สำนักข่าว BNN Bloomberg รายงานว่า แพลตฟอร์ม Social Media ส่วนใหญ่ได้ถูกออกแบบมาหลอกล่อกลุ่มเด็ก ๆ โดยใช้อัลกอริทึมและฟีเจอร์ เช่น
โดย ผู้พิพากษาอีวอนน์ กอนซาเลซ โรเจอร์ส จากศาลแขวงสหรัฐฯ ในเมืองโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้มีคำตัดสินว่าเมตาต้องเผชิญกับการฟ้องร้องจากอัยการสูงสุดของหลายรัฐ ซึ่งกล่าวหาว่าเมตาจงใจทำให้เด็ก ๆ ติดเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram)
โรเจอร์ส ได้กล่าวว่า “บริษัทโซเชียลมีเดีย จงใจส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มของตนอย่างจงใจ ซึ่งส่งผลให้เขตการศึกษาต้องใช้ทรัพยากรในการต่อสู้กับวิกฤตสุขภาพจิตในหมู่นักเรียน"
เล็กซี ฮาซัม และเปรวิน วอร์เรน หัวหน้าทนายความของโจทก์ ได้กล่าวว่า “เนื่องจากการออกแบบที่น่าดึงดูดของ Instagram, Snapchat, TikTok และ YouTube ทำให้นักเรียนต้องดิ้นรน” นั่นหมายความว่า งบประมาณของโรงเรียนพวกเขาถูกขยายออกไป และภารกิจด้านการศึกษาของพวกเขาถูกเปลี่ยนเส้นทาง เพราะพวกเขาแบกรับความรับผิดชอบเพิ่มเติมในการช่วยเหลือเด็กๆ ที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ”
ทำให้บริษัทเหล่านี้ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากคดีฟ้องร้องหลายร้อยคดีที่เกี่ยวกับความเสียหายส่วนบุคคล ซึ่งกล่าวหาว่า พวกเขาออกแบบแพลตฟอร์มที่ดึงดูดเยาวชนให้ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไปจนส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต
สิ่งอาจทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในกว่า 150 คดีที่ยื่นฟ้องกับผู้พิพากษาโรเจอร์ส แม้บริษัทเหล่านี้อาจรอดพ้นจากความรับผิดชอบในอีกกว่า 600 คดีที่ถูกยื่นฟ้องในลอสแอนเจลิสก็ตาม
Jose Castaneda โฆษกของ Google กล่าวในแถลงการณ์ว่าข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง “ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเยาวชน สุขภาพจิต และการเลี้ยงดูบุตร เราได้สร้างบริการและนโยบายเพื่อให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ที่เหมาะสมตามวัย และผู้ปกครองสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
โฆษกของ Meta กล่าวในแถลงการณ์ว่าบริษัทไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล “เราได้พัฒนาเครื่องมือมากมายเพื่อสนับสนุนผู้ปกครองและวัยรุ่น และเราได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเรากำลังเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ Instagram สำหรับวัยรุ่นหลายสิบล้านคนด้วยบัญชีวัยรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ได้รับการคุ้มครองสำหรับวัยรุ่น ซึ่งจะจำกัดผู้ที่สามารถติดต่อพวกเขาได้โดยอัตโนมัติและ เนื้อหาที่พวกเขาเห็น”
อ้างอิง : BNN Bloomberg