อุทัยธานีฝนตกหนัก น้ำไหลบ่าถล่มลงหุบป่าตาด กรมอุทยานฯประกาศปิดไม่มีกำหนด

อุทัยธานีฝนตกหนัก น้ำไหลบ่าถล่มลงหุบป่าตาด แหล่งท่องเที่ยวป่าดึกดำบรรพ์เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ถ้ำประทุน กรมอุทยานฯประกาศปิดไม่มีกำหนด 

วันที่ 23 ต.ค. 67 ที่ จ.อุทัยธานี จากกรณีที่บ้านชายเขา หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ประกาศปิดการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน บริเวณแหล่งศึกษาธรรมชาติ หุบป่าตาด และภาพเขียนสี ก่อนประวัติศาสตร์เขาปลาร้า จนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ 

เนื่องจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภายในหุบป่าตาดมีน้ำท่วมขังดินหิน และต้นไม้มีความชุ่มชื้น และรองรับน้ำฝนไว้เป็นจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ และขอแจ้งเตือนประชาชน โดยรอบพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุนหลีกเลี่ยงการเข้าไปใกล้ บริเวณเชิงเขา เนื่องจากเกิดเหตุการณ์หินไถลลงมาจากภูเขา จึงขอประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งได้ทำหนังสือประกาศไปตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 67 

โดยล่าสุดเวลา 13.00 น. วันนี้ (23 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หุบป่าตาดเขา หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และยอดนิยมภายในถ้ำจะมีดินแดนยุคดึกดำบรรพ์ที่มีป่าตาด และพันธุ์ไม้หลากหลายสายพันธุ์สวยงามให้ชม รวมถึงมังกรสีชมพูห รือกิ้งกือสีชมพู ก็กำลังเลื้อยอวดโฉมในช่วงนี้ ซึ่งบรรดานักท่องเที่ยวที่มานั้นต่างก็ผิดหวังที่เดินทางมาแล้ว แต่เข้าชมไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าประกาศปิด ต่างก็ได้เพียงถ่ายรูปเช็กอินที่ป้าย และเดินชมตรงทางเข้าด้านหน้าเท่านั้น 

นายสุชาติ หิรัญ อายุ 59 ปี พนักงานพิทักษ์น้ำเขตเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน เปิดเผยว่า ขณะนี้ด้านในของถ้ำหุบป่าตาดนั้น น้ำเข้าท่วมห้องในถ้ำเกรงว่านักท่องเที่ยวเข้าไปแล้วจะลื่น ระดับน้ำประมาณ 50–60 ซม. หรือจึงต้องปิดไว้ก่อน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับนักท่องเที่ยว และต้องรอให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ 

เช่นเดียวกันกับเขาปราร้าในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเป็นแหล่งภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ฝนตกหนักจนภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหวพังถล่มลงมาเป็นทางยาวมองเห็นได้ชัดเจน และได้ถูกสั่งปิดห้ามเข้า เพราะเป็นพื้นที่ๆ ถูกประกาศให้เป็นเขตอันตรายซึ่งยังสร้างความเสียหายให้กับไร่ข้าวโพดที่อยู่ไกล้เชิงเขาทั้งหิน และดินถล่มลงมาจนเสียหายอีกด้วย 

จากการสอบถาม น.ส.ณันท์ภัส์ อิ่มสิน อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า วันที่ 21 ต.ค. 67ช่วงเวลา 21.30 น.นั้นมีเสียงคล้ายฟ้าผ่า หรือฟ้าร้องดังสนั่นก็เลยออกจากบ้านมาดู แต่ด้วยความมืดก็มองไปที่ภูเขาไม่เห็นอะไร แต่ตกใจมาก เพราะเสียงที่ดังทำให้ชาวบ้านละแวกนั้นแตกตื่นกันหมด พอเช้ามาจึงรู้ว่ามีหินถล่มที่เทือกเขาปราร้า และได้เข้าไปเดินสำรวจกับทางปกครองอำเภอลานสัก และถ่ายรูป เพื่อรายงานความเสียหายไปเบื้องต้นหลัง จากนั้นทาง อ.ลานสักสั่งปิดทางเข้า 3 ทาง เพื่อป้องกันอันตรายหินหล่นลงมาอาจจะทับร่างคน และห้ามเข้าไปหาเห็ดในบริเวณดังกล่าวอีก เพื่อป้องกันอันตรายเพราภูเขาหินอาจจะถล่มลงมาอีก ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวังอันตรายอันอาจจากภูเขาถล่มอย่างใกล้ชิดอีกด้วย