ตอนนี้เครื่อง Windows หลายพันเครื่องกำลังประสบปัญหาจอฟ้ามรณะ (Blue Screen of Death - BSOD) ในขณะบูตเครื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อธนาคาร สายการบิน สถานีโทรทัศน์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมายทั่วโลก
การอัปเดตที่ผิดพลาดจากผู้ให้บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ ‘CrowdStrike’ กำลังทำให้พีซีและเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับผลกระทบออฟไลน์ บังคับให้ผู้ใช้งานเข้าสู่ลูปการบูตการกู้คืน ส่งผลให้เครื่องไม่สามารถเริ่มทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่ง CrowdStrike ถูกใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจจำนวนมากทั่วโลกในการจัดการความปลอดภัยของพีซีและเซิร์ฟเวอร์ Windows
ล่าสุด ‘Microsoft’ ร่อนจดหมายถึงผู้สื่อข่าวว่า “จากกรณีปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows ในขณะนี้ Microsoft ได้รับทราบถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows อยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีเหตุมาจากการอัปเดตแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการรายหนึ่ง และคาดว่าจะมีแนวทางการแก้ไขออกมาเร็วๆ นี้”
'ท่าอากาศยานไทย' ชึ้แจงกรณี Host Data Center ของระบบ Navitaire ขัดข้อง จึงทำให้ทุกสายการบินทั่วโลกที่ใช้ระบบดังกล่าวในทุกท่าอากาศยานไม่สามารถทำการเช็กอินผู้โดยสารและสำรองที่นั่งได้ โดยสายการบิน 'ไทยแอร์เอเชีย' และ 'สกู๊ดไทเกอร์' ได้รับผลกระทบแล้ว
ส่วนสายการบินที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ (1) Air Asia Berhad (AK) (2) Philippines AirAsia (Z2) (3) Indonesia AirAsia (QZ) (4) Air Asia Berhad (AK) (5) Firefly Airlines (FY) (6) INDIGO AIRLINES (6E) (7) Jet Star Asia (3K) (8) CEBU PACIFIC AIR (5J) (9) GO AIRLINES (INDIA) PRIVATE LTD. (G8) (10) HONG KONG EXPRESS AIRWAYS (UO) (11) JETSTAR AIRWAYS PTY LIMITED (JQ) (12) SPICEJET LTD. (SG) (13) THAI AIRASIA X (XJ) และ (14) Norse Atlantic Airways (NO)
ทั้งนี้ AOT จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน เนื่องจากระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic channels) ไม่สามารถใช้งานได้ AOT จึงได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้จัดกำลังพลเต็มทุกช่องตรวจในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยในส่วนของ AOT ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สนามบินเข้าดำเนินการโดยให้ความสะดวกในเรื่องการดูแลผู้โดยสารผ่านการเช็กอินแบบ Manual ส่วนผู้โดยสารที่ได้ทำการเช็กอินล่วงหน้ามาก่อนแล้วและไม่มีกระเป๋าสัมภาระโหลด สามารถใช้ระบบ Biometric ผ่านเข้าสู่จุดตรวจค้นได้เลย
ด้าน 'ท่าอากาศยานดอนเมือง' เผยว่า สายการบินฯ กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขและได้ดำเนินการใช้ระบบสำรอง manual ในการให้บริการ อาจทำให้ผู้โดยสารเกิดความล่าช้าและไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาสนามบินก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเดินทาง
ในขณะที่ 'สายการบินแอร์เชีย' โพสต์บนเฟสบุ๊คว่า เนื่องจากเหตุขัดข้องของระบบ Microsoft Azure กระทบระบบปฎิบัติการบริการภาคพื้น มีปัญหาทั่วโลกและอยู่ระหว่างการแก้ไข ส่งผลถึงระบบการสำรองที่นั่งและระบบเช็คอินในทุกท่าอากาศยานฯ สายการบินจึงดำเนินการใช้ระบบสำรอง manual ในการให้บริการ โดยอาจทำให้เกิดความล่าช้าและไม่สะดวกในการรับบริการ จึงขอแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชม. ก่อนเวลาเดินทาง
ทั้งนี้ สำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ทางสายการบินแจ้งว่าจะไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินในวันนี้แต่อาจมีความล่าช้าในบางเที่ยวบิน ซึ่งผู้โดยสารสามารถเลื่อนเที่ยวบินได้ภายใน 7 วัน
ส่วน 'การบินไทย' ยังไม่ได้ผลกระทบใดๆ และไม่มีผลต่อการทำการบินตามตารางบินปกติ
ทางด้าน 'โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์' โพสต์บนเฟสบุ๊คว่า เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเกิดความขัดข้อง ทำให้ระบบไอทีของโรงพยาบาลเกิดความล่าช้าในการให้บริการ โดยกำลังเร่งทำการแก้ไข หากมีนัดในวันนี้จะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุด ส่วนใครต้องการเลื่อนนัดด้วยตนเอง สามารถติดต่อทางไลน์ @siphcallcenter
ส่วน ธนาคาร สายการบิน และผู้แพร่ภาพกระจายเสียงโทรทัศน์ของออสเตรเลีย ได้ส่งสัญญาณเตือนเป็นครั้งแรกในขณะที่ Windows จำนวนหลายพันเครื่องเริ่มใช้งานไม่ได้ ซึ่งขณะนี้กำลังแพร่กระจายทั่วโลก เนื่องจากธุรกิจที่ตั้งอยู่ในยุโรปกำลังเริ่มต้นวันทำการ
ขณะนี้ผู้ประกาศข่าวในสหราชอาณาจักร Sky News ไม่สามารถออกอากาศกระดานข่าวภาคเช้าได้ และกำลังแสดงข้อความขอโทษสำหรับการหยุดชะงักของการออกอากาศครั้งนี้ ส่วน Ryanair หนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปกล่าวด้วยว่ากำลังประสบปัญหาด้านไอทีจากบุคคลที่สาม’ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินขาออก
ด้านสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า เที่ยวบินทั้งหมดจากเดลต้า ยูไนเต็ด และอเมริกันแอร์ไลน์ ระงับการใช้งานเนื่องจากปัญหาการสื่อสาร โดยสนามบินเบอร์ลินยังเตือนถึงความล่าช้าในการเดินทางเนื่องจากติดปัญหาทางเทคนิค
ส่วนพนักงานหลายพันคนในเมืองต่างๆ ตั้งแต่โตเกียวไปจนถึงลอนดอน ไม่สามารถเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ได้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจตั้งแต่การเงินไปจนถึงการดูแลสุขภาพและบริการสาธารณะ เช่น การขนส่งและบริการฉุกเฉิน
โดย CrowdStrike เผยว่า “เรามีรายงานถึงปัญหา BSOD บน Windows อย่างกว้างขวาง ซึ่งเกิดขึ้นในเซ็นเซอร์หลายเวอร์ชัน” อย่างไรก็ตาม แม้ CrowdStrike ได้ระบุปัญหาและคืนค่าการอัปเดตที่ผิดพลาด แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยเครื่องที่ได้รับผลกระทบแล้ว
โดยในกระทู้ Reddit ผู้ดูแลระบบไอทีหลายร้อยคนกำลังรายงานปัญหาที่แพร่หลาย และขั้นตอนการแก้ปัญหาเกี่ยวข้องกับการบูตเครื่อง Windows ที่ได้รับผลกระทบเข้าสู่เซฟโหมดและการนำทางไปยังไดเร็กทอรี CrowdStrike และการลบไฟล์ระบบ ซึ่งจะเกิดปัญหากับเซิร์ฟเวอร์บนคลาวด์บางตัว หรือแม้แต่แล็ปท็อป Windows ที่ใช้งานและใช้งานจากระยะไกล
ในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นการหยุดทำงานแยกต่างหาก Microsoft กำลังกู้คืนจากปัญหาหลายประการเกี่ยวกับแอปและบริการ Microsoft 365 สาเหตุของปัญหาเหล่านั้นอยู่ที่ ‘การเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าในส่วนของปริมาณงานแบ็กเอนด์ Azure’
ที่มา Financial Times, Siriraj Piyamaharajkarun Hospital, Fly AirAsia, The Verge