จับตาแบรนด์เกาะกระแส 'Pink Venom' 'Blackpink' ใครทำตามสัญญาแล้วบ้าง

 

คึกคักกันไปทั้งโลกออนไลน์เมื่อ Blackpink เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตปล่อยเอ็มวี Pink Venom พรีซิงเกิลใหม่ล่าสุดออกมาให้แฟนๆ ชมกันเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม รับคัมแบ็กในรอบเกือบ 2 ปีอย่างร้อนแรง จนแบรนด์ต่างๆ แห่กันทำแคมเปญการตลาดเกากระแสไปด้วย โดยเฉพาะแคมเปญสัญญาว่าจะ ลด-แลก-แจก-แถม หากยอดวิวถึงที่กำหนด

 

และเมื่อเวลาผ่านมาสี่วันจนยอดวิวทะลุ 159 ล้านวิวเข้าไปแล้ว ทีมข่าว Spotlight จึงอยากชวนทุกคนมาติดตามกันว่า แบรนด์ไหนออกมาทำตามสัญญา(โดยไม่ต้องขอเวลานาน) กันแล้วบ้าง

 

• นันยางเตรียมคลอดรองเท้าแตะ ‘ดำ-ชมพู’

เปิดลิสต์กันด้วยแบรนด์รองเท้าที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานอย่าง ‘นันยาง’ ที่มาเกาะกระแสเร็วกว่าใครด้วยการประกาศว่า หากยอดวิวถึง 80 ล้านภายใน 24 ชั่วโมง จะผลิตรองเท้าแตะ ‘ช้างดาว สีดำชมพู’ แถมเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นสีชมพูดำเรียบร้อย ซึ่งเหล่าบลิ๊งค์ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการทำยอดไปถึง 90.4 ล้านวิวภายใน 24 ชั่วโมง

 

 

โดยหลังจากยอดถึงเป้า เพจนันยางก็ออกมาเคลื่อนไหวทำตามสัญญาอย่างแข็งขัน พร้อมชวนให้ฟอลโลวเวอร์เข้ามามีส่วนร่วม มี ‘เอนเกจ’ กับการออกแบบสินค้าไม่หยุดด้วยการโพสถามความคิดเห็น จนล่าสุดชวนลูกค้าไปประชุม Zoom กับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว 

เรียกได้ว่าคอนเทนต์เดียวใช้คุ้มเพราะเอามาเรียกเอนเกจจากลูกค้าได้หลายวัน เลี้ยงกระแสก่อนผลิตสินค้าออกมาได้จริง แถมออกมาแล้วน่าจะไม่แคล้วยอดขายดีเพราะเป็นเป็นที่พูดถึงมานาน

 

 

 

• ไม่ใช่แค่เสื้อแมนยูฯ ชุดชั้นใน ‘ดำ-ชมพู’ ก็ Sold Out!

ตามมาด้วยผู้ผลิตชุดชั้นในยี่ห้อคุ้นหูคนไทยอย่าง ‘จินตนา’ ที่ก็ออกมาเกาะกระแสแบบแซ่บๆ เช่นกันด้วยการประกาศลดราคาชุดชั้นใน 80% ไปเลย! หากยอดวิวถึง 80 ล้านภายใน 24 ชั่วโมง โดยหลังยอดวิวถึงตามที่กำหนด ทางจินตนาก็ออกมาลดราคาชุดชั้นในตามสัญญา โดยเน้นที่สี ดำ-ชมพู ที่เป็นสีประจำวงของสี่สาว

ซึ่งหลังปล่อยส่วนลดออกมา สาวๆ ชาวบลิ๊งก็ให้การตอบรับอย่างดีด้วยการเหมาจน Sold Out ไปเลยภายในวันเดียว แสดงความทรงอิทธิพลของชื่อ Blackpink ที่เพียงแค่เอามาทำแคมเปญก็ทำยอดขายถล่มถลายโดยไม่ต้องถึงขนาดให้สมาชิกเอาไปใส่แบบเสื้อแมนยู

 

 

• ไม่ต้องสินค้าสายแฟก็เกาะกระแสได้
  เครื่องใช้ไฟฟ้า ‘สีชมพู’ ก็มา

ออกมาจากกลุ่มสินค้าหมวดเครื่องแต่งกายมาที่หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้ากันบ้าง ถึงไม่ใช่สายแฟชั่นที่ชื่อของสาวๆ Blackpink เอามาขายได้อยู่แล้วก็เกาะกระแสได้ เมื่อ ‘พาวเวอร์บาย’ ร้านขายปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของไทยออกมาประกาศ ‘แจก’ เครื่องใช้ไฟฟ้าสีชมพูกันไปเลย หากยอดวิว Pink Venom ถึง 80 ล้าน ภายใน 36 ชั่วโมง

ซึ่งหลังจากยอดวิวทะลุเป้าที่วางไว้ ทางพาวเวอร์บายก็ได้ออกมาประกาศแจกเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 10 รางวัล มีทั้ง พัดลม เตาอบ กระทะปิ้งย่าง หม้ออเนกประสงค์สีชมพูตามธีม โดยร่วมสนุกง่ายๆ เพียงแค่ถ่ายรูปหน้าร้านพาวเวอร์บายใกล้บ้าน พร้อมให้เหตุผลว่าทำไมต้องไปช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร้านก็ลุ้นได้ของไปใช้เลยแบบฟรุ้งฟริ้ง

• สายกินไม่น้อยหน้า ร้านอาหารตบเท้าให้ส่วนลด

ถัดจากหมวดของใช้ก็มาสู่สายกินกันบ้าง กระแสของ Blackpink ยังมาแรงถึงพวกร้านขนม-ร้านอาหาร ที่พากันแห่ทำแคมเปญสัญญาว่าจะให้ส่วนลด(และของแถม)กันเพียบถ้ายอดวิวถึง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มอย่างร้านกาแฟ ‘อินทนิล’ ใต้เครือบางจาก ที่ออกมาให้ส่วนลด 50% สำหรับเครื่องดื่ม 2 แก้วในวันต่อมา

 

 

ตามมาด้วยผู้ผลิตขนมปัง ‘ฟาร์มเฮาส์’ ที่ออกมาประกาศว่าจะให้ของแถมทุกออเดอร์ที่ถึง 350 บาท ถ้ายอดวิวทะลุ 100 ล้านวิวภายใน 24 ชั่วโมง แม้ว่ามิชชั่นนี้ชาวบลิ๊งค์จะทำไม่สำเร็จ (ไม่ถึง 100 ล้านวิว) แต่ฟาร์มเฮาส์ก็ใจดี เข็นโปรโมชั่นขนมปังชุด Born Bling ออกมาอยู่ดีเพื่อร่วมฉลองการคัมแบ็คให้กับ 4 สาว ด้วยการแถมหมอนขนมปังฟาร์มเฮาส์ในเซตไปเลย 100 รางวัล

 

หรือจะเป็นร้านอาหารเกาหลี ‘โคเรียดอง’ (Koreadong) ที่ออกมาร่วมสนุกด้วยเช่นกัน ด้วยการประกาศลดราคาเซ็ตกุ้งและแซลมอนดองให้เหลือ 99 บาท เมื่อยอดวิวครบ 100 ล้านวิว แบบไม่กำหนดเวลา ซึ่งหลังจากยอดวิวทะลุเป้าไปทางร้านก็ได้ออกมาโพสประกาศส่วนลดตามสัญญา 1,200 สิทธิ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี และแคมเปญนี้ก็ทำสินค้าขายดีจนทางร้านต้องมาให้สิทธิ์ส่วนลดเพิ่มอีก 1,200 สิทธิด้วย

 

 

จากในลิสต์จะเห็นได้ว่า แต่ละแบรนด์ต่างก็ประสบความสำเร็จในการทำการตลาดโดยอิงกระแสเนื่องในโอกาสที่สาวๆ Blackpink คัมแบ็คเต็มวงในรอบเกือบ 2 ปีกันอย่างถ้วนหน้า นับได้ว่าเป็นกรณีตัวอย่างของการตลาดโดยอิงกระแสจากเรื่องที่กำลังเป็นที่พูดถึงแบบเรียลไทม์ (real-time marketing) และอิงจากกระแสที่มีกลุ่มแฟนคลับให้ความสนใจอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก (free-rider marketing) โดยใช้คอนเทนต์เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างเอ็นเกจเม้นจากลูกค้าที่ประสบความสำเร็จเห็นชัดที่สุดในช่วงนี้

นอกจากจะเป็นวิธีทำการตลาดที่ทำให้ผู้ร่วมสนุกมีอารมณ์ร่วม (emotional connection) และทำให้แบรนด์ใส่กิจกรรม call-to-action หลายๆ อย่างเช่น การเชิญชวนให้ซื้อของ หรือกดไลค์ กดฟอลโลว์เพจได้แล้ว ยังสร้างสีสัน และชวนให้ผู้บริโภคตื่นเต้นอีกว่าในโอกาสต่อๆ ไป แบรนด์เหล่านี้จะเข็นแคมเปญออกมาเกาะกระแสเหตุการณ์อะไรอีกในครั้งหน้า