ธุรกิจการตลาด

หมูเด้งฟีเวอร์! ฮิปโปน้อย Soft Power ไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

14 ก.ย. 67
หมูเด้งฟีเวอร์! ฮิปโปน้อย Soft Power ไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

จากลูกฮิปโปแคระธรรมดา สู่ขวัญใจชาวเน็ตและเซเลบริตี้ระดับโลกจน TIME ถึงต้องลงข่าวเจ้า "หมูเด้ง" นี้คือพลังอันน่าทึ่งของ Soft Power ที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรม บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจปรากฏการณ์ "หมูเด้ง" อย่างลึกซึ้ง พร้อมวิเคราะห์ถึงบทบาทของเธอในฐานะ Soft Power ของไทย รวมถึงบทเรียนและความท้าทายที่เราสามารถเรียนรู้จากความสำเร็จของเธอ

หมูเด้งฟีเวอร์! ฮิปโปน้อย Soft Power ไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

หมูเด้งฟีเวอร์! ฮิปโปน้อย Soft Power ไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

จากรายงานของ TIME ระบุว่า ลูกฮิปโปแคระวัยสองเดือนตัวน้อยแสนน่ารักจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ได้เข้าไปครองใจผู้คนนับล้านบนโลกอินเทอร์เน็ตด้วยท่าทางซุกซนและสีหน้าตื่นตกใจ ชาวโซเชียลต่างหลงใหลในสีหน้าอันน่าเอ็นดูของเธอ ไม่ว่าจะเป็นตอนถูกฉีดน้ำ ตอนถูกเจ้าหน้าที่ดูแลอุ้ม หรือแม้แต่ตอนนอนพักผ่อนอยู่บนพื้น สำหรัยเจ้าลูกฮิปโปแคระวัยสองเดือน "หมูเด้ง" จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ได้กลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตทั่วโลกด้วยความน่ารักสดใสและท่าทางซุกซนของเธอ ชื่อ "หมูเด้ง" มาจากการโหวตยอดนิยมที่จัดขึ้นโดยสวนสัตว์ ซึ่งแปลคร่าวๆ ว่า "หมูน้อยเด้งดึ๋ง" หรือ "หมูบดแผ่นกลม"

หมูเด้ง ฮิปโปน้อยสุดฮอต จากขวัญใจชาวเน็ตสู่เซเลบระดับโลก

หมูเด้ง เกิดวันที่ 10 กรกฎาคม และเปิดตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกในวันที่ 25 กรกฎาคม และตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เจ้าหน้าที่สวนสัตว์คอยโพสต์รูปภาพ วิดีโอ และมีมเกี่ยวกับเธออย่างสม่ำเสมอ ทำให้บัญชีโซเชียลมีเดียของสวนสัตว์กลายเป็นเหมือนบัญชีแฟนคลับของหมูเด้ง

ตั้งแต่นั้นมา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ดูแลหมูเด้งก็ตระหนักถึงพลังดาราของเธอเป็นอย่างดี จึงขยันโพสต์รูปภาพ วิดีโอ และมีมเกี่ยวกับลูกฮิปโปตัวน้อยนี้อย่างสม่ำเสมอ เมื่อความนิยมของหมูเด้งเพิ่มขึ้น บัญชีโซเชียลมีเดียของสวนสัตว์ (ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 50,000 คนบน X และกว่า 400,000 คนบน Facebook ในขณะที่บัญชีที่เน้นเฉพาะคอลเล็กชันฮิปโปและคาปิบารามีผู้ติดตามมากกว่า 200,000 คนบน Instagram และกว่า 2 ล้านคนบน TikTok) ก็กลายเป็นเหมือนบัญชีแฟนคลับของหมูเด้ง คอยอัปเดตความเคลื่อนไหวของเธอให้แฟนๆ ทั่วโลกได้รับรู้

