ศุภาลัย หนึ่งในผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย เดินหน้าขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้ตั้งกิจการร่วมค้ากับ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ในชื่อ "SSRCP HoldCo Pty Ltd ทุ่มเงินลงทุนกว่า 530 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 12,600 ล้านบาท ปิดดีลซื้อเพื่อเข้าซื้อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 12 โครงการใน 5 เมืองใหญ่ของออสเตรเลีย
ศุภาลัยบุกตลาดออสเตรเลีย ตั้งกิจการร่วมค้า “SSRCP HoldCo Pty. Ltd.” ลงทุน 1.26 หมื่นล้าน
ศุภาลัย เดินหน้าขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง โดยให้ Supalai Australia Holdings Pty Ltd (บริษัทย่อยของบมจ. ศุภาลัย) เข้าร่วมลงทุนกับ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Stockland Corporation Ltd หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย
โดยจัดตั้งเป็นกิจการร่วมค้าใหม่ คือ "SSRCP HoldCo Pty Ltd" และได้มีการลงนามในสัญญากิจการร่วมค้าเพื่อลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลียมูลค่ารวม 1,063 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 25,300 ล้านบาท
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะเข้าซื้อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 12 โครงการใน 4 รัฐ ได้แก่ Western Australia, Queensland,New South Wales และ Victoria 5 เมืองใหญ่ของออสเตรเลีย ได้แก่ Sydney, Brisbane,Wollongong,MelBourne และ Perth ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเมืองที่ ศุภาลัย ไม่เคยขยายตลาดมาก่อน คือ ซิดนีย์ (Sydney) และวูลลองกอง (Wollongong) ในรัฐนิว เซาท์ เวลล์ (New South Wales) คิดเป็นมูลค่าโครงการในสัดส่วนของศุภาลัย 5,785 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือกว่า 137,700 ล้านบาท
ศุภาลัยผนึก Stockland รวมลงทุน 25,300 ล้านบาท ปิดดีลซื้อ 12 โครงการใน 4 รัฐ
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย กล่าวว่า ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้ Supalai Australia Holdings Pty Ltd (บริษัทย่อยของบมจ. ศุภาลัย) เข้าร่วมลงทุนกับ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Stockland Corporation Ltd หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย โดยจัดตั้งเป็นกิจการร่วมค้าใหม่ คือ “SSRCP HoldCo Pty Ltd” และได้มีการลงนามในสัญญากิจการร่วมค้าเพื่อลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลียมูลค่ารวม 1,063 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 25,300 ล้านบาท โดย Supalai Australia Holdings Pty. Ltd. ได้ลงทุนในสัดส่วน 49.9 % คิดเป็นเงินลงทุนกว่า 530 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือ 12,600 ล้านบาท
ฝั่ง Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd จะลงทุนในสัดส่วน 50.1 % เพื่อร่วมกันซื้อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกือบทั้งหมดจากหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของออสเตรเลีย Lendlease Corporation Limited เป็นจำนวนถึง 12 โครงการ ใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเมืองที่ ศุภาลัย ไม่เคยขยายตลาดมาก่อน คือ ซิดนีย์ (Sydney) และวูลลองกอง (Wollongong) ในรัฐนิว เซาท์ เวลล์ (New South Wales) โดยคิดเป็นมูลค่าโครงการทั้ง 12 โครงการในสัดส่วนของศุภาลัย 5,785 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือกว่า 137,700 ล้านบาท
ศุภาลัย เดินหน้าขยายการลงทุนอสังหาฯในออสเตรเลีย มั่นใจศักยภาพเติบโตยั่งยืน
ศุภาลัย ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ไทย เดินหน้าขยายการลงทุนในออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีการลงทุนไปแล้ว 12 โครงการ ซึ่งได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีอย่างสม่ำเสมอ โดยโครงการที่ศุภาลัยเข้าไปร่วมลงทุนทั้งหมดเป็นโครงการที่ดำเนินกิจการอยู่แล้ว ทำให้หลังจากโอนกรรมสิทธิ์จาก Lendlease Corporation Limited ทุกโครงการสามารถทำรายได้เข้าสู่บริษัทร่วมทุนได้ทันที ส่งผลให้ศุภาลัยสามารถรับรู้รายได้จากการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จากการลงทุนพัฒนาอสังหาฯในออสเตรเลียต่อเนื่อง 10 ปี ศุภาลัยและหุ้นส่วนธุรกิจ Lendlease Corporation Limited มีความคล้ายคลึงกันในด้านความเป็นมืออาชีพ ความถูกต้องทางกฎหมาย จรรยาบรรณทางธุรกิจ ความน่าเชื่อถือ และความถูกต้องดีงาม ซึ่งความคิดและความเชื่อที่เหมือนกันข้างต้น ส่งผลให้มีการสร้างสรรค์พัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างกันที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว
“ออสเตรเลียเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง มีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองใหญ่ ความร่วมมือกับ Stockland ในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับศุภาลัยในการขยายตลาดและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในออสเตรเลีย”
ศุภาลัยเชื่อมั่นว่า การเพิ่มการลงทุนในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย ยังคงเติบโตไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ประกอบกับเศรษฐกิจมีความมั่นคงดี จึงคาดว่าจะสามารถส่งมอบผลตอบแทนให้บริษัทได้อย่างน่าพอใจ