดคุยกับคนที่รักหนู หนูให้ทุกคนเห็นหมด ว่าการต่อสู้ของเรามันเป็นยังไง แล้วมันจะทำให้เราไปถึงในจุดไหน เอมว่าการสู้ให้เต็มที่สุดท้ายแล้วไม่มีคำว่าล้มเหลว แล้วมันจะพาเราไปตรงไหนเราก็ค่อย ไปวางชีวิตกับเราให้เข้ากับมันอีกทีเพราะสุดท้ายแล้วชีวิตมันคือการคืบหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าจบท่อนนี้ตอบได้เลยว่าเราว่าคุณสำเร็จหรือล้มเหลว อีกอย่างการมาประกวดนางงามหรือการทำอะไรใหม่ๆเพื่อตัวเอง

โดยเฉพาะการที่เอมมาแกรนด์ เอมมีความรู้สึกว่ามันมีแต่ได้กับได้ เพราะว่าคุณเติบโตขึ้นเข้มแข็งขึ้น คุณมีสกิลใหม่ในทุกวัน คุณมีโอกาสใหม่ในทุกวัน สุดท้ายแล้ววันที่คุณประกวดจบ คุณเตรียมตัวกลับบ้าน คุณจะมีอะไรข้างในและข้างนอก มากกว่าวันที่คุณกรอกใบสมัครแน่นอน

เฌอเอม ชญาธนุส

ความฝันไม่มีวันหมดอายุ - เพราะว่าเราจะต้องตายไปพร้อมกับความทรงจำไม่ใช่ความฝันค่ะ มันเป็นหนึ่งในรอยสักประจำตัวที่หนูชอบมากๆ เพราะว่าเมื่อไหร่ที่เราทำความฝันให้กลายเป็นความจริง หรือกลายเป็นประสบการณ์ของเราได้แล้ว เราจะไม่ต้องนับวันเวลา แล้วว่าทำไมเราถึงไม่ทำ จำไว้นะทุกคน “Die With memories, not dream” ถ้าคุณมีวันนี้ทำมันไปเลย สำเร็จ ล้มเหลว เป็นจริงไม่เป็นจริง ความฝันนั้นจะได้กลายเป็นกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณแล้ว แล้วคุณมีเวลาอีกมากที่จะทำ มีโอกาสอีกมากที่จะทำ มันอาจจะไม่ใช่ที่นี่ที่เดียววันนี้วันเดียว แต่สุดท้ายหนูเชื่อว่าทุกความฝันมันจะย้อนกลับที่ความฝันแรกของเราเสมอ

เฌอเอม ชญาธนุส

เฌอเอม ชญาธนุส

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม