ธุรกิจการตลาด

โตโยต้ายังเป็นหนึ่ง! ยอดขายรถยนต์โลกสูงสุด ปี 2567 ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน

31 ก.ค. 67
โตโยต้ายังเป็นหนึ่ง! ยอดขายรถยนต์โลกสูงสุด ปี 2567 ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน

ในโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่การแข่งขันดุเดือดและเทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การรักษาตำแหน่งผู้นำยอดขายทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่องถือเป็นความสำเร็จที่น่าจับตามอง แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป โตโยต้า ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์จากญี่ปุ่น สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำยอดขายทั่วโลกได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกันในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสำเร็จนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งความท้าทายภายในและภายนอกองค์กรที่โตโยต้าต้องเผชิญ

โตโยต้ายังเป็นหนึ่ง! ยอดขายรถยนต์โลกปี 2567 ติดต่อกัน 5 ซ้อน

โตโยต้ายังเป็นหนึ่ง! ยอดขายรถยนต์โลกสูงสุด ปี 2567 ติดต่อกัน 5 ซ้อน

โตโยต้ายังคงครองตำแหน่งผู้นำยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ด้วยยอดขายรวม 5.16 ล้านคัน แซงหน้าโฟล์คสวาเกน คู่แข่งสำคัญจากเยอรมนี แม้ยอดขายรวมของกลุ่มโตโยต้า (รวมไดฮัทสุและฮีโน) จะลดลง 4.7% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการหยุดผลิตชั่วคราวจากปัญหาคุณภาพและยอดขายที่ชะลอตัวในประเทศจีน แต่โตโยต้ายังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลกได้อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายมากกว่าโฟล์คสวาเกน ซึ่งมียอดขาย 4.35 ล้านคันในช่วงเวลาเดียวกัน

ยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลกของกลุ่มโตโยต้าลดลง 9.8% เหลือ 5.07 ล้านคันในช่วง 6 เดือนแรก โดยยอดขายในประเทศญี่ปุ่นลดลง 32.0% เหลือ 823,595 คัน เนื่องจากการระงับการผลิตของไดฮัทสุหลังพบการปลอมแปลงข้อมูลในการทดสอบความปลอดภัย นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้หยุดการผลิตบางส่วนในประเทศเนื่องจากปัญหาในการทดสอบรถยนต์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐบาล และการเรียกคืนรถยนต์ Prius hybrid ที่ได้รับความนิยมก็ส่งผลกระทบต่อยอดขายเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 3.1% ทำสถิติสูงสุดที่ 4.34 ล้านคัน โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้าและเลกซัสได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในอเมริกาเหนือ รถยนต์ไฮบริดถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาแพง ขณะที่ในยุโรป Corolla และ RAV4 รุ่นไฮบริดได้รับการตอบรับอย่างดี

โตโยต้ายังครองแชมป์ยอดขายรถยนต์โลก แต่เจอศึกหนักในจีน

โตโยต้ายังเป็นหนึ่ง! ยอดขายรถยนต์โลกสูงสุด ปี 2567 ติดต่อกัน 5 ซ้อน

ถึงแม้จะเป็น เบอร์หนึ่งด้านยอดขายแต่ โตโยต้ากำลังเผชิญกับความท้าทายในตลาดประเทศจีน โดยมียอดขายลดลง 10.8% สืบเนื่องจากการแข่งขันด้านราคาที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดจากผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่น โดยในช่วงครึ่งปีแรก โตโยต้าและเลกซัสมียอดขายรวม 4.89 ล้านคันทั่วโลก ขณะที่ไดฮัทสุและฮีโนมียอดขาย 210,910 คันและ 59,273 คันตามลำดับ

กลุ่มโตโยต้าวางแผนที่จะจำหน่ายรถยนต์ 10.95 ล้านคันในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคมปีหน้า ลดลง 1.3% จากปีก่อนหน้า โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภายในองค์กร อาทิ กรณีอื้อฉาวด้านคุณภาพ มากกว่าการมุ่งเน้นที่ปริมาณการขายในปีงบประมาณปัจจุบัน

สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 8 รายมียอดขายรวม 12.04 ล้านคันทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 0.4% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยอดผลิตรถยนต์รวมลดลง 5.5% เหลือ 11.86 ล้านคัน ซึ่งเป็นผลกระทบจากกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตในการรับรองรถยนต์ของ Mazda, Honda, Suzuki, Toyota และ Daihatsu

แม้โตโยต้าจะยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์โลก แต่ความท้าทายที่เผชิญอยู่ในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและปัญหาภายในองค์กรเป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้แต่ผู้นำตลาดก็ไม่อาจอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จได้ตลอดไป อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังคงมีศักยภาพในการปรับตัวและเติบโตต่อไปได้ ด้วยการมุ่งเน้นที่การพัฒนานวัตกรรม การแก้ไขปัญหาภายในองค์กร และการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป อนาคตของโตโยต้าจะเป็นอย่างไร จะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำได้ต่อไปหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา kyodonews

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT