ล่าสุดวันนี้ (6 ก.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เดินทางเข้ามาพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเพื่อมาอำลาตำแหน่ง โดยภายหลังการพูดคุยเสร็จกำลังจะเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เดินลงมาส่งนางเฮเลเนอ ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้าโดยเมื่อเห็นรถยนต์ไฟฟ้าอีวี แบรนด์ MINI Cooper SE สีแดง เลขทะเบียน ท 76-1002 ที่คณะเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ใช้ขับมาที่ทำเนียบรัฐบาล
โดยนายกรัฐมนตรี สนใจสอบถามในรายละเอียด จึงทราบเป็นรถไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า จึงขอ Test drive รถอีวี MINI Cooper SE คันนี้มีพนักงานขับรถของสถานทูตเป็นผู้ขับให้นั่ง 1 รอบสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า
นายกฯ ลุงตู่ ขอ Test drive รถอีวี MINI Cooper SE

เมื่อขับครบรอบแล้ว ขอขับต่อในรอบที่ 2 พล.อ.ประยุทธ์ ขอทดลองขับรถด้วยตัวเอง โดยมีเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทยนั่งอยู่ด้านซ้าย โดยขับต่ออีก 1 รอบทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งยังโบกมือทักทายกลุ่มผู้สื่อข่าว แสดงความพึงพอใจกับรถคันนี้ด้วย ซึ่งเป็นรถประหยัดพลังงาน ก่อนที่เอกอัครราชทูตและคณะจะเดินทางกลับออกไป
โดยในปี 2564 ที่ผ่าน MINI Cooper SE ถือเป็นรุ่นรถยอดนิยมมากที่สุดและขายได้มากที่สุดมื่อเปรียบกับรถยนต์ของ MINI ทุกรุ่นเพราะ MINI Cooper SE สามารถทำยอดขายถึง 34,851 คันทั่วโลก หรือโตเกือบๆ 100% จากปี 2563 โดยคิดเป็นสัดส่วน 62% ของยอดขายรวมของ MINI ในปีที่ผ่านมาซึ่งมีตลาดที่ขายดีคือ ในยุโรป อาทิ เยอรมนี, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ เพราะคนยุโรปค่อนข้างมีการตื่นตัวลดการใช้รถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมัน หันมาใช้รถยนต์อีวีที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยควันมลพิษนั่นเอง
ทีมงาน SPOTLIGHT จะพาไปแกะสเป็ค ทำความรู้จักรถยนต์อีวี แบรนด์ MINI Cooper SE ให้มากขึ้น
สเป็ก 'มินิคูเปอร์ SE' รถ EV รุ่นแรกของ MINI

- สถานเอกอัคราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย รับมอบ MINI Cooper SE รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นรุ่นแรก จาก มินิ ประเทศไทย เพื่อใช้สำหรับภารกิจทางการทูต โดยได้รับการสนับสนุนจาก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เพื่อตกย้ำเป้าหมายวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนสู่อนาคตที่สะอาดและปลอดมลพิษ
- MINI Cooper SE เปิดตัวอยางเป็นทางการในประเทศไทยปี 2563 โดย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำเข้ามาวางขาย เปิดตัวด้วยราคา 2.29 ล้านบาท (รวม MSI Standard) พร้อมเปิดเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 100,000 กม. เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ของ MINI รุ่นแรก ด้วยดีไซน์แปลกใหม่

- ใช้พื้นฐานของตัวถัง Hatch 3 ประตู (F56) ด้วยการเปลี่ยนชุดขับเคลื่อนจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาป มาเป็นชุดมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยยังคงคาแรคเตอร์ของการเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าตามสไตล์มินิเช่นเดิม
- มาพร้อมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุด สามารถส่งพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า และด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจึงสามารถส่งแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรได้ทันทีที่เท้าแตะคันเร่งแม้จากรถหยุดนิ่ง ส่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที ด้วยความแรงใน 60 เมตรแรกได้เทียบเท่ารถสปอร์ต และสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.3 วินาที

- ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในการวิ่งได้ระยะทางสูงสุดราว 217 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ระบบส่งกำลังและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังระบบต่าง ๆ ของมินิ คูเปอร์ เอสอี จะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของรถในโครงสร้างรูปทรงท่อ ส่วนแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับมินิ คูเปอร์ เอสอีโดยเฉพาะ ประกอบไปด้วยเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง

- พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนมินิ คูเปอร์ เอสอี สามารถชาร์จจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าได้หลายรูปแบบ ทั้งจากปลั๊กไฟในบ้านโดยตรง (อุปกรณ์มาตรฐานของตัวรถ) จากเครื่องชาร์จ MINI ELECTRIC Wallbox และจากสถานีชาร์จสาธารณะ โดยสามารถรองรับหัวชาร์จทั้ง AC และ DC แบบ Type 2 และหัวชาร์จ CCS Combo 2 แบตเตอรี่แรงดันสูงสามารถรองรับสายชาร์จทั้งแบบมาตรฐานและสายชาร์จจาก MINI ELECTRIC Wallbox ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ชาร์จถึง 80% ภายใน 2.5 ชั่วโมง และชาร์จเต็ม 100% ภายใน 3.5 ชั่วโมง
- สามารถเลือกใช้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จ MINI ELECTRIC Wallbox ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งในโรงรถ และบริเวณที่จอดรถที่มีหลังคา หรือเลือกใช้บริการจากสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow ซึ่งนับเป็นเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูล : MINI Cooper