นายกฯเสียใจคดีตากใบ ออก พ.ร.ก. หยุดอายุความไม่ได้

24 ต.ค. 67

นายกฯอิ๊งค์ เสียใจคดีตากใบหมดอายุความพรุ่งนี้ ถามกฤษฎีกาแล้ว ออกพ.ร.ก.หยุดอายุความไม่ได้ ไม่เข้าเงื่อนไข เอาเปรียบคดีอื่น

 

วันที่ 24 ต.ค.67 นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ ​นายก​รัฐมนตรี​ กล่าวถึงสถานการณ์คดีตากใบที่จะหมดอายุความในวันพรุ่งนี้​ ว่า​คดีนี้เป็นคดีที่เกิดมา 20 ปีที่แล้ว ซึ่งดิฉันก็ได้ไปศึกษาข้อมูล​ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ และทราบว่า​ รัฐบาลเมื่อ 20 ปีที่แล้ว​ ตั้งแต่ยุคนายทักษิณ​ ชินวัตร​ พลเอกสุรยุทธ์​ จุลานนท์ จนมาถึงนางสาวยิ่ง​ลักษณ์​ ชินวัตร​ ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจ​ ขอโทษ​ และได้มีการเยียวยา ชดเชย​ ไปแล้ว​ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี​ ในวันนี้​ รู้สึกเสียใจเช่นกัน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ เป็นอย่างมากและขอโทษ​ ในนามรัฐบาล​จะพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก​

img_20241024163406000000

ส่วนประเด็นทางด้านกฎหมาย รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการส่งคำถามไปยังกฤษฎีกา​ ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง​ โดยเฉพาะเรื่องของการออก​ พ.ร.ก.หยุดอายุความ​ แต่กฤษฎีกาเห็นว่า เหตุการณ์​นี้​ไม่เข้าเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการตามพระราชกำหนด​ เพราะเป็นการออกมาใช้กับคดีดังกล่าวเป็นการเฉพาะ อาจจะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม​กับคดีในลักษณะเดียวกัน​ จึงไม่เข้าเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ​

นางสาวแพทองธาร​ ย้ำว่า รัฐบาลตระหนักถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง อยากให้เกิดความสงบสุข และที่ผ่านมาได้ทำอย่างเต็มที่​

เมื่อถามว่า​ จะมีการรับมืออย่างไร​ กับสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้​ หลังคดีขาดอายุความ​ เพราะขณะนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้น​ นางสาวแพทองธาร​ กล่าวว่า​ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการออกค้นหาและติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี​ ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดปัตตานีล่าสุด ตนได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต​ ดังนั้น​ตนจึงไม่อยากให้โยงเรื่องนี้กับการเมือง​ เพราะไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก

 img_20241024163407000000

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการเพิ่มกำลัง​ในพื้นที่เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยหรือไม่​ นางสาวแพทอง​ธาร​ กล่าวว่า​ ความปลอดภัยของทุกคนในประเทศเป็นเรื่องสำคัญ​ ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงก็ดูแลอย่างเต็มที่อยู่แล้ว มีการตรึงกำลังและดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าคดีตากใบเป็นเรื่องเดียวที่จะทำให้ ประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นในรัฐบาลแต่พอคดีหมดอายุความแล้ว​ ความไว้ใจนั้นก็ขาดลงไปด้วย​ นางสาวแพทองธาร​ กล่าวว่า​ ตอนนี้ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีรู้สึกเสียใจ​และเชื่อว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีหลายคน​ ก็รู้สึกเช่นกัน​ เพราะทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน และได้มีการแสดงความรับผิดชอบในส่วนที่ทำได้ไปแล้ว

เพราะฉะนั้นตนก็จะทำหน้าที่นี้ด้วยเช่นกัน พร้อมขอให้ทุกคนช่วยกัน ไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก เพราะมันไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การจะเกิดความสามัคคีได้​ก็ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย​ และในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่า​ อะไรที่ทำได้ก็ทำอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน​ ขอให้ประชาชนทุกคนไว้ใจ​ ว่า​ ตนมาอยู่ตรงนี้​ อยากทำให้พี่น้องประชาชนสบายใจ ทำให้บ้านเมืองสงบสุข ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ​

เมื่อถามว่าคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยของนายทักษิณ​ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะที่เป็นลูกและมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อ​ รู้สึกกดดันหรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ย้ำว่า​ ตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ก็มีการรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และในสมัยนี้ตนก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกๆพื้นที่ของประเทศ​อย่างสุดความสามารถ​ และหากถามว่ากังวลไหมเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องของประเทศชาติ​ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ต้องดูแลอย่างเต็มที่​

ส่วนที่ในวันพรุ่งนี้จะหมดอายุความ จะทำให้จะทำให้อุณหภูมิในเรื่องนี้ลดลงได้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่บอกความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้โยงกับประเด็นทางการเมือง เพราะว่าในเรื่องของคดีตากใบ ได้รับการเยียวยาและการพูดคุย ทุกคนได้พยายามอย่างสุดความสามารถ ในการดูแลปัญหาและดูแลจิตใจ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนในเรื่องอื่นๆ ไม่อยากให้อะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของคดีนี้ เป็นตัวเสริมที่จะทำให้เกิดความรุนแรง ซึ่งขอให้ไม่เป็นเช่นนั้น

ส่วนที่ทนายฝ่ายโจทก์ มีการหารือกันว่า หากพึ่งพากระบวนการยุติธรรมของไทยไม่ได้ ก็จะนำไปฟ้องศาลโลก ในฐานะรัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คดีนี้อย่างที่เราเห็นมันเกิดมา 20 ปี จนถึงทุกวันนี้ก็มีการฟ้องร้องเพิ่มเติมขึ้นมาอีก ซึ่งจริงๆแล้วมีหลายประเด็นประกอบกัน ซึ่งตนคงตอบได้แค่นี้ และคิดว่าศาลก็ได้ทำหน้าที่และมีการตัดสินไปแล้วก่อนหน้านี้

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทาง การส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีข้อเสนอ หลังคดีหมดอายุความ ให้รัฐบาลเยียวยาเพิ่มเติม มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เดี๋ยวคงต้องไปพิจารณากัน ต้องไปดูว่าตอนนั้นเขาจบกันแบบไหน เมื่อ 20 ปีที่แล้วได้มีการเยียวยา ในทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพราะฉะนั้นต้องไปดูว่า มีอะไรเพิ่มเติม ที่เราจะสามารถพูดคุย หรือทำอะไรได้ เพราะแน่นอนว่าเราไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก็สามารถพูดคุยได้

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสลงไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “โอ้ยแน่นอนค่ะ” ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ก่อนหน้าที่จะมีเรื่องนี้ฟ้องมาใหม่ด้วยซ้ำ ก็ต้องลงไปในทุกพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งต้องดูเรื่องสถานที่ด้วย และหาเวลาที่เหมาะสม ว่าจะไปที่ไหนอย่างไร ก่อนหรือหลัง

ส่วนเรื่องนี้จะมีผลต่อการเจรจา ของคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าว คิดว่าทุกฝ่ายก็ทำหน้าที่ ของตัวเองอย่างเต็มที่ คณะกรรมการก็เช่นกัน ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความสงบสุขต่อไป และรัฐบาลก็เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าได้มีการความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้มีความคืบหน้า แต่ตำรวจก็บอกว่าได้มีการทำอย่างอยู่ ไม่ได้มีคำตอบเพิ่มเติม

เมื่อถามถึงมาตรการที่จะมีต่อ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี หากเดินทางกลับมาประเทศไทยหลังคดีหมดอายุความ นายกรัฐมนตรี ได้วางแผนเรื่องนี้ไว้อย่างไรเพื่อลดอุณหภูมิ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงต้องพูดคุยกัน อย่างที่เห็นว่าขณะนี้พลเอกพิศาล ก็ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว และไม่มีใครได้คุยกับ พลเอกพิศาลเลย เดี๋ยวรอดูว่าจะยังไง แต่แน่นอนว่า ประเด็นที่สำคัญ มันไม่อยากให้เกิดเรื่องอยู่แล้ว เพราะอะไรที่สามารถเจรจาพูดคุยได้ ก็ต้องทำอยู่เเล้ว ไม่มีทางที่จะกลับมาว่ากัน ต้องมีการไปข้างหน้าอยู่แล้ว หรือพยายามทำให้ย่อปัญหาลง

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับคณะที่ปรึกษาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้ปรึกษาตลอด และถามด้วยว่า ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วทำไมเหตุการณ์จบไปแล้วกลับมาอีกวันนี้ ก็คุยทั้งหมด เพราะอยากได้ความคิดเห็นจากหลายๆฝ่าย และคนหลายช่วงอายุด้วย

เมื่อว่ากรณีที่พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เคยระบุว่า เรื่องนี้ต้องรอปาฏิหาริย์ที่จะสามารถนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดี ในฐานะรัฐบาลเรื่องนี้จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “เราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ปาฏิหาริย์เหรอ มันต้องใช้เรื่องจริง”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส