Cryptomind มุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี เผยกลยุทธ์ 5 ปี มุ่งสู่ผู้นำอันดับหนึ่ง พร้อมขับเคลื่อนสินทรัพย์ดิจิทัลไทยบนเวทีโลก ผ่านกลยุทธ์ 3Cs เน้นสร้างชุมชน (Community) ส่งเสริมการมีส่วนร่วม (Contribution) และสร้างความมั่นใจ (Confidence)
นายอัครเดช เดี่ยวพานิช ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะเผชิญกับภาวะขาลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ Cryptomind ยังคงยืนหยัดและปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการวิจัย พัฒนา และทดลองแนวทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตลาดขาขึ้นในปี 2024
ด้วยกลยุทธ์ 3Cs และความมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำตลาด Cryptomind มุ่งสู่เป้าหมายเป็นผู้นำด้าน Web3 ในเอเชีย ผสมผสานธุรกิจหลักที่มั่นคง พร้อมกลยุทธ์ที่เน้นการเติบโตเพื่อคว้าศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของคริปโทเคอร์เรนซี
การสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี อาจฟังดูท้าทาย ด้วยความผันผวนของตลาด แต่ Cryptomind มุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ว่าเป็นไปได้ ผ่านกลยุทธ์ที่แหวกแนวและโมเดลธุรกิจที่มั่นคง โดยมีโมเดลธุรกิจ 3 เสาหลักดังนี้
นาย สัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า Cryptomind Group ตั้งเป้าเป็นดัชนีมูลค่าของอุตสาหกรรมคริปโทฯ ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ด้วยกลยุทธ์ที่พร้อมสร้างกำไรในภาวะตลาดขาขึ้น และสร้างรายได้ที่มั่นคง ล่าสุด Cryptomind Group ระดมทุน Series A ได้กว่า 120 ล้านบาท จาก Beacon Venture Capital ของธนาคารกสิกรไทย Aviary Asia Capital และ Hashkey เพื่อต่อยอดธุรกิจในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทฯ มองอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยและตลาดโลกมีความเกี่ยวพันกัน โดยเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะข้ามพรมแดนทางการเงิน ช่วยให้ประเทศไทยเติบโตบนเวทีโลก Cryptomind ในฐานะบริษัทไทย มุ่งมั่นทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศเพื่อคว้าโอกาสในตลาดโลก เชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่น และให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลไทยและต่างประเทศ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางใหม่สำหรับผู้ใช้ นักลงทุน และนักพัฒนาจากทั่วโลก
นาย พีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวว่า ตลาดคริปโทฯ กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของมูลค่าตลาดและ จำนวนผู้ใช้งาน สถาบันการเงินเริ่มให้ความสนใจและลงทุนในคริปโทฯ มากขึ้น กฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโท เคอร์เรนซีเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น โดย Bitcoin ยังคงเป็นเหรียญหลัก ได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะสิน ทรัพย์สำรอง Ethereum เติบโตอย่างแข็งแกร่ง Ethereum 2.0 กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ DeFi บน Ethereum ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว Altcoins มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีโปรเจคต์ Blockchain ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่น่า เชื่อถือ เนื่องจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซียังมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรลงทุนด้วยความ ระมัดระวังและควรเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ
นายพีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าว Merkle Capital คือ ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ในปีนี้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ถือเป็นปีที่ดีในการแบ่งสัดส่วนมาลงทุนใน ตลาดคริปโทฯ แต่การจะประสบความสำเร็จในตลาดที่ผันผวนนี้นั้น จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและการ จัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทเข้าใจดีถึงความท้าทายเหล่านี้ และพร้อมที่จะช่วยให้นักลงทุน บรรลุเป้าหมายทางการเงินด้วยบริการจัดการกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุม
Merkle Capital มีทีมผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง พร้อมนำ เสนอกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกรูปแบบ โดยการลงทุนของ บริษัทขับเคลื่อนด้วยการวิจัยเชิงลึกและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด มีมาตรฐานการรักษาความ ปลอดภัยระดับสถาบันเพื่อปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัล มีระบบตรวจสอบภายในและภายนอกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
นอกจากนี้ บริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) อย่างเคร่งครัด มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและ ตรวจสอบได้
**คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและ สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้