‘การบินไทย’ แปลงหนี้เป็นทุน เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน
ก้าวสำคัญของการบินไทย! หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ขณะนี้สายการบินแห่งชาติพร้อมแล้วที่จะทะยานสู่ฟ้าอีกครั้ง ด้วยแผนฟื้นฟูกิจการที่แข็งแกร่ง โดยมี "การแปลงหนี้เป็นทุน" เป็นกลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน เป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟุกิจการ การตัดสินใจครั้งนี้นับเป็นหมุดหมายแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่จะช่วยปลดล็อกหนี้สิน และนำพาองค์กรสู่เส้นทางแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน
คอนเทนต์แนะนำ
‘การบินไทย’ แปลงหนี้เป็นทุน เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้การบินไทยพร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างทางการเงินตามแผนฟื้นฟูกิจการ ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน ภายหลังจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567
การแปลงหนี้เป็นทุน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยจะช่วยลดภาระหนี้สินของบริษัทฯ และเพิ่มทุนจดทะเบียน ซึ่งจะช่วยให้การบินไทยมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น และสามารถนำเงินทุนไปใช้ในการดำเนินงานพัฒนาธุรกิจ และสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
[รายละเอียดการแปลงหนี้เป็นทุน]
การแปลงหนี้เป็นทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้
- (ก) การแปลงหนี้เดิมแบบภาคบังคับ (Mandatory Conversion): เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการบางกลุ่ม จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยอัตโนมัติ จำนวนไม่เกิน 14,862,369,633 หุ้น ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 37,828 ล้านบาท
- (ข) การแปลงหนี้เดิมโดยสมัครใจ (Voluntary Conversion): เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการสามารถใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ตามความสมัครใจ จำนวนไม่เกิน 4,911,236,813 หุ้น ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 12,500 ล้านบาท
- (ค) การแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักโดยสมัครใจ: เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการสามารถใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยที่ถูกพักไว้ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ตามความสมัครใจ จำนวนไม่เกิน 1,903,608,176 หุ้น ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 4,845 ล้านบาท
[เจ้าหนี้ที่มีสิทธิแปลงหนี้]
เจ้าหนี้ที่มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุน ได้แก่ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18 - 31 ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ โดยอ้างอิงรายชื่อ ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2567
[ขั้นตอนการแสดงเจตนา]
เจ้าหนี้ที่ประสงค์จะใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมเป็นทุนเพิ่มเติม (Voluntary Conversion) หรือแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นทุน สามารถแสดงเจตนาได้ระหว่างวันที่ 19 - 21 พฤศจิกายน 2567 ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
- สำนักงานใหญ่บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- สำนักงานใหญ่และสาขา ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ระบบออนไลน์ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai บน Krungthai NEXT Application (สำหรับบุคคลธรรมดาเท่านั้น)
เจ้าหนี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารประกอบการใช้สิทธิได้ที่ https://bit.ly/TGVoluntary
[การบินไทยมุ่งสู่ความยั่งยืน แผนฟื้นฟู เสถียรภาพ และการเติบโต]
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า เพื่อประโยชน์ในการรักษาเสถียรภาพของราคาหลักทรัพย์ภายหลังการกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การบินไทยจึงได้กำหนด มาตรการห้ามจำหน่ายหุ้น (Lock-up) สำหรับเจ้าหนี้ทุกรายที่ได้รับการจัดสรรหุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุน ไม่ว่าจะเป็นการแปลงหนี้แบบภาคบังคับ(Mandatory Conversion) การแปลงหนี้โดยสมัครใจ (Voluntary Conversion) หรือการแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพัก โดยมีข้อกำหนดห้ามจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นของการบินไทยได้กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ดังนั้น เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา 6 เดือน เจ้าหนี้สามารถจำหน่ายหุ้นได้ในสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ได้รับ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าว เจ้าหนี้จะได้รับหลักทรัพย์ในรูปแบบใบหุ้น (Scrip) ซึ่งจะถูกเก็บรักษาไว้โดยบริษัท หรือผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สิน (Custodian) ที่บริษัทแต่งตั้ง
นอกเหนือจากการดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุน การบินไทยยังคงมุ่งมั่นในการชำระหนี้คงเหลือตามแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งกำหนดระยะเวลาไว้ระหว่างปี 2567 – 2579 โดยบริษัทจะดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การยกระดับคุณภาพการบริการ และการเพิ่มพูนรายได้ ด้วยกลยุทธ์หลักในการปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบินและฝูงบินให้สอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมการบินและความต้องการของผู้โดยสาร มุ่งเน้นการบริการคุณภาพสูงโดยคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อสร้างความประทับใจและเสริมสร้างความภักดีในตราสินค้า พัฒนาช่องทางการจำหน่ายโดยมุ่งเน้นการจำหน่ายผ่านช่องทางของบริษัทโดยตรง เช่น เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายฐานลูกค้า และขยายศูนย์บริการลูกค้าต่างประเทศเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้โดยสาร
ภายหลังความสำเร็จของกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุน บริษัทมีแผนที่จะดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยจะนำหุ้นที่เหลือจากการที่เจ้าหนี้ไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิแปลงหนี้ไม่เต็มจำนวน รวมกับหุ้นส่วนอื่นๆ มาเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทก่อนการปรับโครงสร้างทุน (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567) พนักงานของบริษัทและบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม การบินไทย ขอยืนยันว่า การปรับโครงสร้างทุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อการทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ และการเสริมสร้างสถานะทางการเงิน เพื่อให้บริษัทมีความมั่นคงและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ ก่อนยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ และนำหุ้น THAI กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568
[การบินไทยโบยบินอีกครั้ง ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความยั่งยืน]
การบินไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูองค์กรสู่สถานะแห่งความมั่นคงและยั่งยืน ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากบรรดาเจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพนักงาน และเชื่อมั่นว่าแผนฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างทางการเงิน และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ได้กำหนดไว้อย่างรอบคอบ จะช่วยให้การบินไทยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรักษาสถานะสายการบินแห่งชาติ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติภูมิของประเทศไทยพร้อมให้บริการภายใต้มาตรฐานสากล และพร้อมที่จะอุบัติขึ้นสู่ยุคสมัยใหม่แห่งการบิน ด้วยวิสัยทัศน์ในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่เป็นเลิศเชื่อมโยงผู้คน วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ สู่จุดหมายปลายทางหลากหลายทั่วโลก โดยยึดมั่นในหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน เคียงคู่สังคมไทยและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง
