นอกจากกระแส POP Mart และ ลาบูบู้ ของเล่นอาร์ตทอยชื่อดังที่ตอนนี้หาซื้อแทบได้ยากแล้ว เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Butterbear มาสคอตน้องหมีเนย จากร้าน Butterbear หมีน้อยสีน้ำตาล หน้าตาน่ารัก สดใส แถมด้วยความสามารถคือ ลีลาการเต้นที่ไม่ว่าจะ K-POP หรือ T-POP น้องก็เต้นได้หมด
ขณะนี้ความโด่งดังของน้องหมีเนย ไวรัลทั่วโลกออนไลน์โดยเฉพาะแพลตฟอร์มวัยรุ่นชื่อดังอย่าง TikTok ที่ไม่ได้ดึงดูดแค่แฟนคลับชาวไทยอย่างเดียวเท่านั้น แต่น้องหมีเนยยังโด่งดังให้หมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลี จนทำให้เหล่าแฟนๆที่ดูอยู่ทางบ้านต้องขอมาดูความน่ารักของน้องหมีเนยที่ Emsphere จนสร้างปรากฎการณ์ห้างแตก เทียบเท่ากับการตามศิลปินดาราชื่อดังเลยก็ว่าได้
บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมารู้จักกับเบื้องหลัง Butterbear น้องหมีเนยผู้โด่งดังในโลกออนไลน์ อะไรที่ทำให้น้องโด่งดัง และการถอดกลยุทธ์การปั้นแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จด้วย Mascot Branding
มาสคอตน้องหมีเนย คือ มาสคอตจากแบรนด์ขนมปังชื่อดัง Butterbear ร้านในเครือของร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Coffee bean by dao เจ้าของสโลแกน ‘a very buttery welcome to our world’ โดยมี เมนูยอดฮิต เช่น บัตเตอร์บัน เนยน้ำตาล , บัตเตอร์บัน ครีมนมสด ,บัตเตอร์บัน ครั้นชี่โกโก้ , ซิกเนเจอร์ช็อคโกแลตบราวนี่
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าคาแร็กเตอร์น้องหมี เป็นสิ่งที่ทำให้แฟนคลับต่างใจละลาย ไม่ว่าจะเป็น ท่าเดิน การโพสท่า การนั่ง การพูดคุย การเซอร์วิสลูกค้าที่มารอเจอ หรือแม้แต่Outfit ของน้องที่มีการปรับเปลี่ยนตามเทศกาลต่างๆ เช่นช่วงตรุษจีน น้องหมีเนยจะใส่กี่เพ้ามาพร้อมกับซองอั่งเปา ช่วงสงกรานต์ น้องหมีเนยจะใส่ชุดไทยโจงกระเบน ที่มีพวงมาลัยดอกไม้หอยคอมาพร้อมกับปื้นฉีดน้ำ หรือแม้แต่ช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนแห่ง Pride Month น้องหมีเนยก็มาพร้อมกับปีกนางฟ้า และกิ๊ฟติดผมสีสายรุ้ง
และทุกครั้งที่น้องปรากฎตัว ก็จะมาเต้นเพลงที่อินเทรนด์ในช่วงนั้นสุดๆ เต้นได้หมดไม่ว่าจะเป็นเพลงไทย เกาหลี เวียดนาม หรือแม้แต่ Asoka Makeup ยอดฮิต น้องก็สามารถทำชาร์เลนจ์นี้ได้ด้วยเช่นกัน แต่เพลงประจำชาติ ที่ทำให้น้องหมีเนยได้แจ้งเกิด นั้นก็คือเพลง Magnetic ของวง ILLIT นั้นเอง
ทำให้ชาวเน็ตหลายๆคนต่างพากันแซวว่า น้องหมีเนยเป็นดาราสาวท่านหนึ่ง ที่เพิ่งเดบิ้ว แต่สามารถขโมยหัวใจแฟนๆ ทำเอาทั้งด้อมน้องเนย (ชื่อแฟนคลับ)ทั้งชาวไทย-ต่างชาติตกกันไปตามๆกัน
สำหรับแฟนๆคนไหนอยากจะไปเจอ น้องหมีเนย ในเดือนมิถุนายนนี้ สามารถไปเจอได้ศูนย์การค้า Emsphere ชั้น G หรือที่ pop-up booth ตามตารางงานประจำเดือนมิถุนายน
ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในโลกยุคปัจจุบัน ปฎิเสธไม่ได้เลยว่านอกจากคุณภาพของสินค้า และบริการ อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสนใจนั้นก็คือ การสร้างตัวตนให้แก่แบรนด์ หรือ Personal Branding เพื่อแบรนด์ของเราสามารถสื่อสารความเป็นตัวตนออกไปให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเกิดการจดจำ
สำหรับร้าน Butterbear ร้านขนมที่ชูจุดเด่นในความน่ารักทุกอณู ตั้งแต่การตกแต่งร้านด้วยสีที่น่ารักสดใส บรรยากาศร้านที่สวยงามเหมาะสายคอนเทนต์ถ่ายรูป Instagrammable ทุกมุม เมนูขนมสุดครีเอทที่นอกจากความอร่อยแล้วยังน่าทานทุกเมนู ที่ไม่เราจะไปเช็คอินซื้อสาขาไหนๆ ก็จะได้รับประสบการณ์แบบเดียวกัน แต่หนึ่งสิ่งที่เป็นตัวชูโรงนั้นก็คือ มาสคอตน้องหมีเนย ที่สร้างการจดจำที่ดีที่สุดให้แก่ร้าน Butterbear
