หากใครใช้งานแชทบอท ChatGPT เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย. 2567) คงพบปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล่มหลายรอบไม่ใช่น้อย ทำให้ OpenAI ต้องออกมาแก้ระบบอยู่หลายชั่วโมงเพื่อให้บริการแชทบอทกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
จากเว็บไซต์ status.openai.com ที่ติดตามสถานะบริการของแชทบอท พบว่า OpenAI แก้ปัญหาระบบล่มครั้งแรกเมื่อเวลา 14.21 น. ตามเวลาประเทศไทย และต่อมาช่วง 18.19 น. ที่ OpenAI กล่าวว่าได้แก้ไขปัญหานี้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการอัปเดตนี้ OpenAI กล่าวว่ากำลังตรวจสอบการหยุดทำงานของ ChatGPT อีกครั้งเมื่อเวลา 21.33 น. ตามเวลาประเทศไทย และได้ทำการแก้ไขระบบให้กลับมาใช้งานอีกครั้งในเวลา 00.17 น. ของวันนี้ (5 มิ.ย. 2567) ตามเวลาประเทศไทย โดยแจ้งว่า ระบบทั้งหมดกลับมาใช้งานได้แล้ว
ขณะที่ข้อมูลของ OpenAI แชทบอท ChatGPT มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนต่อสัปดาห์ หรือพูดง่ายๆ เฉลี่ยวันละเกือบ 15 ล้านราย ทำให้ระบบ ChatGPT ที่ล่มเกือบหลายชั่วโมง ต้องหยุดให้บริการสำหรับผู้ใช้หลายรายทั่วโลก กระทบไปถึงวงกว้าง เห็นได้จากจำนวนโพสต์ที่มีการร้องเรียนและแสดงความไม่พอใจบนแพลตฟอร์ม X และ Threads
ถาม ChatGPT ตรงๆ ระบบล่มเพราะอะไร?
ในเมื่อปัญหาระบบล่มของ ChatGPT ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน SPOTLIGHT จึงลองพิมพ์ถามแชทบอท ChatGPT ถึงสาเหตุของปัญหาระบบล่มครั้งล่าสุด และพบคำตอบดังนี้:
“ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การหยุดทำงานของแชทบอท เช่น ChatGPT หรือ Claude อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ:
หากต้องการรายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ ChatGPT หรือ Claude หยุดทำงานในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา วิธีที่ดีที่สุด คือ ตรวจสอบประกาศอย่างเป็นทางการจากผู้ให้บริการ (OpenAI สำหรับ ChatGPT และ Anthropic สำหรับ Claude) โดยทั่วไปองค์กรเหล่านี้จะให้ข้อมูลอัปเดตและคำอธิบายเกี่ยวกับการหยุดชะงักของบริการผ่านทางเว็บไซต์หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย”
ไม่ใช่แค่ ChatGPT เท่านั้นที่ล่ม
นอกจาก ChatGPT แล้ว แชทบอท AI รายอื่น ก็พบปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล่มเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Claude และ Perplexity ของ Anthropic และ Gemini ของ Google ที่ประสบปัญหาเช่นกัน แต่ปัญหาระบบล่มได้รับการแก้ไขที่รวดเร็วกว่า
โดยเว็บไซต์ของ Claude ขึ้นข้อความอธิบายถึงข้อผิดพลาดของระบบ และแนะนำให้ผู้ใช้งานกดรีเฟรชอีกครั้ง ซึ่งต่อมาช่วง ตี 2.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ระบบสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติ แต่ไม่ได้มีการอธิบายสาเหตุที่ระบบล่มแต่อย่างไร
ส่วนเว็บไซต์ของ Perplexity ระบุว่า เนื่องจากมีผู้ใช้งานมากเกินที่ระบบจะรองรับได้ จึงเกิดเหตุขัดข้องชั่วคราว โดยจะกลับมาใช้งานได้เร็วๆ นี้ ซึ่งเว็บไซต์กลับมาทำงานได้อีกครั้ง พร้อมๆ กับ Claude ถึงแม้หลังจากนั้นก็มีติดๆ ขัดๆ เป็นระยะ
ในขณะที่ Gemini ของ Google ที่ดูเหมือนว่าจะใช้งานได้ตามปกติ กลับพบว่า ระบบขัดข้องในช่วงสั้นๆ ตามรายงานของผู้ใช้บางราย แต่สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ ในช่วงที่ ChatGPT หยุดทำงาน มีการค้นหาคำว่า ‘Gemini’ บน Google เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 60% แตะ 327,058 ครั้ง จากปริมาณการค้นหาเฉลี่ยต่อวันที่ 204,991 ครั้งระหว่างวันที่ 4 พฤษภาคม ถึง 3 มิถุนายน 2567 ตามข้อมูลจาก QRFY
