Highlight
ไฮไลต์
ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยเติบโต 7.5 หมื่นล้าน สูงกว่าตลาดโลก ทาสยุคใหม่ที่รักสัตว์เลี้ยงเหมือนลูก
ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในลักษณะ “Pet Parent” รักเหมือนลูก
ซึ่งพร้อมทุ่มเททั้งเวลาและเม็ดเงินเพื่อให้สัตว์เลี้ยงที่รักได้รับอาหารที่ดีที่สุดในทุกช่วงอายุ
ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในลักษณะ “Pet Parent” รักเหมือนลูกซึ่งพร้อมทุ่มเททั้งเวลาและเม็ดเงินเพื่อให้สัตว์เลี้ยงที่รักได้รับอาหารที่ดีที่สุดในทุกช่วงอายุ
มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทย (2563–2567)
ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงไทย โดยในปี 2567 อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 75,000 ล้านบาท
จากข้อมูลของ KResearch พบว่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องด้วยอัตราสองหลักในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และยังคงขยายตัวในปี 2567 ดังนี้
- ปี 2563: 18,000 ล้านบาท (+2.3%)
- ปี 2564: 21,300 ล้านบาท (+18.3%)
- ปี 2565: 27,200 ล้านบาท (+27.7%)
- ปี 2566: 36,000 ล้านบาท (+32.4%)
- ปี 2567: 41,700 ล้านบาท (+15.8%)
การเติบโตนี้ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของจำนวนครัวเรือนที่เลี้ยงสัตว์และการเพิ่มความสำคัญกับอาหารที่มีคุณภาพสูง
การบริโภคอาหารสัตว์เลี้ยงในไทย (2563–2567)
ข้อมูลจาก Grand View Research แสดงให้เห็นว่า ปริมาณการบริโภคอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยก็เพิ่มขึ้นทุกปี แม้จะมีอัตราการเติบโตที่ช้ากว่ามูลค่าตลาด แต่สะท้อนถึงการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและราคาสูงขึ้น
- ปี 2563: 294,000 ตัน (+10.5%)
- ปี 2564: 315,000 ตัน (+7.1%)
- ปี 2565: 334,000 ตัน (+6.0%)
- ปี 2566: 354,000 ตัน (+5.6%)
- ปี 2567: 375,000 ตัน (+5.9%)
ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงไทยเทียบกับตลาดโลก
ข้อมูลจาก Statista ชี้ให้เห็นว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยเติบโตสูงกว่าตลาดโลก โดยตลาดโลกมีมูลค่าดังนี้
- ปี 2563: 111,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.9 ล้านล้านบาท)
- ปี 2564: 121,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.2 ล้านล้านบาท)
- ปี 2565: 133,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.6 ล้านล้านบาท)
- ปี 2566: 143,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.0 ล้านล้านบาท)
- ปี 2567: 151,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.2 ล้านล้านบาท)
การบริโภคอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกในเชิงปริมาณมีการเติบโตช้าลง เช่นในปี 2567 มีปริมาณ 52.9 ล้านตัน (+2.8%)
ทำไม? ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงไทยเติบโตเหนือกว่าตลาดโลก
- 1. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนสูงกว่าเฉลี่ยโลก จากข้อมูล TGM Research พบว่าคนไทยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในอัตรา 73% ของครัวเรือน สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 58% โดยมีการเลี้ยงสัตว์เฉลี่ยต่อครอบครัวดังนี้ 1 ตัว: 45%2 ตัว: 23%3 ตัว: 8%4 ตัวขึ้นไป: 24%
- 2. การเติบโตของกลุ่ม SINK/DINK และแนวคิด Pet Parent การเพิ่มขึ้นของกลุ่ม SINK (Single Income No Kid) และ DINK (Double Income No Kid) กระตุ้นให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงหันมาใส่ใจกับอาหารเกรดพรีเมียมมากขึ้น เช่น อาหารเปียก อาหาร Holistic และอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน โดยข้อมูลจาก The 1 Insight ระบุว่า อาหาร Holistic เติบโตถึง 20% ในปี 2566 ทั้งนี้ กลุ่ม Pet Parent มีการใช้จ่ายต่อปีสูงถึง 22,500 บาท/ตัว ซึ่งมากกว่ากลุ่ม Pet Ownership ทั่วไปที่ใช้เพียง 5,545 บาท/ตัว
3. การแข่งขันในตลาดที่ดุเดือด ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยมีผู้เล่นกว่า 300 ราย ซึ่งมุ่งเน้นสร้างความแตกต่างผ่านการพัฒนาสูตรอาหารหลากหลาย การใช้โฆษณา และการใช้อินฟลูเอนเซอร์เพื่อดึงดูดผู้บริโภค
ที่มา : KResearch , Grand View Research , Statista , TGM Research