Mascot คือ คาแรคเตอร์สัญลักษณ์ตัวแทนของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นสัตว์หรือตัวละครที่เป็นมนุษย์ แต่หากเราพูดภาษาทางการตลาด Mascot Branding คือ การสร้างตัวแทนของแบรนด์ หรือ brand ambassador ที่หลอมรวมเป้าหมาย เอกลักษณ์ และความเป็นแบรนด์นั้นๆ ไว้ในตัวละครตัวหนึ่ง มาสคอตในฐานะตัวแทนแบรนด์มีหน้าที่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า สร้าง brand loyalty และความเชื่อมั่นที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว
และหากถ้าแบรนด์ไหนสร้างการจดจำได้สำเร็จ ก็จะทำให้แบรนด์มีชีวิตเหมือนคนและทำให้แบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสังคมผู้บริโภคได้ไม่ยาก
ตัวละคร เปรียบเสมือน DNA ของแบรนด์ ทำให้แบรนด์ต้องกำหนด ลักษณะนิสัย พฤิกรรม ความคิด ของ Mascot เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจเพื่อคล้อยตามว่าตัวละครนั้นมีชีวิตจริงๆ
Mascot Butterbear มีนิสัยที่น่ารัก ไม่ว่าท่าเดิน การโพสท่า การนั่ง การพูดคุย ทำให้เหล่าด้อมน้องเนยต่างโดนตก เอ็นดูถึงความน่ารักของน้องไปตามๆกัน
การดีไซน์ของมาสคอต จะต้องดูง่ายและต้องทำให้แบรน์เราเป็นที่จดจำได้ตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้ลูกค้าผูกใจติดกับแบรนด์ของเรา
Mascot Butterbear มีหน้าตาที่น่ารักตะมุตะมิ แม้น้องจะไม่สามารถยิ้มได้เหมือนมนุษย์ แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าท่าทางการเซอร์วิสลูกค้าที่มารอเจอของน้องที่ดูมีความใส่ใจ เอาใจเหล่าแฟนๆทุกคนที่มารอเจอ เช่นการส่งมินิฮาร์ท การเต้นได้กับทุกเพลงแม้แฟนคลับจะร้องเพลงไหนๆ
เนื่องจากผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสินค้าแค่เพียงเพราะว่าคุณภาพดี แต่ใช้อารมณ์ร่วมให้รู้สึกประทับใจเมื่อเห็นแบรนด์ในลำดับแรก จนเกิดความชอบและรู้สึกดีกับแบรนด์ พร้อมที่จะซื้อสินค้าและบริการในทันที โดยเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทางการเดินทาง (ตั้งแต่ก่อนซื้อ ระหว่างซื้อ และหลังซื้อ)
Mascot Butterbear ที่หลายๆคนตกด้วยความน่ารักของน้อง แม้ยังไม่เคยมาเดินห้าง Emsphere หรือเคยมาทานขนมที่ร้าน Butterbear แต่ก็ทำให้เปิดใจ และอยากลองได้ไม่ยาก
หาก Mascot ของเราได้รับความนิยม แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าความนิยมก็จะลดลงไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นแบรนด์ควรสร้างความน่าจดจำ ให้ผู้บริโภคไม่เบื่อด้วย ท่าทาง หรือ ชุด ที่แตกต่างออกไป เพื่อสร้างความตื่นใจให้แก่ผู้บริโภคตลอดเวลา
Mascot Butterbear มีการปรับเปลี่ยนตามเทศกาลต่างๆ เช่นช่วงตรุษจีน น้องหมีเนยจะใส่กี่เพ้ามาพร้อมกับซองอั่งเปา ช่วงสงกรานต์ น้องหมีเนยจะใส่ชุดไทยโจงกระเบน ที่มีพวงมาลัยดอกไม้หอยคอมาพร้อมกับปื้นฉีดน้ำ หรือแม้แต่ช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนแห่ง Pride Month น้องหมีเนยก็มาพร้อมกับปีกนางฟ้า และกิ๊ฟติดผมสีสายรุ้ง
Mascot Butterbear ได้รับความโด่งดังจากแพลตฟอร์ม TikTok จนเกิดคลิปไวรัลเป็นจำนวนมาก ยิ่งทำให้ทางแบรนด์สร้างสรรค์คลิปใหม่ๆ เช่นคลิปน้องหมีเต้นเพลงใหม่ๆ โปรโมทเมนูขนมที่น้องหมีอยากแนะนำ หรือ การอัพเดทตารางงานของน้อง เพื่อพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายในสื่อสังคมออนไลน์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันบรรดาแบรนด์ต่างใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมทแบรนด์ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การจ้างอินฟลูเอนเซอร์มีราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้หลายๆแบรนด์ต่างเลือกใช้ mascot เพื่อเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องอาศัยทั้งเวลาและความต่อเนื่องของการเล่าเรื่อง แต่เมื่อใดที่จุดกระแสติดและเป็นที่ยอมรับจากลูกค้า จนทางแบรนด์อาจไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินราคาแพงในการโฆษณาอีกต่อไป
อ้างอิง : สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร