วงการเครื่องดื่มชูกำลังร้อนฉ่าขึ้นมาทันที! เมื่อ Keurig Dr Pepper เจ้าพ่อแห่งวงการเครื่องดื่มระดับโลก ประกาศทุ่มเงินกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ คว้า Ghost แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังขวัญใจวัยรุ่น Gen Z มาไว้ในมือ ดีลนี้ไม่ธรรมดา เพราะสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การรุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่กำลังบูมสุดๆ พร้อมกับชิงความได้เปรียบในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Gen Z ที่กำลังมีอิทธิพลต่อตลาด Ghost จะก้าวไปในทิศทางไหน? Keurig Dr Pepper จะทำอย่างไรให้ Ghost ประสบความสำเร็จ?
Keurig Dr Pepper ทุ่มพันล้าน! ซื้อ Ghost ดันเครื่องดื่มชูกำลัง
Keurig Dr Pepper บริษัทเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก ประกาศกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Ghost แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ มูลค่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้สูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.368 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Keurig Dr Pepper ในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Gen Z และตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่ม
Ghost โดดเด่นด้วยกลยุทธ์การนำเสนอรสชาติที่แปลกใหม่ โดยร่วมมือกับแบรนด์ขนมหวานชั้นนำอย่าง Sour Patch Kids และ Oreo ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในการเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ นาย Tim Cofer ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Keurig กล่าวว่า Ghost เป็นแบรนด์ที่ "สอดรับกับไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของผู้บริโภคยุค Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีอิทธิพลต่อเทรนด์การบริโภคในปัจจุบัน"
"เครื่องดื่มชูกำลังเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการพลังงานและความตื่นตัวในการดำเนินชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความท้าทายในปัจจุบัน" นาย Cofer กล่าวเสริม
Ghost มีอัตราการเติบโตถึง 4 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
Keurig เปิดเผยข้อมูลว่า ยอดขายสุทธิของ Ghost มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 4 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ทางการตลาดที่เฉียบคม และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
Wall Street Journal รายงานว่า ข้อตกลงทางธุรกิจครั้งนี้ นับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญที่สุดของ Keurig นับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ Dr Pepper Snapple Group ในปี 2561 ด้วยมูลค่าเกือบ 19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
การเข้าซื้อกิจการ Ghost ครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Keurig ในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ และเครื่องดื่มพร้อมดื่ม โดยก่อนหน้านี้ Keurig ได้เข้าถือหุ้นใน C4 Energy เมื่อปี 2565 และได้ประกาศความร่วมมือกับ Black Rifle Coffee Company ในปีนี้ เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง
Keurig Dr Pepper Inc. (KDP) จะดำเนินการเข้าซื้อกิจการ Ghost เป็นสองระยะ โดยระยะแรกจะจ่ายเงินสด 990 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเข้าถือหุ้น 60% ภายในต้นปี 2568 และจะเข้าซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดในปี 2571 ข้อตกลงนี้ครอบคลุมธุรกิจโภชนาการการกีฬาและเครื่องดื่มชูกำลังทั้งหมดของ Ghost
ทั้งนี้ นาย Dan Lourenco และ นาย Ryan Hughes ผู้ร่วมก่อตั้ง Ghost จะยังคงดำรงตำแหน่งและรับผิดชอบดูแลการดำเนินงานต่อไป เพื่อความต่อเนื่องของธุรกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืน
"Keurig เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแบรนด์ วิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Keurig เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Ghost" นาย Lourenco กล่าว
Ghost กับอนาคตที่ท้าทายในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง
การเข้าซื้อกิจการ Ghost โดย Keurig Dr Pepper สร้างความฮือฮาให้กับวงการเครื่องดื่มไม่น้อย สะท้อนให้เห็นถึง การปรับตัวของแบรนด์ต่างๆ เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่
Ghost แจ้งเกิดในฐานะแบรนด์ที่เข้าใจ และตอบโจทย์ความต้องการของ Gen Z ได้อย่างตรงจุด ด้วยรสชาติที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร เกิดจากการ Collaboration กับแบรนด์ขนมหวานยอดนิยม กลยุทธ์นี้เองที่ทำให้ Ghost สร้างฐานแฟนคลับเหนียวแน่น และเติบโตอย่างรวดเร็ว
Keurig Dr Pepper มองเห็นศักยภาพของ Ghost จึงตัดสินใจทุ่มเงินกว่าพันล้านเหรียญ เพื่อเข้าซื้อกิจการ หวังเสริมทัพธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Gen Z ซึ่งมีกำลังซื้อมหาศาล และมีอิทธิพลต่อเทรนด์ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ Ghost ภายใต้ร่มเงาของ Keurig Dr Pepper ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ความท้าทายสำคัญคือ การรักษาเอกลักษณ์ และความนิยมในหมู่แฟนคลับเดิม ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ การบาลานซ์ระหว่างการเติบโต และการรักษา DNA ของแบรนด์ จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในระยะยาว
ในอนาคต เราอาจจะได้เห็น Ghost ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การแตกไลน์สินค้าไปสู่เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ การพัฒนารสชาติใหม่ๆ ที่แปลกแหวกแนว เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงการบุกตลาดต่างประเทศ
ที่มา cnn