Meta เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2023 รายได้ทะลุ 3.42 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.23 ล้านล้านบาท) โตแรงแซงคาดการณ์นักวิเคราะห์ ฟันกำไร 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.2 แสนล้านบาท) หลังกลยุทธ์ลดพนักงาน - ปรับทิศทางของบริษัทของ ‘Mark Zuckerberg’ เริ่มสัมฤทธิ์ผล แต่ยังไม่ทิ้งฝันใหญ่ไป ‘Metaverse’ ที่ตอนนี้ยังขาดทุนหนักทะลุแสนล้านบาท
Meta อวดกำไรโต 164% รายได้พุ่งแรงสุดในรอบ 2 ปี
รายได้ 1.23 ล้านล้านบาทของ Meta ในไตมาสนี้นับเป็นการเติบโตที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2021 โตถึง 23% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรบริษัทพุ่งขึ้น 164% สู่ระดับ 4.2 แสนล้านบาท แซงคาดการณ์ของ Wall Street ไปได้ สะท้อนให้เห็นว่า กลยุทธ์ที่ Mark Zuckerberg และ Meta เลือกใช้ใน ‘ปีแห่งประสิทธิภาพ (Year of Efficiency)’ นั้นมาถูกทาง ทั้งการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่รวมกว่า 20,000 คน, เพิ่มประสิทธิภาพของระบบการแนะนำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มในเครืออย่าง Facebook และ Instagram, การพัฒนาระบบโฆษณาขุมพลัง AI และการสร้างรายได้จากคอนเทนต์คลิปวิดีโอสั้น Reels ซึ่งนอกจากตัวเลขรายได้และกำไรอันสวยงามแล้ว ตัวเลขของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในเครือ (Facebook, Instagram, Reels, Threads และ Whatsapp) ยังโตขึ้น 7% อีกด้วย
ข่าวดีดังกล่าวผลักให้ราคาหุ้นของ Meta ขยับขึ้นราว 4% ก่อนจะย่อลงมาใกล้เคียงระดับราคาเดิม หลัง Susan Li CFO ของ Meta ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งก่อนๆ อย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อในวงการโฆษณาที่ชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก Detsche Bank มองว่า พื้นฐานของ Meta ยังคงแข็งแกร่งกว่าแพลตฟอร์มร่วมวงการโซเชียลมีเดียเจ้าอื่นๆ และจะต้านทานผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อแวดวงแพลตฟอร์มและโฆษณาได้มากกว่า
ยังไม่ทิ้งฝัน Metaverse แม้ขาดทุนแสนล้าน
แม้ว่าธุรกิจหลักของ Meta จะมีรายได้ดีแบบทุบสถิติ แต่หน่วยธุรกิจใหม่ในฝันของ Mark อย่าง Metaverse ก็ยังอาการไม่ค่อยสู้ดีเท่าใดนัก โดยในไตรมาสที่ผ่านมาหน่วยธุรกิจใหม่ ‘Reality Labs’ ที่ตั้งขึ้นเพื่อดูแลธุรกิจด้านความเป็นจริงเสมือนทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และงานวิจัยโดยเฉพาะ ประสบผลขาดทุนกว่า 3.74 พันล้านดอลลาร์ (1.35 แสนล้านบาท) จากรายได้ที่ตกลง 26% จากปีก่อนหน้า ตอกย้ำถึงหนทางที่ยาวไกลที่ยังคงรอ Meta อยู่กับจุดหมายการเป็นผู้นำด้าน Metaverse ซึ่งเมื่อช่วงเดือนเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว ‘Vision Pro’ แว่น VR ตัวแรกของแบรนด์ ซึ่งแม้จะในคนละระดับราคากับของผลิตภัณฑ์ของ Meta อย่าง Quest และ Quest Pro แต่การเข้ามาของ Apple จะกระทบตลาด AR/VR ของ Meta อย่างแน่นนอน
Mark Zuckerberg เผยว่า แผนในปี 2024 ของ Meta จะหันไปโฟกัสที่ AI ให้มากขึ้น ซึ่งบริษัทจะเริ่มเปิดเกมรุก จ้างวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้าน AI มาเสริมกำลังให้บริษัทมากขึ้น โดยในเดือนที่ผ่านมา Meta ได้ปล่อยผลิตภัณฑ์แชทบอท AI ที่ให้ผู้ใช้งานถาม-ตอบ ข้อมูลและสร้างสรรค์ภาพได้ เพื่อท้าชนกับ ChatGPT แชทบอทเจ้าตลาดของ OpenAI และยังได้เปิดตัว ‘Llama2’ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ที่ทรงประสิทธิภาพของ Meta เพื่อให้นักวิจัยและบริษัทสามารถใช้งานได้ฟรี เพื่อสร้างที่ทางในตลาด Generative AI ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดโดยผู้เล่นบิ๊กเทครายใหญ่เช่น Microsoft, Google หรือ Baidu
ที่มา : Yahoo Finance, CNBC, The Washington Post, Investors.com