นอกจากนี้ ยังมีการระบุว่า การค้นหา ‘Microsoft Copilot’ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ว่าจะน้อยกว่าการค้นหาสำหรับ Gemini ก็ตาม โดย Marc Porcar ซีอีโอ QRFY กล่าวว่า Google ได้ใช้ความพยายามในการวางตัวเองเป็นคู่แข่งหลักของ OpenAI สำหรับ conversational AI และได้เห็นสัญญาณที่ชัดเจนจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
Porcar ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า มีแนวโน้มที่คล้ายคลึงกันอย่างชัดเจน ระหว่างการหยุดทำงานของ ChatGPT และการค้นหาที่เพิ่มขึ้นของ Gemini ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้คนมอง Gemini เป็นตัวเลือกสำรองในกรณีที่ไม่มี ChatGPT
จำนวนผู้ใช้งานล้นหลาม-ปัญหาระบบหลังบ้าน อาจทำให้ ChatGPT ล่ม
จากปัญหาที่ระบบของแชทบอท AI รายใหญ่ทั้งสี่รายล่มพร้อมกัน ส่งสัญญาณให้เห็นถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่กว้างขึ้น หรือปัญหาระดับอินเทอร์เน็ต เช่น ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อไซต์โซเชียลมีเดียหลายแห่งพร้อมกัน
สำหรับ Claude และ Perplexity เอง เป็นไปได้ว่าปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากข้อบกพร่องหรือปัญหาอื่นๆ แต่มาจากการรับส่งข้อมูลมากเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจาก ChatGPT หยุดทำงานในช่วงขณะ ผู้ใช้งานจึงหันไปใช้บริการแชทบอทรายอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้ว เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระบบของ ChatGPT ล่มยาวนานขนาดนี้ เพราะย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2023 ระบบของ ChatGPT ล่มนานถึง 90 นาที ซึ่งตอนนั้น OpenAI เผยทีหลังว่า สาเหตุของปัญหาระบบล่มมาจากการโจมตีแบบ DDoS
โดย Microsoft เผยว่า การโจมตีแบบ DDoS มุ่งเป้าเว็บไซต์และเซิร์ฟเวอร์โดยรบกวนบริการของเครือข่ายเพื่อพยายามทำให้ทรัพยากรของแอปพลิเคชันหมดลง ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังการโจมตี ทำให้ไซต์มีปริมาณการใช้งานมากผิดปกติ ทำให้การทำงานของเว็บไซต์ไม่ดีหรือทำให้ออฟไลน์โดยสิ้นเชิง สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจมหาศาล
สำหรับการล่มของเซิร์ฟเวอร์ ChatGPT รอบล่าสุด ยังไม่มีการแถลงหรืออธิบายจาก OpenAI แต่อย่างไร ได้แต่มีการวิเคราะห์ว่า สาเหตุทั่วไป คือ การโอเวอร์โหลดเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากโมเดล AI ที่โฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ ChatGPT อาจทำงานหนักเกินไปเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมากพยายามเข้าถึงพร้อมกัน ซึ่งอาจส่งผลให้เวลาตอบสนองช้าหรือแม้กระทั่งใช้งานไม่ได้ชั่วคราว
ส่วนอีกสาเหตุที่เป็นไปได้ คือ การปรับปรุงรักษาระบบหลังบ้าน เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์อื่นๆ ChatGPT ต้องการการอัปเดตและปรับปรุงเป็นประจำ ทำใหhบริการอาจไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราวระหว่างการซ่อมบำรุง เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนไปใช้เวอร์ชันอัปเดตเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ปัญหาทางเทคนิคที่ไม่คาดคิดยังสามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ความผิดพลาดของซอฟต์แวร์ไปจนถึงฮาร์ดแวร์
ซึ่งดูเหมือนปัญหาที่นักวิเคราะห์ต่างออกมาอธิบาย ก็ไม่ต่างจากคำตอบที่ ChatGPT ได้แสดงออกมานั่นเอง
ที่มา TechCrunch 1, TechCrunch 2, The Verge, Dataconomy, Microsoft, Investopedia, OpenAI