ธุรกิจการตลาด

ประธาน LVMH เสียหายกว่า 4 แสนล้าน! หลังพิษเศรษฐกิจจีนฉุดให้ LVMH ร่วง

12 ต.ค. 67
ประธาน LVMH เสียหายกว่า 4 แสนล้าน! หลังพิษเศรษฐกิจจีนฉุดให้ LVMH ร่วง

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเศรษฐกิจมังกรแผ่นดินใหญ่ส่งสัญญาณชะลอตัว  สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก  กระทบถึงขั้นมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง "แบร์นาร์ด อาร์โนลต์" เจ้าของอาณาจักรสินค้าหรู LVMH  ต้องสูญเสียความมั่งคั่งไปกว่า 4 แสนล้านบาท  บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความเชื่อมโยงของเศรษฐกิจจีน  ผลกระทบต่อธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย  และอนาคตของ LVMH  ภายใต้การนำทัพของอาร์โนลต์  ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

ประธาน LVMH เสียหายกว่า 4 แสนล้าน! หลังพิษเศรษฐกิจจีนฉุดให้ LVMH ร่วง

ประธาน LVMH เสียหายกว่า 4 แสนล้าน! หลังพิษเศรษฐกิจจีนฉุดให้ LVMH ร่วง

แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LVMH  กำลังเผชิญกับภาวะผันผวนของมูลค่าทรัพย์สินส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ  โดยในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา  ความมั่งคั่งของเขาปรับลดลงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะการณ์ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง

ในปีนี้  อาร์โนลต์ต้องเผชิญกับความท้าทาย  เมื่ออันดับมหาเศรษฐีโลกของเขาลดลงมาอยู่ที่อันดับ 5  ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ  และความผันผวนของตลาดทุนทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม  สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว  เมื่อไม่นานมานี้  ภายหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่  อาร์โนลต์ก็สามารถฟื้นฟูฐานะ  และกลับขึ้นสู่อันดับที่ 4  ก่อนจะขยับขึ้นมาครองอันดับ 3 ในดัชนี Bloomberg Billionaires Index ได้ในที่สุด

ทั้งนี้  ความผันผวนของมูลค่าทรัพย์สินของอาร์โนลต์  แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจมหภาค  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีน  กับภาคธุรกิจ  ซึ่งในกรณีนี้คืออุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย  ซึ่งความเชื่อมั่นของผู้บริโภค  และทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจ  ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจ  และความมั่งคั่งของบุคคลในระดับสูง

แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอตัว ฉุดมูลค่าทรัพย์สินของอาร์โนลต์ลดลงกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ประธาน LVMH เสียหายกว่า 4 แสนล้าน! หลังพิษเศรษฐกิจจีนฉุดให้ LVMH ร่วง

แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LVMH  กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวล  เมื่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาปรับตัวลดลงอย่างมากถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือกว่า 4.3 แสนล้านบาท  ภายในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์เดียว  โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่งคั่งของอาร์โนลต์ในครั้งนี้  คือปฏิกิริยาของตลาดทุนที่ไม่ตอบรับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีนเท่าที่ควร

ก่อนหน้านี้  รัฐบาลจีนได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา  ซึ่งประกอบด้วยมาตรการสำคัญต่างๆ  เช่น  การอัดฉีดเงินทุนเพื่อพยุงตลาดหุ้น  และการออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์  อย่างไรก็ตาม  รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูฯ ดังกล่าวยังคงขาดความชัดเจน  ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมาตรการ  และนำไปสู่การเทขายหุ้นอย่างหนักในสัปดาห์นี้

ราคาหุ้นของ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่อาร์โนลต์ถือหุ้นใหญ่  ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง  โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงถึง 7% ในวันอังคารที่ผ่านมา  ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของอาร์โนลต์ลดลงกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  ตามรายงานของ Business Insider  แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายในวันพุธ  โดยมูลค่าความเสียหายลดลงเหลือ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท  แต่ก็ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก  และความเชื่อมโยงระหว่างตลาดทุนทั่วโลกกับเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้  ผลกระทบดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภาคธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น  แต่ยังส่งผลลุกลามไปยังหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์  ซึ่งราคาปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน  เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจในทิศทางและประสิทธิภาพของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีน  และความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกของจีนในอนาคต

อาร์โนลต์ กับอาณาจักร LVMH ความผันผวนของธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย และอนาคตเศรษฐกิจจีน

ประธาน LVMH เสียหายกว่า 4 แสนล้าน! หลังพิษเศรษฐกิจจีนฉุดให้ LVMH ร่วง

ตลาดเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น)  มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อผลประกอบการของ LVMH  โดยคิดเป็นสัดส่วนยอดขายสูงถึง 31% ในปี 2566  ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนถือเป็นตลาดหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตในภูมิภาค  ความมั่งคั่งของนายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ LVMH  บริษัทโฮลดิ้งกลุ่มสินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอางระดับโลก  ซึ่งเขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่  ด้วยสัดส่วนการถือครองประมาณ 48%  LVMH  นับเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจชั้นนำของยุโรป  ที่มีมูลค่าสูงสุด  และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย

แม้ว่าก่อนหน้านี้  นายอาร์โนลต์จะเคยดำรงตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก  แซงหน้าบุคคลสำคัญอย่างนายอีลอน มัสก์  และนายเจฟฟ์ เบโซส  แต่ปัจจุบัน  สถานการณ์ของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ  ส่งผลให้องค์กรธุรกิจในกลุ่มดังกล่าว  ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทาย  หรือแม้กระทั่งประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรที่อาจลดลง

อย่างไรก็ตาม  การครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 4 ของโลก  ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ  (หรือประมาณ 6.4 ล้านล้านบาท)  ณ วันพุธที่ 10 ตุลาคม 2567  ยังคงสะท้อนถึงสถานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคงของนายอาร์โนลต์  และศักยภาพการเติบโตของ LVMH  ที่ยังคงดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง  โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา  บริษัทได้ขยายการลงทุนเชิงรุก  ผ่านการเข้าลงทุนใน Moncler  แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับเล่นสกีชั้นนำ  การเข้าซื้อกิจการนิตยสาร Paris Match  สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส  และการเป็นผู้สนับสนุนหลักของ Formula One  เป็นระยะเวลา 10 ปี

ในขณะเดียวกัน  ความคาดหวังเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีน  ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม  ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ  และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ  ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจของ LVMH  รวมถึงความมั่งคั่งของนายอาร์โนลต์  และอาจผลักดันให้เขากลับไปครองตำแหน่งสูงสุดของทำเนียบมหาเศรษฐีโลกได้อีกครั้ง

อนาคต LVMH กับสมดุลแห่งความมั่งคั่ง ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

กรณีศึกษาของ แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ และ LVMH สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจมหภาคกับความมั่งคั่งของบุคคลระดับสูง  และความสำเร็จของธุรกิจ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย  ซึ่งต้องพึ่งพากำลังซื้อของผู้บริโภค  และการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

แม้ว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อ LVMH  และมูลค่าทรัพย์สินของอาร์โนลต์ในระยะสั้น  แต่ LVMH ยังคงเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่  ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง  และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง  การขยายการลงทุนเชิงรุก  การปรับตัว  และการบริหารความเสี่ยง  จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ LVMH  สามารถรับมือกับความท้าทาย  และรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยต่อไปได้

นอกจากนี้  การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน  การเติบโตของตลาดในภูมิภาคอื่นๆ  และความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค  จะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางความสำเร็จของ LVMH  และความมั่งคั่งของอาร์โนลต์ในอนาคต

อย่างไรก็ดี  ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ  การแข่งขันที่รุนแรง  และปัจจัยภายนอกอื่นๆ  ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ LVMH  ต้องเตรียมรับมือ  การติดตามสถานการณ์  การวิเคราะห์  และการปรับกลยุทธ์อย่างเหมาะสม  จะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของ LVMH  และการรักษาสมดุลแห่งความมั่งคั่งของอาร์โนลต์  ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

ที่มา fortune

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT