เรื่องวุ่นๆของ JKN บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ภายหลังจากยื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางไปแล้วและกำลังอยู่ในกระบวนการก็มีประเด็นการฟ้องร้องเกิดขึ้นระหว่าง บริษัท บริษัท ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง JKN ข้อหาหมิ่นประมาทเรียกร้องค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท ขณะที่ JKN แจ้ง ตลท.มั่นใจในข้อมูลที่จะให้ต่อศาล
ในวันนี้ (24 พ.ย.2566) นายจักรพันธ์ ปุณยปภา ผู้บริหาร บริษัท ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (TCG Social Media Group) ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และเปิดเผยหลักฐานต่างๆ หลังได้ ฟ้องร้อง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN (จําเลยที่ 1) และคุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ (จําเลยที่ 2 ) ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยได้ฟ้องวันที่ 25 กันยายน 2566 และคิดมูลค่าความเสียหายจํานวน 1,000 ล้านบาท โดยศาลนัดหมายไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 18 ธันวาคม 2566
นายจักรพันธ์ ปุณยปภา ระบุว่า บริษัท ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี่ โดยมีสินทรัพย์หนุนหลังที่ถูกต้องตามกฏหมายทุกประการและบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ประเทศดูไบ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการร่วมมือกับ JKN ทำโครงการเหรียญ MU Coin หรือ Miss Universe Coin ขึ้นมา โดยเป็นธุรกิจที่ได้ลงนามเอกสารความร่วมมือกันระหว่าง ที ซี จีฯ กับ JKN เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงมีหลักฐานบันทึกเสียงการประชุมด้วย
โดยโครงการนี้มีมูลค่าของเหรียญสูงถึง 50,000 ล้านบาท และก่อนหน้านี้ทางริษัท ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ก็ได้มีการเดินหน้าขอไลเซ่นให้ถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ มีต้นทุนในการดำเนินการสูงถึง 500 ล้านบาท และใช้เวลายาวนานถึง 4 ปี กว่าจะได้รับไลเซ่น การฟ้องร้องค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาทจึงเป็นมูลค่าที่เหมาะสม
“ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 ทาง JKN มีการออกเอกสารโพสอย่างเป็นทางการผ่านโซเชี่ยลมีเดียว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ MU Coin ใดๆ ทั้งสิ้น และยังระบุว่า เหรียญ MU Coin เป็นเหรียญสแกม ซึ่งทางบริษัทไม่ทราบเหตุผลของการดิสเครดิตในครั้งนั้น โดยหากไม่อยากทำเหรียญ MU Coin กับทาง ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป ก็แค่โทรศัพท์มาแจ้งกับทางเรา เราก็เข้าใจ แต่หนักที่สุด คือกล่าวหาว่าเราเป็นมิจฉาชีพ ทั้งๆที่เรารู้จักกันในฐานะหุ้นส่วน" นายจักรพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายจักรพันธ์ เรียกร้องให้ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตรวจสอบ JKN ในประเด็นเรื่องการร่วมมือทำโครงการ Mu Coin ใน3 ประเด็นคือ
1. JKN ได้แจ้งให้คณะกรรมการบริษัททราบหรือไม่ ว่าจะเข้าสู่ธุรกิจนี้ จึงร่วมกันทำ Mu Coin
2. JKN ได้มีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือไม่
3.การยุติการทำงานร่วมกันระหว่าง บริษัท ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด กับ ทาง JKN มีมติกรรมการรับทราบหรือไม่
นอกจากโครงการ Mu Coin แล้วยังมีเคสที่ 2 เป็นโปรเจ็กย่อยในการทำธุรกิจร่วมกันเพื่อเครื่องดื่มขายทั้งในและต่างประเทศ โดยทาง ที ซี จี โซเชียล ได้เข้าไปขอซื้อหุ้น บริษัท เอ็มเอ็น เบฟเวอเรจ จำกัด 40% โดยยังไม่ได้เข้าไปบริหาร เพราะอยู่ระหว่างรอข้อมูลเอกสารแต่ระหว่างทาง JKN ได้ปิดโรงงานวันที่ 30 กันยายน 2566 ขายหุ้นบริษัทเครื่องดื่มและขนย้ายทรัพย์สินบางส่วนออก โดยไม่แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ ทั้งการปิดโรงงานและเลิกจ้างพนักงาน ทำให้ ที ซี จีฯ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 40% ได้รับความเสียหายไปด้วย โดยที่บริษัทเข้าไปลงทุนราว 32 ล้านบาท บริษัทจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมในข้อหายักยอกทรัพย์ กับ JKN โดยยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้บริษัทเตรียมยื่นเรื่องร้องเรียนถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ตรวจสอบเกี่ยวกับธรรมาภิบาลในการบริหารงานของ JKN หลังปิดโรงงานโดยไม่แจ้งให้หุ้นส่วนทราบ ทั้งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเป็นการดำเนินการก่อนการขอยื่นฟื้นฟูกิจการ ก.ล.ต.จะมีแนวทางการดูแลกำกับกรณีนี้อย่างไร การปิดโรงงานผ่านมติจากบอร์ดบริหาร JKN หรือไม่
บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับข้อพิพาทตามที่ตลท.สอบถาม โดยมีรายละเอียดในหนังสือชี้แจงดังนี้
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 บริษัท ทีซีจี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จํากัด (โจทก์) ยื่นฟ้องกล่าวโทษบริษัท (จําเลยที่ 1) กับกรรมการผู้จัดการ (จําเลยที่ 2 )โดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องกล่าวโทษต่อจําเลยว่ากระทําผิดความอาญาและข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณาและพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ โดยกล่าวหาว่าจําเลยทั้งสองได้โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ผ่านสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการที่โจทก์ได้ออกเหรียญ Miss Universe Coin อันเป็นเท็จทําให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยโจทก์ได้แนบหลักฐานบันทึกข้อตกลง พร้อมคําแปลมาพร้อมกับคําฟ้อง และอธิบายว่าได้มีการลงนามผูกพันกับจําเลยทั้งสองในเรื่องของการออกเหรียญไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามฝ่ายบริหารของบริษัทฯ เห็นว่าบริษัทฯ และจําเลยที่ 2 ได้ประกาศข้อความแจ้งเตือนประชาชน และนักลงทุน ซึ่งเป็นการกระทําที่สุจริต และเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ จึงพิจารณาว่าเป็นข้อยกเว้นตามกฎหมาย และไม่ทําให้การกระทําของจําเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องต่อศาล บริษัทฯ มีความเห็นว่าโอกาสความเสียหายยังมีความไม่แน่นอน จึงไม่มีการตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงิน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากศาลยังไม่รับฟ้องจนกว่าการไต่สวนมูลฟ้องจะเสร็จสิ้น และจะมีผลต่อเมื่อศาลมีคําสั่งว่าคดีนี้มีมูลเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณา และเนื่องจากผลกระทบดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน บริษัทฯ จึงยังมิได้ตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงินดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจในการจัดเตรียมข้อมูลที่จะให้กับศาล และเชื่อได้ว่าบริษัทฯ จะดําเนินการในเรื่องดังกล่าวได้เรียบร้อย
โดยหากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะแจ้งให้ทุกท่านทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ขณะที่ราคาหุ้น JKN วันนี้ (24 พ.ย.66) ช่วงเวลา 16.30 น. เคลื่อนไหวอยู่ที่ 0.51 บาท ลดลง 0.19 บาท หรือ ลงไป 27.14 % ระหว่างวันลงไปต่ำสุด 0.49 บาท/หุ้น สูงสุด 0.68 บาท/หุ้น