‘Gartner’ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำระดับโลก คาดการณ์รายได้ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปีนี้ จะเติบโตขึ้น 18.8% มูลค่ารวมอยู่ที่ 629,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 21.86 ล้านล้านบาท ส่วนในปี 2568 จะเติบโตขึ้น 13.8% คิดเป็นมูลค่ารวม 716,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 24.88 ล้านล้านบาท
ราจีฟ ราชบุตร นักวิเคราะห์อาวุโสของ Gartner กล่าวว่า หลังจากตลาดถดถอยในปี 2566 รายได้ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังฟื้นตัว โดยคาดว่า การเติบโตมาจากปัจจัยความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวในภาคการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ความต้องการภาคยานยนต์ และภาคอุตสาหกรรมยังคงอ่อนแอ
ในระยะสั้น ตลาดหน่วยความจำ (Memory) และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) จะกระตุ้นรายได้ให้กับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก โดย Gartner คาดว่า ตลาด Memory ทั่วโลกจะมีรายได้เติบโต 20.5% ในปี 2568 คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 196,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6.81 ล้านล้านบาท
ปัญหาการขาดแคลนซัพพลายอย่างต่อเนื่องในปี 2567 นี้ จะส่งผลให้ราคาหน่วยความจำประเภท NAND เพิ่มขึ้น 60% ในปีนี้ แต่คาดว่า ราคาในปี 2568 มีแนวโน้มลดลง 3% เนื่องจากซัพพลายและราคาที่ลดลงในปี 2568 คาดว่า รายได้หน่วยความจำแฟลช NAND จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 75,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.62 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีนี้
ปัญหาการขาดแคลนซัพพลายที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ดีมานด์และซัพพลายของชิป DRAM กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยการผลิตหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (High-Bandwidth Memory - HBM) ที่สูงเป็นประวัติการณ์ รวมกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และราคา Double Data Rate 5 (DDR5) ที่สูงขึ้น คาดว่า ภาพรวมรายได้ชิป DRAM ปี 2568 จะอยู่ที่ 115,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 90,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.13 ล้านล้านบาทในปีนี้
ตั้งแต่ปี 2566 ชิป GPU มีส่วนสำคัญต่อการใช้ฝึกฝนและพัฒนาโมเดล AI ต่างๆ โดยคาดว่า ตลาดนี้จะมีรายได้รวมที่ 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.77 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้น 27% ในปี 2568
จอร์จ บร็อคเคิลเฮิร์สต์ รองประธานนักวิเคราะห์ Gartner เผยว่า อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้กำลังเปลี่ยนไปสู่ระยะที่มุ่งหวังผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ซึ่งต้องการเห็นรายได้เติบโตเป็นหลายเท่า จากเม็ดเงินที่ลงทุนไปกับการฝึกฝนนั่นเอง
หนึ่งในนั้น คือ ความต้องการชิป HBM ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นโซลูชันหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงของเซิร์ฟเวอร์ AI โดยผู้ผลิตกำลังลงทุนกับการผลิต และบรรจุภัณฑ์ของชิป HBM อย่างมาก เพื่อให้สอดรับความต้องการของชิป GPU และชิป AI Accelerator รุ่นใหม่ๆ
Gartner คาดว่า รายได้ชิป HBM ในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 284% เป็น 12,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณเกือบ 0.43 ล้านล้านบาท และเพิ่ม 70% ในปี 2568 โดยคิดเป็นมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบราว 0.73 ล้านล้านบาท
นักวิเคราะห์ Gartner คาดว่า ภายในปี 2569 ชิป HBM กว่า 40% จะรองรับการประมวลผล AI แบบอนุมาน เทียบกับในปัจจุบันที่มีน้อยกว่า 30% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการใช้งานการอนุมานที่เพิ่มขึ้น และข้อจำกัดในการนำชิป GPU สำหรับการฝึกฝนมาใช้ใหม่