Pop Mart อาณาจักรของเล่นสุดคิ้วท์ กับรายได้พุ่งทะยานกว่า หมื่นล้านบาท

กระแสความฮิตของลาบูบู้ ทำให้หลายคนอยากรู้ความปังของ Pop Mart บริษัทผู้ผลิตของเล่นสะสมแบบกล่องสุ่มจากจีน เจ้าของฟิกเกอร์ยอดฮิตอย่าง MOLLY, Skullpanda, The Monsters และ DIMOO ซึ่งผลประกอบการประจำปี 2023 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ Pop Mart ประสบความสำเร็จ? มาดูกัน!

Pop Mart อาณาจักรของเล่นสุดคิ้วท์ กับรายได้พุ่งทะยานกว่า หมื่นล้านบาท

รายงานผลประกอบการประจำปี 2023 ของ Pop Mart International Group Limited บริษัทผู้ผลิตของเล่นสะสมแบบกล่องสุ่ม จากประเทศจีน เปิดผลประกอบการปี 2023 รายได้พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำรายได้ไปถึง 6,301 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 12,602 ล้านบาท เติบโต 36.5% จากปีก่อน กำไรสุทธิ: 1,082 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 2,164 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 127.5% จากปีก่อน

โดยยอดขายใน Douyin (TikTok เวอร์ชั่นจีน) เติบโตเกือบ 5 เท่าจนกลายเป็นช่องทางขายสำคัญ ดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ของบริษัท และปีนี้ Pop Mart ตั้งเป้าขยายการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างแข็งแกร่ง

จุดเด่นที่ทำให้ Pop Mart มีผลประกอบการดีในปี 2023

• ของเล่นดีไซน์เก๋ น่าสะสม: Pop Mart ร่วมมือกับศิลปินมากมาย ออกแบบฟิกเกอร์ที่มีเอกลักษณ์จากการดีไซน์สุดล้ำเฉพาะ จนดึงดูดใจนักสะสมจำนวนมาก
• กลยุทธ์กล่องสุ่ม: เพิ่มความตื่นเต้น ลุ้นตัวละครหายาก กระตุ้นการซื้อซ้ำ
• ช่องทางจำหน่ายหลากหลาย: Pop Mart มีหน้าร้านกว่า 363 แห่ง ครอบคลุม 23 ประเทศ ตู้ขายอัตโนมัติ(Roboshops) 2,190 เครื่อง และยังขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มชั้นนำ

 

สรุปรายงานผลประกอบการปี 2023 รายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์!

• รายได้: 6,301 ล้านหยวน สูงกว่าคาดการณ์
• กำไรขั้นต้น: 3,864 ล้านหยวน คิดเป็น Gross margin 61.3%
• กำไรจากการดำเนินงาน: 1,230 ล้านหยวน คิดเป็น Operating margin 19.5%
• กำไรสุทธิ: 1,082 ล้านหยวน พุ่ง 127.5%
• เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด: 2,077 ล้านหยวน
• กำไรสะสม: 3,330 ล้านหยวน
  

  สำหรับ 5 อันดับคาแรคเตอร์ Art Toys ที่ทำเงินสูงสุดในปี 2023

  • Skullpanda: 1,024 ล้านหยวน
  • Molly: 1,020 ล้านหยวน
  • Dimoo: 737 ล้านหยวน
  • The Monsters: 367 ล้านหยวน

  ส่วนน้อง Hirono ถึงแม้จะไม่ติด 5 อันดับแรกแต่น้องก็ยังทำรายได้สูงถึง 351 ล้านหยวน

สัดส่วนรายได้ของ Pop Mart ในแต่ละประเทศ

ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ คือรายได้หลักคิดเป็น 83% ของรายได้รวมทั้งหมด 5,234 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 25.7%YoY โดยแบ่งได้ดังนี้

• หน้าร้าน POP MART: 2,479 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 46.6%YoY
• แพลตฟอร์มออนไลน์: 1,710 ล้านหยวน ลดลง -6.5%YoY
• Douyin (TikTok เวอร์ชั่นจีน): 283 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 431.2%YoY
• ตู้ขายอัตโนมัติ (Roboshops): 548 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 44.8%YoY
• ขายส่งให้ร้านค้าปลีกอื่น: 496 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 88.4%YoY

ลองลงมาคือ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และตลาดอื่นๆ คิดเป็น 17% ของรายได้รวม1,066 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 135%YoY

• หน้าร้าน POP MART: 582 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 330%YoY
• แพลตฟอร์มออนไลน์: 155 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 72.7%YoY
• ตู้ขายอัตโนมัติ (Roboshops): 57 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 277.3%YoY
• ขายส่งให้ร้านค้าปลีกอื่น: 270 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 26.8%YoY

ผลประกอบการย้อนหลัง 4 ปีของบริษัท Pop Mart International Group Limited (HK : 9992) 

• ปี 2020 รายได้ 2,513 ล้านหยวน กำไรสุทธิ 523 ล้านหยวน
• ปี 2021 รายได้ 4,490 ล้านหยวน กำไรสุทธิ 854 ล้านหยวน
• ปี 2022 รายได้ 4,617 ล้านหยวน กำไรสุทธิ 475 ล้านหยวน
• ปี 2023 รายได้ 6,301 ล้านหยวน กำไรสุทธิ 1,082 ล้านหยวน

สรุป จีนแผ่นดินใหญ่ ยังเป็นตลาดหลัก ของ Pop Mart แม้ว่าช่องทางออนไลน์ ในจีนแผ่นดินใหญ่มีสัดส่วนลดลง แต่ Douyin เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้านตลาดต่างประเทศ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และหน้าร้าน POP MART ยังคงเป็นบทบาทสำคัญในทุกตลาดที่ทำรายได้เข้าบริษัท

ลิซ่า Blackpink ปลุกกระแส Pop Mart ทำราคาพุ่งไปดาวอังคาร

จากเหตุการณ์ที่ลิซ่าโพสต์ไอจีสตอรี่ ถือกล่อง "ลาบูบู้มาการอง" หรือ "The Monster Exciting Macaron" กลายเป็นสินค้าแรร์ไอเทม ดันราคาพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นจากเดิมที่มีราคาอยู่ที่ 1,000 บาทขึ้นไป จนถึง 10,000 ล่าสุดมีข่าวว่าถึงหลักแสนบาทแล้ว ด้าน น้ำเพชร อิสรีย์ นางงามชื่อดัง ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "จบละ ลาบูบู้ลิซ่าถือปุ้บจากboxละ6,xxx ไป35,xxx กุจะเครซี่" ซึ่งต่อมา ชาวโซเชียลได้เข้ามาแสดงความเห็นใต้โพสต์แซวว่า ราคานำมาขายต่อ อาจจะราคาสูงถึงหลักแสนบาทแล้ว ปรากฏการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของลิซ่า BLACKPINK ที่สามารถสร้างกระแสและผลักดันสินค้าให้เป็นที่ต้องการอย่างมหาศาล

เปิดไทม์ไลน์บริษัท Pop Mart International Group Limited

• ปี 2553 ก่อตั้งโดยคุณ Wang Ning (ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 44.91%) โดยเปิดสาขาแรกที่เมืองหนานหนิง ประเทศจีน เริ่มดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ ของเล่น ขนมขบเคี้ยว ของตกแต่งบ้าน และสินค้าเสื้อผ้าบุรุษ
• ปี 2557 ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ มุ่งเน้นไปที่การจำหน่ายของเล่นสะสมแบบกล่องสุ่ม
• ปี 2559 ได้ร่วมงานกับคุณ Kenny Wong ศิลปินชาวฮ่องกง จนสร้างสรรค์คาแรกเตอร์และกำเนิดเป็น "น้อง Molly" จนประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย
• ปี 2560 ได้ก่อตั้ง Pop Design Center (PDC) เพื่อค้นหาและบ่มเพาะศิลปินหน้าใหม่
• ปี 2561 เริ่มขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก
• ปี 2563 ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยทำการเสนอขายหุ้น IPO ในราคา 38.50 ดอลลาร์ฮ่องกง
• ปัจจุบัน Pop Mart ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดของเล่นสะสมแบบกล่องสุ่ม และเป็นเจ้าของคาแรกเตอร์ยอดนิยมมากมาย เช่น Molly, Dimoo, Skullpanda ในเวลานี้มีมีหน้าร้านกว่า 363 แห่ง และครอบคลุม 23 ประเทศ

Pop Mart พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าของเล่นไม่ใช่แค่ของเล่นสำหรับเด็ก แต่สามารถเป็นงานศิลปะ ของสะสม และสร้างอาณาจักรธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ได้ อนาคตของ Pop Mart นั้นสดใส และน่าติดตามว่าพวกเขาจะสร้างปรากฏการณ์อะไรต่อไป

ที่มา popmart, prodoutrespopmart, yicaiglobal และ aastocks