ธุรกิจการตลาด

เสนา X ฮันคิว ฮันชิว เปิดบริษัทร่วมทุน ‘เสนา เอชเอชพี’ บุกอสังหาฯ

1 ก.ย. 67
เสนา X ฮันคิว ฮันชิว เปิดบริษัทร่วมทุน ‘เสนา เอชเอชพี’ บุกอสังหาฯ
ไฮไลท์ Highlight
“เพราะปัจจุบันโมเดลอสังหาฯ ในประเทศไทยมี 3 แบบ นั้นก็คือ 1.ซื้อขาด 2.เช่า 30 ปี 3. เช่ารายเดือน แต่ถ้าบอกว่าเราบอกเค้าว่าเรามีเช่ามากกว่า 30 ปี เป็น 99 ปี มันดี มันคือการเพิ่ม option ให้ตัวเองในการทำธุรกิจ แต่มันจะดีกับการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น เรามีที่แปลงใหญ่ เช่า 30 ปี อาจจะยังไม่ค่อยคืนทุน หรือกำไร แต่ถ้าเค้าได้ 99 ปี ก็อาจจะใช้เวลาคืนทุนได้มากกว่า เพียงแต่ว่าในเราอาจจะต้องไปดูมุมอื่น ว่ามันกระทบมากน้อยขนาดไหน และสิ่งที่ต้องคิดเลยคือ กฎหมายเปลี่ยนไปอย่างเดียวแล้วภาคการเงิน ไม่เปลี่ยนตาม มันเป็นไปไม่ได้ เช่น เงื่อนไขการปล่อยกู้ ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตาม”

 

bil_8223m

เสนาฯ เสริมแกร่งธุรกิจ จับมือ บิ๊กอสังหาฯญี่ปุ่นฮันคิว ฮันชิน (HHP) เปิดบริษัทร่วมทุนใหม่ในชื่อ “เสนา เอชเอชพี” สะท้อนความมั่นใจจากพาร์ทเนอร์ ที่พร้อมร่วมลงทุนในระยะยาว ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 422 ล้านบาท โดย บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จะถือหุ้น 51% และ บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ถือหุ้น 49%

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ (ดร.ยุ้ย)  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) SENA กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเดินหน้าสร้างพันธมิตรในระยะยาว และยกประสิทธิภาพใน 3 ด้าน

  1. Credibility คือ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ความมั่นใจจากความร่วมมือในระยะยาวกับบริษัทระดับนานาชาติ การผสมผสานความร่วมมือ และการทำงานแบบมืออาชีพ

  2. Financial คือความมั่นคงในด้านเงินทุน ความเชื่อมั่นในสถานภาพทางการเงิน การบริหารจัดการต้นทุนที่จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงโอกาสทางการเงิน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

  3. Efficiency ที่จะช่วยยกระดับการทำงานให้รวดเร็ว และยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ง่ายต่อการบริหารจัดการ รวมถึงการแลกเปลี่ยนนวัตกรรมความรู้ต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพที่อยู่อาศัยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน

img_4172

โดยที่ผ่านมา เสนาฯ และ ฮันคิว ฮันชิน ได้เริ่มจับมือทางธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2559 ผ่านการร่วมทุน (Joint Venture) พัฒนาโครงการมามากกว่า 66 โครงการครอบคลุมครบทุกเซกเม้นท์ และกระจายอยู่ในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มูลค่ารวมกว่า 83,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท-12 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโด 54 โครงการ และแนวราบ 12 โครงการ

โดยทุกโครงการยังคงพัฒนาบนแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และคอนโด โลว์คาร์บอน ที่จะเดินหน้าพัฒนา และต่อยอดให้ตอบโจทย์คนไทยมากที่สุด พร้อมผสมผสานเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ จากญี่ปุ่นเพื่อร่วมสร้าง Decarbonized Lifestyle ให้กับลูกบ้าน เช่นบ้านประหยัดพลังงาน (ZEH) และ Condo Low-Carbon

cover-zeh

เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนไป คนซื้อคอนโดเมื่อสร้างเสร็จ ไม่ใช่จากใบกระดาษ

ดร.ยุ้ย มองว่า ตอนนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเจอกับความท้าทายรอบด้าน เช่น หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วในวันที่ผู้บริโภค ต่อคิว แย่งกันซื้อคอนโดจากใบกระดาษ (คอนโดที่ยังสร้างไม่เสร็จ) เพื่อต้องการล็อคห้องไว้ซื้ออยู่เอง หรือเก็งกำไร แต่ปัจจุบันผู้บริโภคยังไม่ค่อยมั่นใจกับภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มล่าง (ต่ำกว่า 3 ล้านบาท) ทำให้คนมักซื้อคอนโด หรือบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว พร้อมอยู่ทันที ไม่ได้ซื้อจากใบกระดาษเหมือนสมัยก่อน

ทำให้ความน่าเป็นห่วงตอนนี้ อาจตกไปอยู่ที่กลุ่ม developer อสังหาฯ เช่น

  • ต้องมีการบริหารจัดการ cash flow ให้ดี ต้องมีเงินสำรองค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างก่อน

  • คาดการณ์ demand peak ไม่เหมือนเดิม เนื่องจากเทรนด์ผู้บริโภค และ ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน

  • ระมัดระวังการใช้จ่าย ลดค่าใช้จ่าย เช่นการซื้อที่ดิน การลงทุนอื่นๆ

ปัญหาหนี้ครัวเรือน คนไทยซื้อบ้านยาก กู้ยาก รีเจ็กต์เรตสูง 70%

ดร.ยุ้ย ยังคงมองว่า ทำเลกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ยังมีแนวโน้มเติบโตดีสำหรับการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัย เพียงแต่ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันเจอกับปัญหาหนี้ครัวเรือน เลยทำให้คนไทยซื้อยาก กู้ยาก รีเจ็กต์เรตสูงถึง 70% โดยสามารถแบ่งปัญหาได้ 3 สถานการณ์ นั้นก็คือ

  • Bad credit คือ อาจจะมีเงินจ่าย แต่เครดิตไม่ดีพอในการกู้

  • Bad income คือ รายได้ไม่พอ แม้จะมีเครดิตที่ดีพอ

  • ซื้อได้ ซื้อผ่าน กู้ได้แล้ว แต่เปลี่ยนใจ เพราะรู้สึกไม่มั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้

แต่ดร.ยุ้ย คาดการณ์ว่า สถานการณ์ที่ 3 ซื้อได้ ซื้อผ่าน กู้ได้ อาจจะหมดไป หลังจากมีรัฐบาลที่ชัดเจน ฟอร์มทีม ผู้บริโภคอาจมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจมากขึ้น

นโยบายต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี

ดร.ยุ้ย มองว่า นโยบายต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี  เป็นโมเดลเหมือนที่สหราชอาณาจักร และสิงคโปร์  การปล่อยเช่า 99 ปี เท่ากับ เงินต่างชาติจะเข้ามามากขึ้น ระยะคืนทุนยาว และการปล่อยที่ดินมีอัตราที่ดีขึ้น

“เพราะปัจจุบันโมเดลอสังหาฯ ในประเทศไทยมี 3 แบบ นั้นก็คือ 1.ซื้อขาด 2.เช่า 30 ปี 3. เช่ารายเดือน แต่ถ้าบอกว่าเราบอกเค้าว่าเรามีเช่ามากกว่า 30 ปี เป็น 99 ปี มันดี มันคือการเพิ่ม option ให้ตัวเองในการทำธุรกิจ แต่มันจะดีกับการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น เรามีที่แปลงใหญ่ เช่า 30 ปี อาจจะยังไม่ค่อยคืนทุน หรือกำไร แต่ถ้าเค้าได้ 99 ปี ก็อาจจะใช้เวลาคืนทุนได้มากกว่า เพียงแต่ว่าในเราอาจจะต้องไปดูมุมอื่น ว่ามันกระทบมากน้อยขนาดไหน และสิ่งที่ต้องคิดเลยคือ กฎหมายเปลี่ยนไปอย่างเดียวแล้วภาคการเงิน ไม่เปลี่ยนตาม มันเป็นไปไม่ได้ เช่น เงื่อนไขการปล่อยกู้ ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตาม”

เปิดผลประกอบการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) 5 ปี ย้อนหลัง

  • ปี 2562

รายได้รวม 5,146,250,508 บาท

กำไร สุทธิ 1,683,042,837 บาท

  • ปี 2563

รายได้รวม 3,702,977,494 บาท

กำไร สุทธิ 1,104,820,609 บาท

  • ปี 2564

รายได้รวม 3,039,477,822 บาท

กำไร สุทธิ 844,047,238 บาท

  • ปี 2565

รายได้รวม 2,765,433,839 บาท

กำไร สุทธิ 759,112,746 บาท

  • ปี 2566

รายได้รวม 2,514,652,349 บาท

กำไร สุทธิ 553,668,210 บาท

อ้างอิง Creden Data

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT