ไทยได้ประกาศชัยชนะครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น 4 ราย พร้อมขยายการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ และมิตซูบิชิ ประกาศเดินหน้าลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยภายในระยะเวลา 5 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท
จากข้อมูลของ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญด้านนโยบายสนับสนุนการลงทุนในประเทศของไทย โดยนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย-ญี่ปุ่น รวมทั้งร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องสันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการขยายการลงทุนในไทย และขับเคลื่อนให้ไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหลักในภูมิภาคอาเซียน จากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและบริษัทยานยนต์ญี่ปุ่นทั้ง4 ราย สรุปได้ว่าจะขยายการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ดังนี้
โดยบริษัทยานยนต์ญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย บางบริษัทให้ความเห็นว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตรถกระบะไฟฟ้าในช่วง 2 – 3 ปีข้างหน้า และยังยืนยันว่าจะเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยที่จะสนับสนุนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ลดการปล่อยคาร์บอน ใช้พลังงาน EV และไฮโดรเจน
นอกจากนี้ บริษัทยานยนต์ญี่ปุ่นทั้ง 4 รายยังได้นำเสนอโมเดลของการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Swapping) สำหรับรถเชิงพาณิชย์ ซึ่งไทยพร้อมส่งเสริมสภาพแวดล้อมการลงทุนให้กับผู้ลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะดำเนินการออกมาตรการยกเว้นวีซ่าให้นักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้น
“นายกรัฐมนตรีย้ำว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยให้เป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาคอาเซียน ไทยจึงพร้อมสนับสนุน และร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ต้องการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้สู่ความสำเร็จ และประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ” นายชัย กล่าว
การประกาศลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของยักษ์ใหญ่ยานยนต์ญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยจะส่งผลให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาคอาเซียน และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาลให้กับทั้งสองประเทศ
ที่มา รัฐบาลไทย