เมื่อเร็วๆนี้วงการภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อมีข่าวใหญ่สะท้านวงการว่า โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับแฟรนไชส์จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ในบทบาทโทนี่ สตาร์ค มหาเศรษฐีอัจฉริยะเจ้าของชุดเกราะไอรอนแมน กำลังจะหวนคืนสู่ MCU อีกครั้ง แต่คราวนี้ในบทบาทที่พลิกผันอย่างสิ้นเชิง นั่นคือ ด็อกเตอร์ ดูม วายร้ายผู้ทรงอำนาจและเป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าฮีโร่
การกลับมาครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆ ทั่วโลก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าดาวนีย์จะกลับมารับบทที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเช่นนี้ แม้เนื้อหาของภาพยนตร์ยังคงเป็นปริศนา แต่รายละเอียดทางการเงินเกี่ยวกับการกลับมาของดาวนีย์เริ่มถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
สำนักข่าวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง โดยเฉพาะ Puck News รายงานว่า RDJ จะได้รับค่าตอบแทนและโบนัสรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 3,500 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการกลับมาของดาวนีย์ในครั้งนี้ ค่าตอบแทนดังกล่าวครอบคลุมการปรากฏตัวในภาพยนตร์ Avengers สองภาคที่จะถึงนี้ ได้แก่ "Avengers: Doomsday" ซึ่งจะเป็นการแนะนำตัวละครด็อกเตอร์ ดูม และ "Avengers: Secret Wars" ซึ่งคาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่รวมเหล่าฮีโร่จากทั่วทั้งจักรวาลมาร์เวล
นอกจากนี้ Variety ยังรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ในสัญญาของดาวนีย์ รวมถึง การเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว เพื่อความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว การรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของดาวนีย์ตลอดการถ่ายทำ และที่พักส่วนตัวในกองถ่าย ซึ่งอาจเป็นรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เพื่อให้ดาวนีย์มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับพักผ่อนและเตรียมตัว
นอกจากการกลับมาของดาวนีย์ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ แล้ว ยังมีข่าวดีอีกว่าพี่น้องรุสโซ โจ และแอนโธนี ผู้กำกับคู่หูที่เคยฝากผลงานสุดอลังการไว้ใน "Avengers: Infinity War" และ "Avengers: Endgame" ก็กำลังจะกลับมาสู่ MCU อีกครั้ง โดยคาดว่า พวกเขาจะได้รับค่าเหนื่อยรวม 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือราว 2,800 ล้านบาท) เพื่อกำกับภาพยนตร์ Avengers สองภาคใหม่นี้ ซึ่งมีรายงานว่าการกลับมาของพวกเขานั้นเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทำให้ดาวนีย์ตัดสินใจกลับมารับบทใน MCU อีกครั้ง
เมื่อพิจารณาจากรายได้รวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท) ที่ดาวนีย์เคยได้รับจากการรับบทโทนี่ สตาร์คในภาพยนตร์ MCU หลายภาค หลายคนอาจแปลกใจที่ Disney และ Marvel ไม่ต้องจ่ายเงินมากกว่านี้เพื่อดึงเขากลับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการคาดการณ์ว่า ดาวนีย์จะอำลาวงการภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากค่าตอบแทนที่สูงลิ่วแล้ว โอกาสในการรับบทวายร้ายใน MCU ก็น่าจะเป็นสิ่งดึงดูดใจให้ดาวนีย์กลับมาเช่นกัน
สำหรับพี่น้องรุสโซ แม้จะไม่ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศโดยตรง แต่สัญญาของพวกเขามีเงื่อนไขพิเศษที่เรียกว่า "escalators" ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้รับโบนัสเพิ่มขึ้นเมื่อภาพยนตร์ทำรายได้ถึง 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ นอกจากนี้ พวกเขายังจะได้รับเครดิตเป็นโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ทั้งสองภาค ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับ Marvel
ถึงแม้ช่วงหลังมานี้แฟรนไชส์ Marvel อาจประสบภาวะซบเซาทางรายได้ในช่วงหลัง แม้จะมีภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่าง "Deadpool & Wolverine" ออกฉาย ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ Disney จะยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อนำทีมงานคุณภาพกลับมาร่วมงานอีกครั้ง"Avengers: Doomsday" มีกำหนดเข้าฉายในเดือนพฤษภาคม 2026 และ "Avengers: Secret Wars" จะตามมาในปีถัดไป ซึ่งแฟนๆ ต่างตั้งตารอคอยการกลับมาของทีมงานในตำนานนี้อย่างใจจดใจจ่อ
บทวิเคราะห์ ประเมินเหตุผลเบื้องหลังการลงทุนครั้งสำคัญของ Marvel Studios ในตัว Robert Downey Jr. สำหรับบทบาท ด็อกเตอร์ ดูม ในภาพยนตร์ Avengers ภาคต่อ ถือเป็นการลงทุนที่สูงมาก แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและมีเหตุผลรองรับบนพื้นฐานความเป็นจริง ดังนี้
1. มูลค่าที่เหนือกว่าของ Robert Downey Jr.
2. แคง เดอะคองเคอเรอร์ ดูท่าจะไม่เวิร์ค
3. ศักยภาพทางธุรกิจของตัวละคร ด็อกเตอร์ ดูม
4. ผลตอบแทนจากการลงทุน
5. การบริหารความเสี่ยง
การจ่ายเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อดึง Robert Downey Jr. มารับบท ด็อกเตอร์ ดูม อาจดูเหมือนเป็นการลงทุนที่สูง แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ แล้ว นี่คือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและมีเหตุผลรองรับบนพื้นฐานความเป็นจริง Downey Jr. ไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงที่มีความสามารถและมีชื่อเสียง แต่ยังเป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วโลก การกลับมาของเขาในบทบาท ด็อกเตอร์ ดูม จะเป็นการสร้างความตื่นเต้นและดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้และความสำเร็จของภาพยนตร์ Avengers ภาคต่ออย่างแน่นอน
ที่มา celebritynetworth