ธุรกิจโทรคมนาคมไทย ถือเป็นธุรกิจที่สำคัญกับประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เหลืออยู่ 2 ราย คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ในแบรนด์ AIS กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ที่ได้มีการรวมกิจการกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC
ธุรกิจของ AIS และ TRUE ในช่วงครึ่งปีแรกเป็นอย่างไร วันนี้ SPOTLIGHT จะมาสรุปให้ ดังนี้
เอไอเอสมีกำไรสุทธิ ในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 7,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรายได้การให้บริการหลัก(ไม่รวมค่าเชื่อมโยงเครือข่ายและรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับเอ็นที) อยู่ที่ 33,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการฟื้นตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง ซึ่งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มเชิงบวก หลังให้ความสำคัญด้านคุณภาพของลูกค้ากับกลยุทธ์การขายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
เอไอเอสได้มีการสร้างความแข็งแกร่วด้านโครงข่ายและการให้บริการ โดยได้ขยายโครงข่าย 5G ทำให้ปัจจุบันครอบคลุมกว่า 87% ของประชากรไทย ซึ่งปริมาณการใช้ดาต้าเพิ่มขึ้น และมีการเติบโตของผู้ใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สภาวะตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่มีความอิ่มตัวระดับสูง เอไอเอสจึงได้ปรับกลยุทธ์เสนอแพ็กเกจที่คุ้มค่า และรักษาฐานลูกค้าที่มีคุณภาพไว้ ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการใหม่ในระบบเติมเงินลดลง ขณะจำนวนผู้ใช้บริการระบบรายเดือนเติบโตเล็กน้อย โดยเฉพาะการใช้งานแพ็จเกจ 5G ทำให้มีการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งาน 5G และการฟื้นตัวของการใช้งานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ ARPU เพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสก่อน และลดลง 0.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 213 บาท/เลขหมาย/เดือน
ณ ไตรมาส 2/2566 มีผู้ใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็น 7.8 ล้านราย โดยมีผู้ใช้บริการ AIS ทั้งหมด 45,316,200 ราย ลดลง 1.7% เป็นการลดลงจากผู้ใช้บริการในระบบรายเดือนกว่า 8 แสนราย
ขณะที่จำนวนลูกค้าอินเตอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 60,500 ราย ลดลง 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาเป็น 2.33 ล้านราย เติบโตจากการให้บริการพื้นที่ใหม่ๆ โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอกตามแนวโน้มการขยายตัวของชุมชนเมือง ซึ่งใช้กลยุทธ์เน้นการขายเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการเสนอบริการเสริมที่หลากหลาย ส่งผลให้ ARPU ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 414 บาท/เดือน เพิ่มขึ้น 1.8% จากไตรมาสก่อนหน้า
โดยมุมมองของผู้บริหารต่อแนวโน้มและกยลยุทธ์ในปี 2566 คาดการณ์รายได้จากการให้บริการหลัก เติบโตประมาณ 3-5% และกำไร EBITDA เติบโตตัวเลขตัวเดียวระดับกลาง ท่ามกลางความเสี่ยงและความไม่แน่นอน
ปี 2566 ประเมินเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่บนความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศ เศรษฐกิจชะลอในหลายประเทศทั่วโลก และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยว อานิสงค์จากการเปิดประเทศ
ทั้งนี้ เอไอเอสวางเป้าหมายปรับเปลี่ยนองค์กรจาก ผู้ให้บริการดิจิทัลไลฟ์ (Digital Life Service Provider) สู่ Congnitive Tech-Co ด้วยการพัฒนารากฐานสำคัญ 3 แกน ได้แก่ โครงข่ายอัตโนมัติ ระบบไอทีอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อผลักดันการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ ดังนี้
เอไอเอสคาดการณ์งบลงทุนปี 2566 ไว้ที่ประมาณ 27,000-30,000 ล้านบาท โดยเป้าหมายคงความเป็นผู้นำด้านโครงข่าย และให้ความสำคัญกับการให้บริการโครงข่ายที่ดีที่สุด สอดคล้องกับความต้องการใช้งานของลูกค้าที่เติบโต และมีพื้นที่ครอบคลุมการให้บริการ และมีเป้าหมายที่จะขยายการให้บริการเอไอเอสไฟเบอร์ไปยังพื้นที่ใหม่ รวมถึง การวางแผนขยายธุรกิจลูกค้าองค์กรและการให้บริการด้านดิจิทัลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
TRUE ขาดทุนสุทธิ 2,320 ล้านบาท จากการกลับรายการของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจากการยกยอดผลขาดทุนของ DTN จากความเป็นไปได้จากการปรับโครงสร้างธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัท การเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจากการขยายโครงข่าย การปรับอายุการใช้งานของสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์จากการควบรวมกิจการ จำนวน 250 ล้านบาท
โดยมีรายได้จากการให้บริการที่ 39,431 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุมาจากรายได้จากการให้บริการที่เติบโตขึ้นจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจออนไลน์
ในไตรมาส 2/2566 TRUE เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี 5G ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยครอบคลุมประชากรไทย 90% และมีผู้ใช้บริการ 5G เติบโตเป็น 8.3 ล้านราย เติบโต 32% จากไตรมาสก่อนหน้า รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ (ARPU) ของเทคโนโลยี 5G เพิ่มขึ้น 10-15% สาเหตุจากการขายอุปกรณ์พร้อมบริการ และพัฒนาประสบการณ์ระบบโครงข่ายแบรนด์ทรู และดีแทค ยังคงเป็นผู้ประกอบการชั้นนำ สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและแรงงานนต่างด้าว ผลจากการปรับเนื้อหาให้เหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
ณ ไตรมาส 2/2566 มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 51.1 ล้านราย เพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผู้ใช้บริการระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น 0.7 ล้านราย เป็น 35.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 1.9% จากไตรมาาสก่อนหน้า ตามการไหลกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าว
ขณะที่ผู้ใช้บริการธุรกิจออนไลน์ ทรงตัว อยู่ที่ 3.8 ล้านราย และสมาชิกโทรทัศน์บอกรับสมาชิกทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 1.4 ล้านราย และจำนวนผู้ใช้งานดิจิทัลรายเดือน (MAU) อยู่ที่ 36.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน
ทรู คาดการณ์รายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมโยงต่อโครงข่ายปีนี้ อยู่ระดับทรงตัว และตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท
โดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น ADVANC จากนักวิเคราะห์ 15 ราย ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย ปี 2566 ที่ 246.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.48% และคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ อยู่ที่ 28,066.45 ล้านบาท P/Ee 7.32 เท่า
ขณะที่ TRUE IAA แนะนำ “ซื้อ” จากนักวิเคราะห์ 7 ราย ราคาเป้าหมายเฉลี่ยปี 2566 อยู่ที่ 8.28 บาท/หุ้น