กางเกงยีนส์แม็ค หรือ แม็คยีนส์ เชื่อว่าคนไทยรู้จักดีเพราะอยู่ในวงการแฟชั่นส์เสื้อผ้ามานานถึง 48 ปีแล้ว ซึ่งแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่การใส่ยีนส์ก็ยังเป็นสิ่งที่คลาสสิคอยู่เสมอนั่นจึงทำให้ธุรกิจของ แม็คยีนส์ ยังคงมียอดขายและกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง SPOTLIGHT ชวนดูกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญของ แม็คยีนส์ ที่น่าสนใจ
Mobile Shop - กลยุทธ์เข้าถึงลูกค้าและสร้างBrand Awareness
นอกจากหน้าร้านมากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศไทยแล้ว ลูกค้ายังสามารถซื้อ แม็คยีนส์ ผ่าน Mobile Shop ซึ่งเป็นหน้าร้านเคลื่อนที่ได้ ที่เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจุบัน แม็คยีนส์ Mobile Shop มีรถทั้งหมด 6 คันให้บริการกับลูกค้า โดยรถจะกระจายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคกลาง โดยจะกระจาย เดือนละ 10-12 จุด Mobile Shop เป็นหนึ่งใน strategy ในการสร้าง Brand Awareness และเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มอีกช่องทาง รวมทั้งใช้ในการ surveys พื้นที่และเทส Location ใหม่ๆ ของเราด้วย
“สินค้าที่จำหน่ายใน Mobile Truck จะเหมือนกับหน้าร้าน Mc JEANS เลย คอลเล็กชั่นใหม่เลยครับ เรามีห้องลองสินค้าและในบางไอเท็มที่อาจจะไม่มีเนื่องจากสต็อกในรถไม่เพียงพอ แต่เราจะมีพนักงานให้บริการแนะนำและสั่งซื้อผ่าน mcshop.com ครับ”
ความน่าสนใจของกลยุทธ์นี้คือ การได้สำรวจความต้องการของตลาดแต่ละพื้นที่แบบอินไซต์ไปในตัว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นโอกาสให้บริษัทสามารถนำมาพัฒนา ต่อยอด สินค้าและการให้บริการของแม็คยีนส์ต่อไปได้ ซึ่ง CEO แม็คกรุ๊ป บอกว่า ต้องประเมินความเหมาะสมว่า ในอนาคตจะเพิ่มจำนวนของรถ Mobile Shop หรือไม่
นอกจากนี้ “แม็คยีนส์” เดินหน้าขยายกองทัพธุรกิจการตลาด มัดใจผู้บริโภคด้วยคุณภาพของสินค้า ภายใต้กลยุทธ์ MY MC MY WAY ชีวิต...เต็มแม็ค ล่าสุดในโอกาสที่แม็คกรุ๊ปดำเนินธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 49 พร้อมเปิดตัวแม็คยีนส์ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ตัวแทนถ่ายทอดแบรนด์คอนเซ็ปต์หลักของแม็คยีนส์ พร้อมเปิดตัว Mc3109 (แม็ค 3109) The Original Straight ยีนส์รุ่นยอดนิยม รุ่นขายดีที่สุดของแม็คยีนส์กับ 5 สีใหม่คอลเล็กชั่นใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ความคลาสสิกของยีนส์รุ่นยอดนิยม ขายดีที่สุด
4 กลยุทธ์สร้างการเติบโตของแม็คยีนส์
1.สร้างความแข็งแกร่งด้วยสินค้าที่หลากหลาย - เริ่มกระจายพอร์ตมีสินค้าที่ไม่ใช่ยีนส์ (non-denim) ในร้านมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในทุกรูปแบบ เช่น เสื้อยืด กางเกงยีนส์ เสื้อเชิ้ต แจ็คเก็ต รองเท้า และ เครื่องประดับ
2.สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง – สร้างแบรนด์ให้ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง ผ่านแบรด์แอมบาสเตอร์ ที่มีไลฟสไตล์ตรงกับความเป็นแม็คยีนส์ โดยปีนี้ได้เปิดตัว “อนันดา เอเวอริงแฮม” นักแสดงชื่อดังที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนในการทำกิจกรรมที่หลากหลาย เหมือนกับการใส่กางเกงแม็คยีนส์ ที่สามารถใส่ได้ทุกที่ทุกเวลา และทุกกิจกรรม
3.เพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลาย – แม็คยีนส์ ได้ขยายกว่า 600 สาขาทั่วประเทศไทย ด้วยแนวคิด “ของเต็ม ขายเก่ง ร้านสวย” ในร้านค้าในห้างสรรพสินค้า และMc Outlet รวมถึง Mobile Unit (รถบรรทุกแม็คยีนส์) ที่ปัจจุบันมี 6 คัน และพร้อมวิ่งทั่วประเทศ ที่เพิ่มเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าได้จะรับประสบการณ์ที่ดี จากการบริการของพนักงานแม็คยีนส์ทุกร้านค้า
4.เสริมสร้างประการณ์การบริการ – นอกจากสินค้า ที่เป็นหัวใจหลักของแม็คยีนส์ ลูกค้า “เพราะลูกค้า คือหัวใจสำคัญ” นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่บริษัทฯต้องหาทางพิชิตใจให้ได้ แม็คยีนส์ต้องการสร้างแบรนด์ที่แตกต่างที่ทำให้ลูกค้าประทับใจ เช่น ร้านค้ามีบริการวัดไซส์ขากางเกงให้กับลูกค้า ร่วมถึงการตัดกระบอกขากางเกง
สำหรับช่องทางในการขายสินค้าของแม็คยีนส์ มีร้านค้าปลีกของตนเอง (Free-standing Shop) เป็นช่องทางหลัก มีสัดส่วนประมาณ 65% ห้างสรรพสินค้า (Department Store) สัดส่วน 22% ร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) สัดส่วน 9% และช่องทางอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วน 3% พร้อมเดินหน้าขยาย Mc Outlet ต่อเนื่องเพื่อรองรับรองรับกำลังซื้อ
นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อมัดใจเเฟนยีนส์ในปีนี้ เช่น
- การจ้างอินฟลูเอนเซอร์กว่า 100 คน (Influencer marketing)
- เสริมสร้างความเข้าใจในความแตกต่างของรูปร่างและพร้อมสร้างสรรค์ลุคที่ดีที่สุดในแบบของตัวเองด้วย Body Positivity (Inclusive & diversity)
- รักโลกเเละสิ่งเเวดล้อม โดยสําหรับลูกค้าที่สั่งซื้อของทางออนไลน์ แม็คยีนส์เริ่มมีการลดใช้ถุงพลาสติก เเละกางเกงยีนส์ทรงกระบอก ในรุ่น Mc3109 ได้เริ่มนําวัสดุที่ยั่งยืน (Sustainable Material) มาใช้ในการผลิตกระดุมเเละรีเวท (Sustainability)
ยีนส์สัญญาชาติไทยที่ยาวนานกว่า 48 ปี
จุดเริ่มต้นของ แม็คยีนส์ เกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2518 ที่กางเกงยีนส์แบรนด์ “Mc”ตัวแรกถือกำเนิดขึ้น ก่อนจะมาเป็นแม็คยีนส์มีที่มาจากร้านซักแห้งที่ชื่อ “ซินไฉฮั้ว” โดย “กิจจา กัญจนาภรณ์”ที่ได้เรียนรู้วิธีการซักแห้งมาจากเมืองจีนเป็นอย่างดี เมื่อมาอยู่ประเทศไทยได้ตัดสินใจเปิดร้านรับซักแห้งเมื่อธุรกิจเติบโตไปได้ดี และได้ขยายสาขามากขึ้นจึงนำมาซึ่งการขยายธุรกิจที่มากกว่าร้านซักแห้ง นั่นคือ รับฟอกผ้ายีนส์ ด้วยความชำนาญและความเข้าใจเกี่ยวกับยีนส์เป็นอย่างดีจนในที่สุด จึงตัดสินใจผลิตยีนส์เอง จากเริ่มแรกรับจ้างผลิตให้กับลูกค้าต่างชาติ จนมาสร้างแบรนด์เองนั่นคือ แม็คยีนส์ ในปี 2518 นั่นเอง
แม็คยีนส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนผู้ถือหุ้น 3,613 ล้านบาท (31 มี.ค.66) ซึ่งลดลง 61 ล้านบาท เมื่อเปรียบกับช่วงเดียวกันของปี 65 ที่มีสัดส่วนของผู้ถือหุ้น 3,675 ล้านบาท และมีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นกว่า 582 ล้านบาท ขณะที่เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นอยู่ที่ 1,774 ล้านบาท
ในส่วนของผลประกอบการ ยังคงเดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นใจว่าปีบัญชี 2566 จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังงวด 9 เดือนแรก (ก.ค. 2565 – มี.ค. 2566) ทำรายได้ไป 2,847 ล้านบาท เติบโต 24% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิกว่า 525 ล้านบาท เติบโต 22% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องและทะลุปี 2565
ปัจจุบันมีร้านมากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศไทย และมีพนักงานกว่า 1,600 คน และบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่หลากหลาย เช่น ร้านค้าในห้างสรรพสินค้า, Mc Outlet รวมถึงช่องทางออนไลน์ใน Mcshop.com ที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต