ธุรกิจการตลาด

ยอดขาย BYD ติดท็อป10 ของโลก แซง Benz และ BMW รถค่ายจีนกำลังครองตลาดโลก

28 ส.ค. 66
ยอดขาย BYD ติดท็อป10 ของโลก แซง Benz และ BMW รถค่ายจีนกำลังครองตลาดโลก

อุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกเปลี่ยนโฉมไปอย่างมาก การเปลี่ยนผ่านจากการใช้รถยนต์สันดาป(น้ำมัน) มาสู่พลังงานสะอาดอย่าง รถยนต์ไฟฟ้าทำให้ค่ายรถทั่วโลกต้องปรับตัวเปลี่ยนเทคโนโลยี เพื่อสู้ศึกใหม่ที่กำลังดุเดือด 

ข้อมูลจากบริษัทวิจัย MarkLines และ Automaker data พบว่า 6 เดือนแรกของปีนี้ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนมียอดขายที่ก้าวกระโดดเกือบทุกเจ้า โดยเฉพาะ BYD ที่เข้ามาติด Top 10 ยอดขายสูงสุดในโลกได้เป็นครั้งแรก โดยปี 2564  BYD ยังไม่ติด 20 ด้วยซ้ำ แต่พอมาปี  2565 ที่ผ่านมา BYD ไต่ขึ้นมาอยู่อันดับที่16 และ ครึ่งแรกของปี 2566 ก็เข้ามาติด10 อันดับแรกเรียบร้อย แซงหน้า Mercedes-Benz Group และ BMW จากยุโรป เป็นการส่งสัญญาณว่ารถยนต์ไฟฟ้ากำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ไปมากแค่ไหน 

ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ใหม่ทั่วโลกของ BYD อยู่ที่ 1.25 ล้านคันในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 96% ตามหลัง Suzuki Motor ของญี่ปุ่น ที่มียอดขาย6เดือนแรกอยู่ที่ 1.52 ล้านคัน 

BYD นั้นครองอันดับหนึ่งในด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ในตลาดหลัก 14 แห่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2566  ขณะที่ Tesla ตามมาเป็นอันดับสอง โดยกลุ่ม Volkswagen อยู่ในอันดับที่สาม โดยตลาดจีน สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศมีการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า รถยนต์ไฟฟ้า จาก BYD สามารถขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งในระดับล่างและระดับสูงโดยมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริด โดย BYD ดีส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในจีนออกไปมากกว่า 80,000 คันในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และยังขยายธุรกิจในประเทศไทยและอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในรัสเซีย ทั้งที่ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น อเมริกา และยุโรป ได้ถอนตัวออกไปหลังสงครามรัสเซีย ยูเครน 

ส่วนบริษัทรถยนต์สัญชาติจีนอื่นๆ ก็มียอดขายที่เติบโตทำผลงานได้ดีถ้วนหน้าในครึ่งปีแรกเช่นกัน Zhejiang Geely Group Holding อยู่ในอันดับที่ 13, Changan Automobile Group อยู่ที่อันดับที่ 14 และ Chery Automobile อยู่ในอันดับที่ 17 โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก

BYD

10 อันดับค่ายรถยนต์ที่ทำยอดขายสูงสุด ในช่วง 6 เดือนแรกของปี2023

1.โตโยต้า 5.41 ล้านคัน

2.โฟลก์ สวาเก้นท์ 4.37 ล้านคัน

3.ฮุนได/เกีย 3.65 ล้านคัน

4.เรโนลต์ /นิสสัน/มิตซูบิชิ   3.2 ล้านคัน

5.สเตลแลนทิส 3.2 ล้านคัน

6.จีเอ็ม 2.96 ล้านคัน

7.ฟอร์ด 2.17 ล้านคัน

8.ฮอนด้า 1.84 ล้านคัน

9.ซูซุกิ 1.52 ล้านคัน

10.BYD 1.25 ล้านคัน


กลุ่มโตโยต้า มอเตอร์ ยังคงเป็นผู้นำยอดขายรถยนต์โดยรวมทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน โดยขายได้ 5.41 ล้านคัน เก้าอันดับแรกที่เหลือก็ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้าเช่นกัน ยกเว้นฮอนด้า มอเตอร์ 

โตโยต้ามียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบสองปี ตลาดในญี่ปุ่นและยุโรปมีส่วนทำให้การเติบโต แต่ยอดขายในจีนลดลง 3% เหลือ 870,000 คัน ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า, นิสสันมอเตอร์, มาสด้ามอเตอร์และมิตซูบิชิมอเตอร์สประสบปัญหาตลาดจีนลดลงเป็นเลขสองหลักหรือมากกว่านั้น

แบรนด์รถยนต์จีน “ได้ลดช่องว่างกับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าทั้งหลาย ทั้งในแง่ของอุปกรณ์และฟังก์ชันการทำงานของรถ ” เคนทาโร อาเบะ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และธุรกิจที่ปรึกษาของ PwC ในญี่ปุ่น ระบุว่า การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์พลังงานใหม่อื่นๆ ของจีนกำลังเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน 

ที่มา Nikkei Asia 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT