ธุรกิจการตลาด

ตรึงราคาค่าไฟ 4.18 บาท พีระพันธุ์ นำทัพ ช่วยลดค่าครองชีพคนไทย

20 ก.ค. 67
ตรึงราคาค่าไฟ 4.18 บาท พีระพันธุ์ นำทัพ ช่วยลดค่าครองชีพคนไทย

ข่าวดีสำหรับประชาชน! ค่าไฟฟ้าจะไม่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ รัฐบาลเดินหน้าตรึงราคาค่าไฟฟ้าไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตรึงราคาค่าไฟ 4.18 บาท พีระพันธุ์ นำทัพ ช่วยลดค่าครองชีพคนไทย

ตรึงราคาค่าไฟ 4.18 บาท พีระพันธุ์ นำทัพ ช่วยลดค่าครองชีพคนไทย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้แถลงถึงความสำเร็จในการเจรจากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการตรึงอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2567 ไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับงวดปัจจุบัน ทั้งนี้ กฟผ. และ ปตท. ได้ให้ความร่วมมือในการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

การตัดสินใจตรึงราคาค่าไฟฟ้าในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน และลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวจากผลกระทบของสถานการณ์ต่างๆ โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนครั้งนี้ ถือเป็นการแบ่งเบาภาระร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น ในส่วนของแนวทางการบริหารจัดการค่าไฟฟ้า กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ทบทวนโครงสร้างต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และค่าไฟฟ้าในงวดดังกล่าว

ความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน

ตรึงราคาค่าไฟ 4.18 บาท พีระพันธุ์ นำทัพ ช่วยลดค่าครองชีพคนไทย

โดย ปตท. ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของประเทศ ได้แสดงความยินดีที่จะชะลอการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายบางส่วนออกไปก่อน ขณะที่ กฟผ. ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าหลัก จะลดการรับรู้รายได้ลงเหลือเพียง 0.05 บาทต่อหน่วย ซึ่งส่งผลให้สามารถคงอัตราค่าไฟฟ้าไว้ได้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถคงราคาค่าไฟฟ้าไว้ได้ในระดับที่เหมาะสม กระทรวงพลังงานมีกำหนดจะนำเสนอรายละเอียดและแนวทางการตรึงค่าไฟฟ้าต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ และประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป

การตรึงราคาค่าไฟฟ้าในครั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะสำเร็จได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านความท้าทายด้านพลังงานและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT