CPF กำไร Q3/67 พุ่ง 504%! ทะลุ 7.3 พันล้านบาท โตแรงแซงทุกคาดการณ์

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าตัว

คอนเทนต์แนะนำ

รองนายกอบจ.ปราจีนฯ ยัน 100% จดหมายลายมือ "โกทร" ถึง "สันธนะ"

มาแล้ว! พรรคประชาชน เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ สู้บ้านใหญ่

ดับฝัน "ทวี" เผยปล่อยตัว “โกทร” มาแถลงข่าว ทำไม่ได้

CPF กำไร Q3/67 พุ่ง 504%! ทะลุ 7.3 พันล้านบาท โตแรงแซงทุกคาดการณ์

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยภาพรวมสะท้อนถึงศักยภาพในการฟื้นตัวทางธุรกิจ แม้เผชิญกับปัจจัยท้าทายต่างๆ แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาความแข็งแกร่งและสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างโดดเด่น

ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 142,703 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการจำหน่ายธุรกิจไก่ครบวงจรบางส่วนในสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลกระทบจากรายการดังกล่าว รายได้จากการขายจะเติบโต 2% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกัมพูชา ตุรกี และฟิลิปปินส์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงและการขยายฐานธุรกิจของบริษัทฯ

ผลกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ประเด็นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีจำนวน 7,309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 504% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1,810 ล้านบาท โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักประกอบด้วย

ราคาสุกรปรับตัวสูงขึ้น: ราคาสุกรในหลายประเทศฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากเผชิญภาวะสุกรล้นตลาดในปี 2566 ปัจจุบันตลาดสุกรมีดุลยภาพมากขึ้น อุปสงค์และอุปทานอยู่ในระดับที่สมดุล ประกอบกับการเกิดโรคระบาดในสุกรบางพื้นที่ ส่งผลให้ราคาสุกรมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน: บริษัทฯ มุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการเลี้ยงสัตว์ การจัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ รวมถึงการวิจัยและพัฒนา เพื่อแสวงหาวัตถุดิบทดแทนที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรม

ผลประกอบการของบริษัทร่วมเติบโต: ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้า เพิ่มขึ้น 592% คิดเป็น 3,655 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของบริษัทร่วมในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และสุกร และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของซีพีเอฟในการปรับตัว รับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และคว้าโอกาสทางธุรกิจ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาประสิทธิภาพ สร้างสรรค์นวัตกรรม และลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ซีพีเอฟ เดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ของซีพีเอฟ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและคว้าโอกาสทางธุรกิจ แม้เผชิญกับความท้าทายต่างๆ ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ บริษัทฯ ยังคงรักษาความแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรได้อย่างโดดเด่น และเดินหน้าลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

กลยุทธ์หลักที่ซีพีเอฟให้ความสำคัญ

• การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ : ซีพีเอฟมุ่งเน้นการลดต้นทุนในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง ตลอดจนการบริหารจัดการภายในองค์กร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
• การขยายธุรกิจในต่างประเทศ : ซีพีเอฟมุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการเติบโต รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
• การพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม : ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
• การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน : ซีพีเอฟมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์ที่ชัดเจน และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าซีพีเอฟจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว