ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดด โลกการเงินก็หมุนไปอย่างรวดเร็ว ธนาคารไทยพาณิชย์ตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุด ธนาคารได้ประกาศผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี พร้อมเผยวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ในการก้าวสู่ "ธนาคารแห่งอนาคต" ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และยึดมั่นในความเป็นเลิศด้านการบริการ
ไทยพาณิชย์ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เดินหน้า AI-First Bank สู่บริการธนาคารแห่งอนาคต สู้ศึก Virtual Bank
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB เปิดแผนงานในปี 2568 ธนาคารไทยพาณิชย์มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนากระบวนการภายในองค์กร โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลที่ล้ำหน้าทั้งในด้านเทคโนโลยีและการบริการ
ธนาคารมีแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ทั้งองค์กร และเการดูแลลูกค้าโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง รวมถึงควบรวมช่องทางการให้บริการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ตรงใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้มีการลงทุนระบบ Core Banking เวอร์ชันใหม่ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล โดยอาศัยทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน AI & Data Intelligence รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความสามารถด้านเทคโนโลยี และเดินหน้ายุทธศาสตร์ AI-First Bank อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนารูปแบบบริการสู่ธนาคารแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมกับการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล
ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี พบว่ายังคงแข็งแกร่งและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีการเติบโตในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ผลกำไร รายได้จากธุรกรรมดิจิทัล และรายได้จากการบริหารความมั่งคั่ง ธนาคารเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ "Digital Bank with Human Touch" จะช่วยให้องค์กรสามารถก้าวข้ามผ่านความท้าทายต่าง ๆ ไปได้
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB ประกาศเดินหน้าลดต้นทุนแบงก์ให้อยู่ที่ระดับ 30% ให้ได้ และเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยให้ถึงระดับ 30% เพื่อเตรียมความพร้อมสู้ศึก Virtual Bank ที่กำลังจะเข้ามาแข่งขันในอนาคต
ธนาคารไทยพาณิชย์เตรียมพร้อมรับมือความท้าทายปี 2568 มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรมธนาคารในปี 2568 ว่า ยังคงเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่
เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายดังกล่าว ธนาคารไทยพาณิชย์ได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch โดยมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Scale & Operate) เพื่อยกระดับองค์กรสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำ ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านเทคโนโลยีและการบริการ อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพใน 3 มิติหลัก ประกอบด้วย การยกระดับคุณภาพการบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า การพัฒนาประสิทธิภาพองค์กร และการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร โดยได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงาน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมี 3 กลยุทธ์หลัก ดังนี้
1. ปรับโครงสร้างการดูแลลูกค้าโดยยึดหลัก Customer Centricity ผ่านการบูรณาการช่องทางการให้บริการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางดิจิทัล เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นไร้รอยต่อแก่ลูกค้า รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงจุด
2. เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถด้าน Digital และ AI ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนขององค์กร พร้อมทั้งจัดตั้งทีมดิจิทัล 2 ส่วน ประกอบด้วย
* ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน AI & Data Intelligence (Center of Excellence: COE) เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการสนับสนุนและพัฒนาด้านดิจิทัล
* ทีมดิจิทัลประจำหน่วยธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม
3. พัฒนาศักยภาพในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ ภายใต้กรอบแนวคิด "รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์นวัตกรรม" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรูปแบบการทำงาน เข้าถึงความต้องการของลูกค้า และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Hyper-personalization)
“ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและธุรกิจที่มีความท้าทาย ธนาคารต้องเร่งเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันเพื่อสร้างการเติบโตของกำไรอย่างยั่งยืน ความสำเร็จที่เราเป็นในวันนี้อาจไม่เพียงพอต่อการเป็นผู้นำในวันข้างหน้า ดังนั้น เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขันในอนาคต ธนาคารไทยพาณิชย์จึงต้องเร่งพัฒนาเพื่อให้เรายังคงวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและเป็นผู้นำต่อไปได้ โดยมีเป้าหมายในการนำยุทธวิธี AI-First Bank มาเป็นเครื่องยนต์หลักในการยกระดับธนาคารสู่ “ธนาคารแห่งอนาคต” ด้วยการนำ AI เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างสมบูรณ์ และมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียงสร้างความพึงพอใจ แต่ต้องสามารถคาดการณ์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าได้แบบรายบุคคล รวมถึงการนำ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมของบุคลากร และสร้างไทยพาณิชย์ให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น” นายกฤษณ์ กล่าวปิดท้าย
ธนาคารไทยพาณิชย์ มุ่งสู่ความเป็นเลิศในยุคดิจิทัล
ธนาคารไทยพาณิชย์ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการนำพาองค์กรฝ่าฟันอุปสรรคและความท้าทายในปี 2568 โดยอาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลง และการปรับโครงสร้างองค์กรให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าในยุคดิจิทัล เพื่อส่งมอบบริการที่ตรงใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ธนาคารไทยพาณิชย์มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า กลยุทธ์ "Digital Bank with Human Touch" จะเป็นปัจจัยหลักที่นำมาซึ่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และธำรงไว้ซึ่งสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมธนาคาร พร้อมกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว กล่าวโดยสรุป ธนาคารไทยพาณิชย์ได้วางรากฐานที่มั่นคงเพื่อมุ่งสู่การเป็น "ธนาคารแห่งอนาคต" ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพในการตอบสนองความต้องการ และสร้างความพึงพอใจอันสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี นวัตกรรม และการบริการที่เข้าถึงลูกค้าอย่างแท้จริง
ไทยพาณิชย์เผยผลประกอบการไตรมาส 3/67 แข็งแกร่ง ย้ำความสำเร็จกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ส่งผลให้ธนาคารไทยพาณิชย์มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2567 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 3.85 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (yoy) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 3.1% yoy รายได้จากธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% yoy อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 12.1% ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic Systemically Important bank: D-SIBs) และมีต้นทุนต่อรายได้ที่ 36.7% ซึ่งต่ำที่สุดในระบบ D-SIBs
ในด้านความยั่งยืน ธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงยึดมั่นในบทบาทพันธมิตรที่ช่วยผลักดันให้ลูกค้าทุกกลุ่มปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยมียอดสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนกว่า 1.34 แสนล้านบาท (ณ พฤศจิกายน 2567) จากเป้าหมาย 1.5 แสนล้านบาทในปี 2568
ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาธนาคารดิจิทัล ผ่าน 5 ผลงานสำคัญ ได้แก่
ในส่วนของธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ธนาคารไทยพาณิชย์มีผลงานที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยรายได้จากการบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% yoy ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน (Asset Under Advisory) เติบโต 11% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่เติบโต 1.5% นอกจากนี้ ธนาคารยังครองอันดับหนึ่งในด้านสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการประเภทอนุพันธ์แฝง (Structured Product) ครองอันดับหนึ่งในด้าน Wealth Lending และรักษาอันดับหนึ่งในด้านยอดขายประกันผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร (Bancassurance) ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 23%