งานเข้า ‘อีลอน มัสก์’ ซีอีโอแห่ง Tesla อีกครั้ง หลังก.ล.ต. สหรัฐ เร่งตรวจสอบกรณี ‘คิมบัล มัสก์’ น้องชายของอีลอน ขายหุ้นบริษัทกว่า 3.55 พันล้าน เพียง 1 วันก่อนอีลอนเปิดโพลถามชาวทวิตเตอร์ ว่าเขาควรขายหุ้น 10% เพื่อนำเงินมาเสียภาษีดีหรือไม่?
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า ก.ล.ต. สหรัฐ กำลังอยู่ในระหว่างตรวจการตรวจสอบ ‘พี่น้องมัสก์’ ได้แก่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า เทสล่า และ คิมบัล มัสก์ ผู้เป็นน้องชายและหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร กรณีที่คิมบัล ขายหุ้นเทสล่ามูลค่ากว่า 109 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.55 ล้านบาท) เพียง 1 วันก่อนอีลอน มัสก์ เปิดโพลบนทวิตเตอร์ ซึ่งเข้าข่ายการละเมิดกฎการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลหรือประโยชน์จากภายใน
เหตุการณ์เจ้าปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา หลังอีลอน มัสก์ มักจะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเลี่ยงภาษี โดยการสะสมความมั่งคั่งของเขาเอาไว้ในมูลค่าหุ้นของบริษัท เนื่องจากเขาได้รับค่าเหนื่อยเป็นหุ้น ไม่ใช่เงินสดเหมือนคนทั่วไป จึงจะยังไม่ต้องเสียภาษี จนกว่าจะขายหุ้นนั้นออกมา
เขาจึงตั้งโพลถามชาวทวิตเตอร์ว่า ควรขายหุ้น 10% ที่ตนถือครองอยู่เพื่อมาจ่ายภาษีหรือไม่ ซึ่ง 57.9% จากจำนวนกว่า 3 ล้านผลโหวต ตอบว่า ‘ควร’ นั่นทำให้หุ้นเทสล่า ร่วงลงเกือบ 5% ในวันซื้อขายวันถัดมา
โดย ก.ล.ต. สหรัฐ ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบกรณีการขายหุ้นของ คิมบัล ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน ซึ่ง คิมบัล ก็ยืนยันว่า เขาไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตั้งโพลบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของมัสก์ และการขายหุ้นของอีลอน มัสก์ ในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นการขายตามแผนการซื้อขาย ที่ได้สร้างไว้ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนของปีที่ผ่านมาเช่นกัน
อีลอน มัสก์ ถือได้ว่าเป็น ไม้เบื่อไม้เมาของ ก.ล.ต. สหรัฐ เพราะเขามักจะมีพฤติกรรมส่อไปในทาง ‘ปั่นราคาหุ้น’ ดังเช่นการตั้งโพลบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาในครั้งนี้ ก็ถูกก.ล.ต. สหรัฐออกหมายเรียกในช่วงต้นเดือนกุมภพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบกรณีที่โพลดังกล่าว ส่งผลต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท
ซึ่งทางด้าน อีลอน เอง ก็เพิ่งออกมาตัดพ้อว่า ก.ล.ต. สหรัฐจงใจกลั่นแกล้งเขา หลังจากโดน ‘ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง’ รวมถึงพยายามกดดันไม่ให้เขาใช้สิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์ และละเลยหน้าที่ในการชดเชยเงิน 40 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งเกิดจากการที่เขาเคยตั้งโพสต์บนทวิตเตอร์ว่า กำลังพิจารณาจะนำเทสล่าออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น เนื่องจากมีแหล่งทุนจากซาอุดิอารเบียสนใจเข้ามาเข้าซื้อหุ้นในราคาถึง 420 ดอลลาร์/หุ้น สร้างความแตกตื่นให้นักลงทุนเป็นอย่างมาก
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ก.ล.ต. สหรัฐ จึงฟ้องอีลอน มัสก์ ส่งผลให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งซีอีโอเป็นระยะเวลาถึง 3 ปี รวมถึงให้เทสล่า และอีลอน จ่ายค่าปรับฝั่งละ 20 ล้านดอลลาร์ และตั้งข้อตกลงว่า ต่อจากนี้ ทุกๆ โพสต์ส่วนตัวที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเทสล่า ต้องได้รับการอนุมัติก่อนจากฝ่ายกฎหมายของบริษัทก่อนจะทำการโพสต์อีกด้วย