ยานยนต์ไฟฟ้า เป็นธุรกิจกระแสหลักของโลกนับจากนี้ไปเพราะไม่ใช่แค่ค่ายรถยนต์เท่านั้นที่ต้องผันตัวเองจากการผลิตรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแม้แต่ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับยานยนต์โดยตรงก็กระโดดลงมาหาโอกาสจากธุรกิจรยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงลดความเสี่ยงจากการทำธุรกิจเดิมด้วยเช่นกัน
Foxconn บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของโลกจากไต้หวัน ประกาศในงาน Tech Day ประจำปีว่า บริษัทกำลังขยายการลงทุนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการเป็นผู้ประกอบ iPhone หลักและฐานการผลิตใหญ่ที่สุดอยู่ในประเทศจีน ความเสี่ยงและความขัดแย้งในอนาคตระหว่างจีนกับชาติตะวันตก ทำให้ Young Liu ประธานบริษัท Foxconn มองว่า ยานยนต์ไฟฟ้า คือเป้าหมายใหม่ที่หวังว่าจะทำให้ Foxconn ยิ่งใหญ่ได้เหมือนในฐานะผู้ผลิตสินค้าไอซีทีของโลก
Young Liu ประธาน Foxconn กล่าวว่าบริษัทตั้งเป้าที่จะนำโมเดลทั้งหมดเข้าสู่การผลิตในสหรัฐอเมริกา ไทย และไต้หวัน และจะขยายไปทั่วโลกต่อไป แม้ว่าจะยังไม่มีแผนจะสร้าง EV ในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกในสหรัฐฯ อยู่ในรัฐโอไฮโอ กำลังการผลิต 500,000 ถึง 600,000 คันต่อปี ส่วนโรงงานแห่งแรกในประเทศไทย จะผลิตรถยนต์มากถึง 200,000 คันต่อปีในช่วงเวลา 2 ปี ส่วนการผลิตรถยนต์ EV ในไต้หวัน ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับโรงงานของ Yulon Motor พันธมิตรสำคัญที่ผลิตในเมืองเหมียวลี่ นอกจากนี้ Foxconn กำลังเจรจาเพื่อนำการผลิต EV ไปยังอินเดียและอินโดนีเซียกับพันธมิตรในท้องถิ่น
“สำหรับธุรกิจ EV ของเรา ... การผลิตส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศและในหลายประเทศ”
"เราจะจ้างพนักงานส่วนใหญ่ใหม่ในธุรกิจ EV ที่เรามีฐานการผลิตอยู่ แต่ปัจจุบันเราไม่มีการผลิตที่เกี่ยวข้องกับ EV ในประเทศจีนเลย" นายหลิวกล่าว
แผนธุรกิจของ Foxconn ได้กระจายการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังเพื่อเป็นโอกาสในการเติบโต โดยนอกจากการผลิตรถ EV แล้วยังรวมถึงโรงงานผลิตแบตเตอรี่มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (200 ล้านดอลลาร์) ในเมืองเกาสงทางตอนใต้ของไต้หวัน
สำหรับเป้าหมายของ Foxconn คือ ต้องการคว้าส่วนแบ่งตลาดรถ EV 5% ของตลาด EV ทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นรายได้ 1 ล้านล้านเหรียญไต้หวัน ภายในเวลาเร็วที่สุดคือ ปี 2025 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้า ส่วนระยะยาว Foxconn หวังว่าส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจ EV จะเติบโตไปถึงสถานะที่อยู่ในธุรกิจ ICT คือประมาณ 40% ถึง 45% ของตลาด ICT รวมถึงคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่าย และเซิร์ฟเวอร์
Foxconn บรรลุข้อตกลงกับพันธมิตรระดับโลกหลายแห่งเพื่อขยายธุรกิจ EV โดยบรรลุข้อตกลงในเดือนพฤษภาคมเพื่อซื้อโรงงานของ Lordstown Motors ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพรถกระบะในรัฐโอไฮโอ และมีส่วนช่วย Monarch Tractor ผู้ผลิตรถแทรกเตอร์ไฟฟ้าสร้างอุปกรณ์การเกษตรและชุดแบตเตอรี่ในรัฐมิดเวสต์ของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันก็ยังจับมือกับ Indika Energy ผู้ขุดถ่านหินของอินโดนีเซีย เพื่อผลิตแบตเตอรี่และรถโดยสารไฟฟ้า รวมทั้งร่วมมือกับ ปตท. ของประเทศไทยเพื่อสร้างยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย นอกจากนี้ Foxconn ยังได้ร่วมมือกับ Stellantis กลุ่มยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกและเจ้าของ Fiat พัฒนาเซมิคอนดักเตอร์และห้องนักบินอัจฉริยะ และเริ่มทดสอบการผลิตชิปซิลิกอนคาร์ไบด์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของเซมิคอนดักเตอร์ที่จำเป็นในธุรกืจรถ EVsด้วย
สำหรับรายได้ของ Foxconn ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 13.6% จากปีที่แล้วเป็น 4.66 ล้านล้านเหรียญไต้หวัน รายได้หลักมาจากการเป็นพันธมิตรด้านการผลิตเพียงรายเดียวสำหรับรุ่นพรีเมียมของ iPhone 14 Pro และ Pro Max ของ Apple โดยรู้จักกันดีในนาม Hon Hai Precision Industry ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก รู้จักกันดีในด้านการผลิตผลิตภัณฑ์ของ Apple ทั้ง iPhone, iPads และ MacBooks นอกจากนี้ยังเป็นซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเช่น HP, Cisco, Google และ Amazon ส่วนการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Foxconn ยังคงดำเนินการอยู่ในประเทศจีนเป็นหลัก