รู้จัก 'ห้างเพชรทองออโรร่า' ว่าที่หุ้นน้องใหม่ ในตลาดหหลักทรัพย์ จากร้านทองตู้แดง สู่แบรนด์หมื่นล้าน

การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน มักเห็นธุรกิจดั้งเดิมที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานแต่ก็ต้องปรับตัวให้ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจร้านทองที่ในอดีตมักเห็น "ร้านทองตู้แดง" เปิดกระจายซึ่งหลักๆ มีรายได้มาจากการขายทองคำรูปพรรณและทองคำแท่ง ทั้งขายให้ลูกค้าทั่วไปที่มาซื้อทอง และขายทองรูปพรรณเก่าให้ผู้ค้าส่งทองคำหรือผู้ผลิต รวมถึงรายได้จากค่ากำเหน็จ หรือค่าผลิตทองคำรูปพรรณ

ที่บวกค่าการตลาดของผู้ประกอบการร้านทองไปอีกทอดหนึ่ง เพื่อให้คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าสินค้า เช่น ค่าเดินทาง ดังนั้นราคาขายทองรูปพรรณ หนัก 1 บาท จะเท่ากับราคาขายทองคำแท่ง หนัก 1 บาท + ค่ากำเหน็จ

นอกจากนี้กิจการร้านทองอาจมีการประกอบธุรกิจอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การรับขายฝาก (คล้ายกับการจำนำ) โดยมีข้อตกลงว่า ผู้ขายมีสิทธิไถ่ถอนคืนภายในกำหนดเวลาตามสัญญา โดยจะบวกค่าตอบแทนที่คำนวณตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญานั้นๆ รวมถึงการขายเครื่องประดับ สินค้าที่เกี่ยวข้อง และการให้บริการอื่นๆ อาทิ รับซ่อมทอง การใส่กรอบพระ รับจองวัตถุมงคล ชุบทอง เป็นต้น

แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมีทายาทคนรุ่นใหม่ๆ มารับช่วงบริหารต่อจึงเริ่มเห็นธุรกิจ "ร้านทองตู้แดง" เริ่มขยายต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเพิ่มช่องของแหล่งรายได้มากขึ้น โดยผันตัวเองมาสู่โลกของธุรกิจการลงทุน ยกตัวอย่างบริษัทใหญ่ที่คนลงทุนในทองคำต้องคุ้นชื่ออย่างกลุ่ม 'วายแอลจี'-'ฮั่วเซ่งเฮง'-แม่ทองสุก ล้วนมีจุดเริ่มต้นธุรกิจคล้ายกัน คือ ซื้อ-ขาย และนำเข้า-ส่งออก ทองคำ

จนขยับกลายผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด และต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหรือใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจดั้งเดิมไปสู่ธุรกิจนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX หรือโกลด์ ฟิวเจอร์ ด้วย และปัจจุบันยังล้ำหน้าไปถึงขั้นสามารถให้บริการนักลงทุนสามารถซื้อขายทองคำผ่านแอปพลิเคชั่นได้แล้วโดยไม่ต้องไปปที่ร้านทอง

อีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังจะปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจสมัยใหม่นั่นคือ แบรนด์ 'ออโรร่า' ร้านค้าทองคำที่เริ่มจากช่างทองที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญการในเรื่องทองคำ เปิดร้านภายใต้ชื่อ 'ห้างทองซุ่ยเซ่งเฮง' ในปี 2516 ผลิตและขายส่งทองให้กับร้านขายทองย่านเยาวราช ต่อมากิจการร้านทองได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงได้เริ่มขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต่อเปลี่ยนชื่อมาเป็น 'ร้านทองแท้ออโรร่า' จากนนั้นต่อมาในปี 2560 ร้านทองแท้ออโรร่าเตียมพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัล ได้ขยายเพิ่มขายทองออนไลน์อย่างเต็มตัว

ล่าสุด 'ออโรร่า ดีไซน์' กำลังเตรียมจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป(IPO) และกำลังจะเข้าไปเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ใกล้เคียงกันอย่าง บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX ที่ทำธุรกิจค้าทองคำแท่ง กับ บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE เป็นรุ่นพี่อยู่ในตลาดหุ้น

บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตข่ยหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 334 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังไอพีโอ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น และมูลค่าราคาตามบัญชี (Book Value) ณ วันที่ 31 มี.ค. 2565 ที่ 2.65 บาท/หุ้น แผนมีจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ซึ่งมี บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO

ทีม SPOTLIGHT จะพาไปรู้จักกับ 'ออโรร่า ดีไซน์' ทำธุรกิจอะไรไปดูกัน

ปัจจุบัน 'ออโรร่า ดีไซน์' ทำธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งรวมถึงการบริการขาย รับซื้อคืน ขายฝากสินค้า และบริการหลังการขาย แบ่งกลุ่มธุรกิจหลักได้ดังนี้

1.ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชร และอัญมณี และของขวัญที่ทำมาจากทองคำเป็นหลัก โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก 3 ประเภท Modern Gold คือ ผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ได้แก่ สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู ทองแผ่น เป็นต้น, Design Gold

กลุ่มสินค้ามี 4 กลุ่ม ได้แก่

• พระเครื่องเลี่ยมทอง
• สินค้าเสริมสิริมงคล เช่น สร้อยมือปีเซี่ยะ แผ่นทองมงคล จี้ราศี เป็นต้น
• เครื่องประดับ
• สินค้ากลุ่มของขวัญ เช่น กรอบรูปงานหัตถศิลป์ทองคำ เป็นต้น, Diamond ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชรแท้ เช่น แหวนเพชร สร้อยคอเพชร ต่างหูเพชร สร้อยข้อมือเพชร จี้เพชร เป็นต้น

2.ธุรกิจขายฝากทองคำและเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ โดยลูกค้าสามารถไถ่ถอนทรัพย์ที่นำมาขายฝากได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน ปัจจุบันบริษัทฯ คิดอัตราดอกเบี้ยรับขายฝากตามจำนวนวันขายฝาก ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 1.25% ต่อเดือน โดยมีค่าบริการเริ่มต้น 40 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

บริษัทมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้าในธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ และเครื่องประดับและของขวัญที่ทำมาจากทองคำ โดยการสร้างความพึงพอใจในสินค้าจากลูกค้า ทั้งในรูปแบบดีไซน์ ความสวยงาม การบริการทั้งก่อนและหลังการขาย

รวมทั้งการขยายพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์สินค้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยในปี 2564 และไตรมาส 1/2565 มี Ticket size ของลูกค้าเฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อราย

รู้จัก 5 แบรนด์ ของ 'ออโรร่า'

• AURORA
• เซ่งเฮง
• ของขวัญ by Aurora
• AURORA Diamond
• ทองมาเงินไป

โดยมีสาขาทั้งหมด 255 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯและปริมณฑล 142 สาขา และต่างจังหวัด 113 สาขา

เปิดช่องทางขายทองออนไลน์

บริษัทมีช่องทางการจำหน่ายแบบออนไลน์ (E-Commerce) ผ่านทางเว็บไซต์ www.aurora.co.th และยังขยายช่องทางแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ (Marketplace) ได้แก่ Shopee Lazada และ JD central รวมทั้ง Line MyShop Line OpenChat และ Facebook ด้วย ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ เป็น 14% ภายในปี 67

ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,344 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 1,000 ล้านบาท หลังเสนอขายหุ้น IPO จะทำให้มีทุนชำระแล้วเต็มจำนวน โครงสร้างผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย

บริษัท ธัม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 430 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 43% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนลงมาที่ 32.23%
ที่เหลือส่วนใหญ่ถือโดยบุคคลในตระกูลศรีรุ่งธรรม 39.7% จะลดลงเหลือ 29.76%

ทั้งนี้ ธัม เอ็นเตอร์ไพรส์ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และถือหุ้นโดยกลุ่มครอบครัวศรีรุ่งธรรม

เปิดรายได้-กำไร "ออโรร่า" ย้อนหลัง

• ปี 2562 มีรายได้รวม 17,331.81 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ  515.12 ล้านบาท
• ปี 2563 มีรายได้รวม 19,430.36 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 734.14 ล้านบาท
• ปี 2564 มีรายได้รวม  22,255.55 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ  591.03 ล้านบาท
• ไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 7,895.3 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 239.75 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 6,466.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 96.53 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นจากการขายผลิตภัณฑ์ Modern Gold

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทฯ

ออ โรร่า เข้าสู่ 'เมตาเวิร์ส'

ในเดือน มี.ค. ปีนี้ที่ผ่านมา ออโรร่า เปิดตัว “ออโรร่า เมต้าเวิร์ส (Aurora Metaverse)” ร้านค้าปลีกทองคำและของมีค่าในโลกเสมือนดิจิทัล ด้วยงบลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาท เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการซื้อขายทองคำและของมีค่าระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนให้กับลูกค้าทั่วไป 

มองเห็นสภาพตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา จากข้อมูล Big Data ที่ชี้ชัดว่า 'เมต้าเวิร์ส' จะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางการจับจ่ายซื้อสินค้าของลูกค้าในอนาคตข้างหน้าในอีกไม่กี่ปี ออโรร่าจึงไม่หยุดยั้งที่จะก้าวเข้าสู่โลกเสมือนดิจิตอลหรือเมต้าเวิร์สอย่างรวดเร็ว เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดค้าปลีกทองคำและของมีค่าของบริษัทที่ทำมามากว่า 50 ปี

โดยสินค้าที่เราจะจำหน่ายในโลกเสมือนนี้ จะมีทั้งสินค้าที่วางจำหน่ายทางหน้าสาขา และสินค้าที่เราพัฒนาขึ้นมาภายใต้ไอเดีย “ตัวตนของคุณ (Personalization)” ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกปรับเปลี่ยน เพิ่มดีไซน์ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์ การสลักชื่อ หรือการสลับดีไซน์ เป็นต้น