มนตร์เสน่ห์ 'กาชาปอง ' ธุรกิจตู้หมุนกล่องจุ่มที่ลุ้นทุกความเป็นไปได้

กาชาปอง... จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในร้านขายขนมของญี่ปุ่น กาชาปองได้เติบโตกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่ครองใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยมนตร์เสน่ห์ของกล่องสุ่มที่ซ่อนความประหลาดใจไว้ภายใน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของกาชาปอง ตั้งแต่จุดกำเนิด ความนิยมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงเบื้องหลังธุรกิจที่ขับเคลื่อนมัน พร้อมทั้งเรื่องราวความสำเร็จของบันได และอนาคตที่สดใสของกาชาปองในตลาดโลก

มนตร์เสน่ห์ 'กาชาปอง ' เปิดโลกธุรกิจ 'ตู้หมุนกล่องจุ่ม' ที่ลุ้นทุกความเป็นไปได้

หากคุณเคยมีโอกาสไปเยือนประเทศญี่ปุ่น คุณอาจจะคุ้นเคยกับตู้กาชาปองที่ตั้งอยู่ตามแหล่งช็อปปิ้ง ร้านเกม หรือแม้กระทั่งริมถนน "กาชาปอง" เป็นคำที่ผสมผสานเสียงสองแบบของญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ได้แก่ "กาชา" (หรือ "กาชากาชา") ซึ่งเป็นเสียงตอนหมุนตู้ และ "ปอง" ซึ่งเป็นเสียงของรางวัลที่ออกมาจากตู้ โดยวิธีเล่นก็ตรงตามชื่อ คือ ผู้เล่นจะหยอดเหรียญ แล้วหมุนคันโยกหรือปุ่มหมุน เพื่อให้ตู้ปล่อยแคปซูลรางวัลออกมา

เสน่ห์อย่างหนึ่งของตู้กาชาปอง คือ ความหลากหลายของของรางวัลที่มีให้เลือกสรร ตั้งแต่ของกระจุกกระจิกน่ารัก ไปจนถึงของสะสมหายาก ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเพลิดเพลินไปกับการลุ้นรางวัลจากตู้กาชาปอง นอกจากนี้ ความสนุกของตู้กาชาปองยังมาจากความคาดเดาไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าของรางวัลที่ออกมาจากแคปซูลจะเป็นอะไร ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งความผิดหวังเมื่อได้ของซ้ำ ความตื่นเต้นเมื่อได้ของที่อยากได้ หรือความดีใจสุดขีดเมื่อได้ของชิ้นสุดท้ายที่ทำให้สะสมครบ

จากตู้หยอดเหรียญธรรมดา สู่ปรากฏการณ์ระดับโลก เบื้องหลังความสำเร็จของกาชาปองในญี่ปุ่นและทั่วโลก

ถึงแม้ว่าตู้หยอดเหรียญแบบหยอดเหรียญจะมีมานานแล้วในเมืองใหญ่ของฝั่งตะวันตกอย่างลอนดอนและนิวยอร์ก ตั้งแต่ยุค 1880 ที่เด็ก ๆ สามารถซื้อโปสการ์ดและขนมอย่างหมากฝรั่งได้จากตู้เหล่านี้ แต่ในช่วงทศวรรษ 1960 ญี่ปุ่นได้เริ่มต้นพัฒนาวัฒนธรรมตู้หยอดเหรียญในแบบฉบับของตัวเอง โดยในปี 1965 ผู้ประกอบการ Ryuzo Shigeta ได้ติดตั้งตู้กาชาปองเครื่องแรกที่ร้านของเขาในเขตไทโตของโตเกียว เขาได้รับตู้หยอดเหรียญจากหุ้นส่วนทางธุรกิจในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ประทับใจกับวิธีที่เครื่องสุ่มแจกขนมและของเล่นราคาถูก Shigeta ต้องการให้รางวัลถูกจ่ายออกไปอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น จึงตัดสินใจใส่รางวัลแต่ละชิ้นไว้ในเปลือกพลาสติก และนี่คือจุดกำเนิดของตู้กาชาปองอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบัน!

ในช่วงแรก กาชาปองจะแจกของเล่นราคาถูกที่ทำจากเศษพลาสติกในราคา 10 หรือ 20 เยน โดยติดตั้งในร้านขายขนมและสถานที่อื่น ๆ ที่เด็ก ๆ มักไปรวมตัวกัน แต่แล้วในปี 1977 บริษัทบันไดก็ได้ปฏิวัติวงการนี้ โดยเริ่มขายของเล่นแคปซูลภายใต้ชื่อทางการค้า "Gashapon" และดึงดูดลูกค้าด้วยการจับมือกับแบรนด์ดังอย่าง Kamen Rider, Ultraman และอื่น ๆ ด้วยราคา 100 เยนต่อครั้ง รางวัลแคปซูลของพวกเขามีราคาแพงกว่าคู่แข่งถึง 10 เท่า อย่างไรก็ตาม ตู้กาชาปองกลับได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนใหญ่เป็นเพราะความสำเร็จของ Gashapon ของบันไดนั่นเอง สำหรับการร่วมมือของบันไดกับซีรีส์ยอดนิยมหลายเรื่องเพื่อสร้างของรางวัลสะสมได้นำไปสู่ความนิยมหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังช่วยเผยแพร่ความนิยมของตู้กาชาปองในหมู่ไม่เพียงแต่เด็ก ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักสะสมผู้ใหญ่และแฟน ๆ ของซีรีส์ดังกล่าวด้วย

