หลังจากที่ KOSÉ บริษัทความงามยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่เป็นเจ้าของเครื่องสำอางตัวดังอย่าง Sekkisei หรือ Decorté ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ PAÑPURI แบรนด์ลักซ์ซูรี่เวลเนสของไทย โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงิน เมื่อวัน 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา
KOSÉ เพียงระบุในแถลงการณ์นี้ว่า การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยให้ Pañpuri สามารถเพิ่มขีดความสามารถของแบรนด์ และ เร่งการปรากฏตัวในตลาดต่างประเทศในฐานะ ‘แบรนด์สุขภาพสุดหรูตัวจริงจากเอเชีย’
บทความนี้ SPOTLIGHT จึงอยากชวนทุกคนมารู้จัก Pañpuri ลักซ์ชูเวสเนสไทย ยอดขายระดับ 500 ล้าน หลัง Kosé แบรนด์ยักษ์ญี่ปุ่น เข้าซื้อกิจการ
Pañpuri หรือ ปัญญ์ปุริ เป็นแบรนด์ Luxury ด้านเวลเนสและสปาของไทย ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2546 หรือเมื่อ 21 ปีที่แล้ว โดยคุณวรวิทย์ ศิริพากย์
ซึ่งในวันที่แบรนด์ได้ก่อตั้ง คุณวรวิทย์ ได้มองเห็นโอกาสในระดับลักซ์ซูรี่เซกเมนต์ อย่างสปาชั้นในโรงแรม 5 ดาวในเมืองไทย มักจะใช้แค่ ผลิตภัณฑ์ สกินแคร์ และเครื่องหอมที่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ไม่มีแบรนด์ไทยเลย ทำให้มีความคิดอยากจะสร้างแบรนด์ไทยให้ทัดเทียมระดับสากล แต่สิ่งที่สำคัญ คือต้องเป็นแบรนด์ไทยระดับพรีเมียมที่ได้แรงบันดาลใจจากแนวทางการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้านของไทย
จุดเด่นของแบรนด์ ปัญญ์ปุริ คือ การสร้างเอกลักษณ์แบรนด์ให้ชัดโดยใส่ความเป็นไทยเข้าไปในตัวสินค้า ผลิตภัณฑ์ และการบริการ แต่ในขณะเดียวกันต้องคุณภาพของสินค้าต้องทัดเทียมระดับสากล
ปัจจุบัน ปัญญ์ปุริ มีสินค้ากว่า 2,300 รายการ ผ่านสาขาตัวเองและช่องทางออนไลน์ต่างๆ มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมด้านเวลเนสและสปา อย่างเช่น เครื่องหอม เทียนอโรม่า สเปรย์ฉีดหมอน (ช่วยให้ผ่อนคลาย) สบู่อาบน้ำ โลชั่นทาผิว สกินแคร์ ลิปบาล์ม
มีสาขามากกว่า 26 ร้านค้า ตามห้างสรรพสินค้าสุดหรู และมีสปาเวลเนส 3 แห่งได้แก่ ห้างสรรพสินค้า Gayson tower, โรงแรม Park Hyatt และ โรงแรม Andaz ที่พัทยา นอกจากนี้ Pañpuri ยังเจาะตลาดต่างประเทศ โดยสามารถขายใน 15 ประเทศทั่วเอเชียและยุโรป เช่น ห้างสรรพสินค้า Madinat Jumeirah ในดูไบ ห้าง Lotte ประเทศเกาหลีใต้ ห้างอิเซตัน ห้างทาคาชิมายะ ห้างมิซูโกชิ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเข้าไปอยู่ในสปาของโรงแรมระดับ 5 ดาว ในประเทศไทยและทั่วโลก เช่น Park Hyatt Bangkok, Centara และ Shangri-La
รายได้ 450,823,264 บาท
ขาดทุน -28,638,379 บาท
รายได้ 195,787,879 บาท
ขาดทุน -217,197,282 บาท
รายได้ 200,512,273 บาท
ขาดทุน -61,812,607 บาท
รายได้ 313,516,105 บาท
กำไร 5,611,354 บาท
รายได้ 579,792,919 บาท
กำไร 83,307,763 บาท
อ้างอิง : Pañpuri