“กินอะไร กินอะไร กินอะไร ไปกิน MK” หากใครคุ้นหูกับเพลงนี้เชื่อว่า คุณคงมีภาพจำว่า MK = ร้านสุกี้น้ำจิ้มเจ้าเด็ดที่มีตัวชูโรงเป็นเป็ดย่างหมูแดงหมูกรอบและหมี่หยก เพราะนี่คือเพลงประจำของร้าน MK สุกี้ ที่ได้อยู่มากว่า 38 ปี ที่ได้ซ่อนกลยุทธ์การตลาดสุดชาญฉลาด Music Marketing อยู่ในเนื้อเพลงนี้ ทำให้ทุกคนสามารถจำภาพว่าหากจะไปกินสุกี้ ต้องไปกินร้าน MK
แต่ล่าสุด MK ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อในรอบ 39 ปี จาก ‘MK’ Restaurants จะขอเปลี่ยนเป็น ‘MongKol’ Restaurants หรือ ‘มงคล’ เรสโตรองต์ ผ่านทางเพจ Facebook ของทางร้าน พร้อมกับประกาศว่าจะมีการเปลี่ยนป้ายจาก MK Restaurants เป็น MongKol Restaurants ถึง 4 สาขาด้วยกัน เพื่อรับกับแคมเปญตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้
เพจของ MK โพสข้อความว่า “ถ้าคุณเช็คสีเสื้อมงคลก่อนออกจากบ้าน ทะเบียนรถต้องถูกโฉลก ตั้งวอลเปเปอร์มือถือเสริมดวง ตรุษจีนนี้ เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะนี่คือ…ครั้งแรกในรอบ 39 ปี!!! ที่ ‘MK’ restaurants จะขอเปลี่ยนเป็น ‘MongKol’ restaurants เสริมความ ‘มงคล’ ให้ทุกครอบครัว เช็คอิน MongKol ได้แล้ววันนี้ ที่ 4 สาขาพิเศษ 1. สามย่านมิตรทาวน์ 2. เซ็นทรัล เวสต์เกต 3. เซ็นทรัล พระราม 9 4. เซ็นทรัล พระราม 3 ปล. เข้าร้าน MK สาขาอื่น ก็ยังมงคลรับตรุษจีนเพราะมีเมนูมงคลสุดเซอร์ไพรส์ ให้อิ่มเฮงทั้งเทศกาล!”
ซึ่งการประกาศชื่อในครั้งนี้ ทำเอาชาวเน็ตหลายๆคนต่างเข้ามาคอมเมนต์พูดคุยชอบใจกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคำว่า ‘มงคล’ เป็นวลีฮิตติดปาก ‘มงคล เปิดประตูให้เปี๊ยกหน่อย’ จากภาพยนต์เรื่องโหดหน้าเหี่ยว พร้อมกับถามแอดมินเพจว่า ‘มงคล’ จะเป็นชื่อถาวรของ MK เลยหรือไม่ เพราะการประกาศเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้ เป็นเพียงแค่แคมเปญต้อนรับช่วงเทศกาลตรุษจีนเท่านั้น
ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นหลายๆแบรนด์ต่างเข้ามาทำการตลาดเพื่อให้โดนใจกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงที่ไม่ว่าแบรนด์ไหนๆทำก็จะได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น นั้นก็คือ การทำการตลาดแบบ “มูเก็ตติ้ง”
ซึ่งการที่ MK เปลี่ยนชื่อเป็น ‘มงคล’ คำว่า ‘มงคล’ แปลว่า เหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ, สิ่งที่นำสิริ และความเจริญมาสู่ และป้องกันไม่ให้สิ่งเลวร้ายมากล้ำกราย เช่น วัตถุมงคล, เรียกงาน หรือพิธีที่จัดให้มีเพื่อความเป็นสิริ และความอยู่เย็นเป็นสุข เช่น งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานแต่งงานว่า งานมงคล
สะท้อนให้เห็นว่าหากทุกคนเลือกมากิน Mongkol Restaurants จะได้เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับทุกครอบครัวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องของความเชื่อและโชคลาภเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้ขอ MK แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์กล้าออกจากกรอบเดิมๆ สร้างความตื่นเต้น แปลกใหม่ และสดชื่นให้แก่ผู้บริโภค หรืออาจจะสะท้อนให้เห็นว่าในยุคปัจจุบันหากแบรนด์ไม่ยอมปรับตัวก็อาจจะอยู่ไม่รอดท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดขนาดนี้
เพราะหากเราส่องผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พบว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 3,683 ล้านบาท ลดลง 412 ล้านบาท หรือลดลง 10.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรอยู่ที่ 341 ล้านบาท ลดลง 48 ล้านบาท หรือ -12.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลงจากค่าครองชีพ และภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมทั้งการแข่งขันของร้านอาหารประเภทหม้อร้อนในประเทศไทยที่รุนแรงและแตกกลุ่มออกมามากขึ้น เชื่อว่า MK เองปรับตัวสู้กับการแข่งขันที่เกิดขึ้นไม่น้อยเช่นกัน