ในที่สุดรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการขนส่ง Tesla Semi ก็ได้ฤกษ์ในการส่งมอบจริงให้กับลูกค้าได้แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนจากบริษัท PepsiCo รับรถบรรทุกล็อตแรกเรียบร้อยแล้ว
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ก็ได้เข้าร่วมการแถลงข่าวการส่งมอบ Tesla Semi เช่นเคย หลังจากที่เคยเปิดตัวอวดโฉม Tesla Semi ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2560 แต่Tesa Semi เป็นโปรเจ็คที่ค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด และซัพพลายเชนของแบตเตอรี่มีปัญหา ซึ่งอีลอน มัสก์ ก็ได้พูดติดตลกนิดๆว่า "ขออภัยในความล่าช้า" เพราะหลังจากเปิดตัวมาก็เพิ่งจะสามาถส่งมอบกันได้จริง ใช้เวลานานถึง 5 ปี โดย Tesla Semi ได้เริ่มผลิตในรัฐเนวาดาช่วงปีนี้เอง
แน่นอนว่า ในพอร์ตรถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่านั้น มีทั้งรถซีดาน Luxury รถที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ขนส่งขนาดใหญ่อย่างหัวรถพ่วงไฟฟ้า ไปจนถึงรถปิคอัพ ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นนวัตกรรมการขนส่งทางบกที่ให้ความสำคัญกับเรื่องภาวะโลกร้อน และลดการปล่อยมลพิษทางอากาศนั่นเอง
ความแตกต่างที่สำคัญของ Tesla Semi อีลอน มัสก์ ได้แสดงให้เห็นในงานแถลงข่าวว่า มันมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะมาแทนที่รถบรรทุกดีเซลในอนาคต โดย Semi มีมอเตอร์ 4 ตัวทำงานแยกกันอยู่ที่เพลาด้านหลัง สามารถเร่งความเร็วจาก 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 20 วินาทีเท่านั้น สามารถขับได้ราว 800 กิโลเมตร(500ไมล์) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และรถจะสามารถวิ่งได้ราว 640 กิโลเมตร (400 ไมล์ ) หลังจากชาร์จ 80% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที โดยใช้สถานีชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ของเทสลา
นอกจาก มัสก์ ยังแสดงให้เห็นถึงตจ้นทุนของ Tesla Semi ด้วยว่า มีต้นทุนที่ถูกกว่าคุ้มกว่า รถบบรทุกดีเซลทั่วไป ขณะเดียวกันภายในของเทสลายังแตกต่างจากรถบรรทุกอื่นคือ ตำแหน่งของพวงมาลัยและที่นั่งคนขับ ไม่ได้อยู่ด้านซ้าย หรือด้านขวา แต่เทสลาออกแบบ Semi ให้พวงมาลัยอยู่ตรงกลางห้องโดยสารพร้อมหน้าจอสัมผัสที่ตำแหน่งทั้งสองด้านของคนขับ
Tesla Semi อาจจะไม่ใช้รถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่เป็นไฟฟ้ารายแรก แต่ปัจจุบันมีทั้ง Volvo, Daimler และแม้แต่ Nikola ก็เป็นคู่แข่งด้วยเช่นกัน และได้มีการผลิตและส่งมอบรถให้กับลูกค้าไปก่อนเทสล่าแล้ว และTesla Semi จะมีการผลิต ทั้งหมด 50,000 คันภายในปี 2024 หรือภายใน 2ปีจากนี้ ส่วนราคาที่ส่งมอบให้กับลูกค้ารายแรกยังไมไ่ด้มีการเปิดเผย
ที่มา CNBC , งานแถลงข่าวของTesla