กาชาปองไม่หยุดแค่ของเล่น

ตัวละครหรือซีรีส์บางตัวกลายเป็นปรากฏการณ์ที่โดดเด่น ตัวอย่างเช่น "Koppu no Fuchiko" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "Fuchiko" ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปี 2012 Fuchiko เป็นสาวออฟฟิศสุดชิล ที่มีฟิกเกอร์หลากหลายท่าทางวางจำหน่าย ซึ่งสามารถวางบนขอบแก้วได้ ทำให้ดูเหมือนเธอกำลังห้อยอยู่บนขอบอย่างน่าหวาดเสียว ปัจจุบันมีฟิกเกอร์ Fuchiko มากกว่า 1,500 แบบที่ขายผ่านตู้กาชาปอง! Fuchiko ยังได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อจากกลุ่มผู้ใหญ่ที่สะสมฟิกเกอร์ของเธอ เพื่อใช้ตกแต่งรูปถ่ายเครื่องดื่มและข้าวกล่องเบนโตะก่อนโพสต์ออนไลน์

บริษัทผู้ผลิตตู้กาชาปองได้ขยายประเภทของรางวัลให้มีความหลากหลายมากขึ้น ตู้กาชาปองสมัยใหม่มีตั้งแต่อุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือและกระเป๋า เครื่องเขียน เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์สำนักงาน และอื่น ๆ อีกมากมายในดีไซน์ที่หลากหลาย ดีไซน์ของรางวัลมีตั้งแต่แบบเรียบง่าย เช่น ฟิกเกอร์ขนาดเล็กของยานพาหนะหรือตัวละครอนิเมะยอดนิยม ไปจนถึงแบบแปลกใหม่ เช่น สไลม์กรุบกรอบ กระจกที่เลียนแบบหน้าจอของไลฟ์สตรีมเมอร์ หรือฟิกเกอร์ตัวละครที่น่ากลัวมากกว่าน่ารัก

ไม่เพียงแค่ของเล่นเท่านั้น แต่บริษัทผู้ให้บริการตู้กาชาปองรายหนึ่งได้นำเครื่องประดับมาใส่ในตู้ด้วย! เพียงแค่ 1,000 เยน ผู้ซื้อสามารถหมุนปุ่มที่ตู้กาชาปองใน 30 สถานที่ทั่วญี่ปุ่น เพื่อรับเครื่องประดับทำมือ เช่น สร้อยคอและกำไลข้อมือ ที่ประดับด้วยไข่มุก Akoya คุณภาพสูง! ไอเดียนี้เกิดจากความต้องการของบริษัทไข่มุกที่จะเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ขึ้นและกระตุ้นยอดขายไข่มุก Akoya เนื่องจากยอดขายแบบดั้งเดิมลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

บันได เจ้าพ่อของเล่น ลุยตลาดนอกญี่ปุ่น

บันได บริษัทของเล่นญี่ปุ่นที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากตัวการ์ตูนอนิเมะ ฟิกเกอร์แมวสะสม และสินค้าจิ๋วอื่นๆ ในแคปซูลพลาสติก เตรียมเปิดร้านค้าเพิ่มในต่างประเทศเพื่อคว้าโอกาสจากความนิยมที่พุ่งสูงขึ้น บริษัทระบุว่า มีแผนเปิดร้านใหม่มากกว่า 80 แห่งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่เดือนนี้ โดยเน้นที่อเมริกาเหนือ ซึ่งจะทำให้จำนวนร้านเฉพาะทางสำหรับตู้กาชาปองเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าจาก 43 แห่งในปัจจุบัน

บันได ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบันเทิงและเกม Bandai Namco Holdings กำลังมองหาโอกาสสร้างรายได้จากความนิยมของของเล่นแคปซูลในหมู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ด้วยความเฟื่องฟูของการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานที่ที่มีตู้กาชาปองมักจะเต็มไปด้วยเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่ต้องการเซอร์ไพรส์เมื่อหมุนลูกบิดเพื่อรับความสนุก ตลาดของเล่นแคปซูลเติบโตขึ้น 36% เป็น 6.1 หมื่นล้านเยน (402 ล้านดอลลาร์) ในปี 2022 ตามข้อมูลล่าสุดจากสมาคมกาชาปองญี่ปุ่น

"เราต้องการไปต่างประเทศไม่เพียงแต่เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ในต่างประเทศ แต่ยังเพื่อส่งเสริมการรับรู้และพัฒนาวัฒนธรรมบันเทิงของญี่ปุ่นทั่วโลก" Ryota Katano รองผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายขายของบันไดกล่าว

กาชาปองฟีเวอร์ไม่หยุดแค่ญี่ปุ่น

Tomoaki Kawasaki นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Iwai Cosmo Securities เชื่อว่าตลาดกาชาปองจะยังคงเติบโตทั้งในและต่างประเทศ "อนิเมะญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ ดังนั้น แคปซูลที่เกี่ยวข้องกับอนิเมะจะไปได้สวย" Kawasaki กล่าว "ยิ่งไปกว่านั้น นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาญี่ปุ่นและพวกเขาก็ชอบตู้เหล่านี้ ดังนั้นคนเหล่านั้นจะกลับไปประเทศของตนและยังคงซื้อแคปซูลต่อไป"

นักเล่นกาชาปองบางคนจะเดินดูตู้กาชาปองเป็นแถวเพื่อหาอะไรก็ตามที่ดูแปลกใหม่ ในขณะที่บางคนตั้งใจมาเพื่อหาตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบ โดยปกติแล้ว แคปซูลจะมีราคาไม่แพง เพียงแค่ไม่กี่ร้อยเยนต่อชิ้น แต่ก็มีแคปซูล "พรีเมียม" บางตัวที่มีราคาสูงถึง 2,000 เยน ด้วยตัวเลือกประมาณห้าแบบในแต่ละตู้ ส่วนหนึ่งของความสนุกคือการลุ้นว่าจะได้แบบไหนออกมา

"เมื่อมีคนรู้สึกเหงา พวกเขาสามารถพบความสุขในตู้เหล่านี้ได้" Onoo กล่าว "พวกเขานำความสุขมาสู่ผู้คน และฉันหวังว่าสิ่งนั้นจะแพร่กระจายไปทุกที่"

ร้านกาชาปองที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับร้านกาชาปองที่ใหญ่ที่สุดในโลกของบันได ตั้งอยู่บนชั้นสามของห้างสรรพสินค้าในย่านอิเคะบุคุโระของโตเกียว มีตู้กาชาปองประมาณ 3,000 ตู้ ในระหว่างการเยี่ยมชมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ร้านค้าเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่กำลังเลือกดูสินค้าอย่างตั้งใจ ทึ่งกับตัวเลือกของกระจุกกระจิกที่ไม่มีที่สิ้นสุด

นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง Stephen Kennedy วัย 35 ปีที่มาจากโนวาสโกเชีย แคนาดา มาที่ร้านด้วยภารกิจ "ผมใช้เงินไปประมาณ 20 เหรียญเพื่อพยายามเอา Pochita จาก Chainsaw Man" เขากล่าวพร้อมกับโชว์พวงกุญแจจากซีรีส์มังงะบนกระเป๋าเป้ของเขา ตู้ Chainsaw Man เป็นหนึ่งในตู้พรีเมียม ราคา 800 เยนต่อการหมุนหนึ่งครั้ง ในบรรดาตู้ที่มีราคาแพงกว่าอื่น ๆ เช่น ตุ๊กตากบต้นไม้ราคา 1,000 เยน Kennedy กล่าวว่าตู้กาชาปองแบบนี้จะได้รับความนิยมในบ้านเกิดของเขา

Kawasaki จาก Iwai Cosmo เสริมว่า บันไดยังจะต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในต่างประเทศ "การทำให้เครื่องไม่ต้องใช้เงินสดจะมีประสิทธิภาพ" Kawasaki กล่าว "พวกเขายังต้องทำให้แน่ใจว่าได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคเหล่านั้นต้องการซื้อ เพราะผู้คนจะไม่ซื้อแคปซูลใด ๆ ก็ได้"

ปัจจุบัน ร้านค้าเฉพาะทางที่จำหน่ายกาชาปองสามารถพบได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น ร้านค้าเหล่านี้มีตู้กาชาปองเรียงรายเป็นแถว แต่ละตู้มีของเล่นแคปซูลหลากหลายประเภท ร้านค้าเฉพาะทางที่โด่งดังที่สุดคือ Gachapon Kaikan ตั้งอยู่ในใจกลางอากิฮาบาระ ร้านในตำนานแห่งนี้สร้างความบันเทิงให้กับผู้มาเยือนมานานเกือบ 20 ปี

ด้วยตู้กาชาปองมากกว่า 500 ตู้ ชื่อเสียงของร้านนี้ยังขยายไปยังต่างประเทศ โดยลูกค้าครึ่งหนึ่งเป็นผู้มาเยือนที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะดีไซน์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครได้รับการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่น โดยบางดีไซน์ (โดยเฉพาะที่ผลิตขึ้นเพื่อร่วมมือกับซีรีส์ยอดนิยม) มีการผลิตจำนวนจำกัด จึงไม่น่าแปลกใจที่แฟน ๆ ของซีรีส์บางเรื่องและผู้ที่ชื่นชอบกาชาปองทั่วไปจะเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาลองเสี่ยงโชคกับตู้กาชาปองเหล่านี้ เพราะพวกเขาอาจได้ของสะสมหายากกลับบ้านไปก็ได้!

ที่มา japancreativecenter และ thejapantimes