หมูเด้ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะกิน นอน หรือแสดงท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ได้รับการยกย่องให้เป็น "ไอคอนไลฟ์สไตล์" สาวน้อยสุดฮอตคนนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนอาร์ตมากมาย และสวนสัตว์ก็กำลังจะมีสินค้าเกี่ยวกับเธอออกมาวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ ทั้งสถานเอกอัครราชทูตไทยในโตเกียวและบริษัทเครื่องสำอาง Sephora Thailand ต่างก็ให้ความสนใจในตัวเธอ Sephora Thailand ถึงกับแนะนำบลัชออนที่ช่วยให้พวงแก้มระเรื่อเหมือนกับลูกฮิปโปตัวน้อย ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก็ได้ทำเค้กเป็นรูปหมูเด้ง และตอนนี้เธอยังมีหน้า Wikipedia เป็นของตัวเองแล้วด้วย

แน่นอนว่า หมูเด้งไม่ใช่ฮิปโปตัวเดียวที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้เพิ่งจัดงานฉลองวันเกิดครบรอบ 59 ปีให้กับแม่มะลิ ฮิปโปเพศเมียที่มีอายุมากที่สุดในประเทศไทย ในขณะที่แม่มะลิมีน้ำหนักถึงสองตัน ฮิปโปแคระอย่างหมูเด้งเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักเพียง 500 ปอนด์เท่านั้น ฮิปโปแคระมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันตกและเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ปัจจุบันเหลืออยู่ในธรรมชาติเพียงประมาณ 2,000 ตัวเท่านั้น

หมูเด้งฟีเวอร์! ยอดคนแห่ชมพุ่ง แต่ความปลอดภัยน่าเป็นห่วง

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่ชาวโซเชียลไม่อยากละสายตาจากหมูเด้ง ภาพตัดต่อที่แฟน ๆ สร้างขึ้นบางภาพจึงมีรูปของหมูหวาน ฮิปโปแคระอีกตัวหนึ่งที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งเคยเป็นไวรัลจากการงับน่องของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ (หมูเด้งเองก็เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าเธอก็มีฟันที่คมไม่เบาเหมือนกัน) นับตั้งแต่หมูเด้งโด่งดังเป็นพลุแตก จำนวนผู้เข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า โดยผู้คนที่แห่กันมาชมลูกฮิปโปน้อยถูกเรียกว่าเป็น "แฟนคลับ" ของเธอ

อย่างไรก็ตาม ความโด่งดังอย่างรวดเร็วของหมูเด้งก็มาพร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเธอ ในวิดีโอหนึ่งที่แชร์บนโซเชียลมีเดีย หมูเด้งกำลังนอนอยู่ริมขอบคอกของเธอ แล้วก็สะดุ้งตกใจเมื่อมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งสาดน้ำใส่เธอ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่านักท่องเที่ยวบางคนพยายามเรียกร้องความสนใจจากเธอด้วยการขว้างกล้วยและเปลือกหอยใส่หมูเด้ง สื่อท้องถิ่นรายงาน ทำให้ผู้คนบนโซเชียลมีเดียต่างเรียกร้องให้มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีขึ้นเพื่อปกป้องลูกฮิปโปตัวน้อย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายณรงค์วิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวให้งดเว้นจากการขว้างปาสิ่งของใส่หมูเด้ง พร้อมกล่าวว่าสวนสัตว์ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าวแล้ว และจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือ "พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่โหดร้าย แต่ยังเป็นอันตรายอีกด้วย" เขากล่าว "เราต้องปกป้องสัตว์เหล่านี้และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะดวกสบายให้กับพวกเขา"

บทวิเคราะห์เชิงธุรกิจและ Soft Power ของไทย: กรณีศึกษา "หมูเด้ง"

หมูเด้งฟีเวอร์! ฮิปโปน้อย Soft Power ไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ความสำเร็จทางธุรกิจที่หมูเด้งมอบให้

  • การท่องเที่ยวบูม: หมูเด้งได้กลายเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ทำให้จำนวนผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นี่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสัตว์น่ารักในการกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจท่องเที่ยวในท้องถิ่น
  • สินค้าที่ระลึกขายดี: กระแสความนิยมของหมูเด้งทำให้เกิดโอกาสในการสร้างรายได้จากการขายสินค้าที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา เสื้อผ้า หรือของที่ระลึกอื่นๆ ที่มีรูปหมูเด้ง ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับทั้งสวนสัตว์และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
  • การตลาดและการสร้างแบรนด์: บริษัทต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศต่างใช้หมูเด้งในการทำการตลาดและสร้างแบรนด์ ตัวอย่างเช่น Sephora Thailand ที่ใช้หมูเด้งในการโปรโมทบลัชออน นี่แสดงให้เห็นว่าหมูเด้งมีอิทธิพลในการสร้างการรับรู้และดึงดูดความสนใจต่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หมูเด้ง Soft Power ทูตวัฒนธรรมตัวน้อย ของไทย

  • เผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาโลก: หมูเด้งได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทำให้คนต่างชาติได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น นอกจากนี้ ชื่อของหมูเด้งยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและอาหารไทย ซึ่งเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยอย่างแนบเนียนและน่ารัก
  • สร้างภาพลักษณ์เชิงบวก: หมูเด้งสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับประเทศไทย เธอเป็นตัวแทนของความน่ารัก ความไร้เดียงสา และความสุข ซึ่งช่วยสร้างความประทับใจที่ดีต่อประเทศไทยในสายตาชาวโลก
  • การทูตสาธารณะ: ความสนใจที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในโตเกียวมีต่อหมูเด้ง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยตระหนักถึงพลังของ Soft Power และพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากมันในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศ

เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจาก หมูเด้งฟีเวอร์

  • การจัดการความนิยม: ความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของหมูเด้งทำให้เกิดความท้าทายในการจัดการ โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเธอเอง สวนสัตว์ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้หมูเด้งได้รับอันตรายจากนักท่องเที่ยวบางคนที่อาจประพฤติตัวไม่เหมาะสม
  • การใช้ประโยชน์จาก Soft Power: ประเทศไทยควรเรียนรู้จากกรณีศึกษาของหมูเด้ง และมองหาโอกาสในการใช้ Soft Power ในด้านอื่นๆ เช่น อาหารไทย ภาพยนตร์ไทย และวัฒนธรรมไทย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศและดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศ
  • ความยั่งยืน: ความนิยมในโลกออนไลน์มักจะมาเร็วไปเร็ว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องวางแผนระยะยาวและสร้าง Soft Power ที่มีความยั่งยืน ไม่ใช่แค่เพียงกระแสชั่วคราว

สิ่งที่ต้องระวังสำหรับสวัสดิภาพสัตว์

สวัสดิภาพสัตว์ต้องมาก่อน การต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของหมูเด้งและสัตว์อื่นๆ เป็นอันดับแรก การแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจไม่ควรเกิดขึ้นโดยมีค่าใช้จ่ายในการทำร้ายหรือละเมิดสิทธิสัตว์ นอกจากนี้ ความยั่งยืนคือกุญแจสำคัญ ด้วยความนิยมในโลกออนไลน์มักจะมาเร็วไปเร็ว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องวางแผนระยะยาวและสร้าง Soft Power ที่มีความยั่งยืน

หมูเด้งฟีเวอร์พลังอันยิ่งใหญ่ของ Soft Power

เรื่องราวของ "หมูเด้ง" ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของลูกฮิปโปที่น่ารัก แต่เป็นบทเรียนที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของ Soft Power และศักยภาพของประเทศไทยในการนำเสนอตัวเองสู่สายตาโลกในรูปแบบที่สร้างสรรค์และน่าจดจำ หากเราสามารถเรียนรู้จากความสำเร็จของหมูเด้ง และนำบทเรียนเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนา Soft Power ในด้านอื่นๆ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ประเทศไทยก็มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน Soft Power ในระดับโลก และสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมได้อย่างมหาศาล

อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่าเบื้องหลังความสำเร็จนี้คือชีวิตของสัตว์ตัวน้อยตัวหนึ่ง ดังนั้น การดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของหมูเด้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องร่วมมือกันสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตร เพื่อให้หมูเด้งสามารถเติบโตและเป็นตัวแทนของ Soft Power ไทยได้อย่างมีความสุขและยั่งยืนต่อไป

อ้างอิง time

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT