Exchange คริปโทสัญชาติไทยทรุด! หลังปริมาณการซื้อขายบุคคลทั่วไปหดกว่า 3 เท่า หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้าน เทียบจากจุดสูงสุดในเดือนพ.ย. ที่เคยทำไว้สูงเกือบ 2 แสนล้าน ด้านผลตอบแทนติดลบถ้วนหน้า ETH นำทีมร่วงแล้วกว่า 35%
นับจากเทศกาล “ทุ่งหญ้าเขียวขจี” ในเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ที่บิตคอยน์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 68,789.63 ดอลลาร์/บิตคอยน์ ช่วงที่ซื้อเหรียญไหนก็ทำกำไรได้หมด ข้อมูลจากก.ล.ต. เปิดเผยว่า ในเดือนนั้น แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี หรือ ‘Exchange’ สัญชาติไทย มีปริมาณการซื้อขาย หรือเทรดดิ้งวอลุ่มสูงถึง “2.53 แสนล้านบาท” โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนบุคคลทั่วไปสูงถึง 1.98 แสนล้านบาท
แต่นับจากนั้นเป็นต้นมา วอลุ่มการซื้อขายก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนในเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วอลุ่มการซื้อขายรวมหดตัวลงกว่าครุ่ง เหลือเพียง 1.02 แสนล้านบาท โดยวอลุ่มของบุคคลทั่วไปเหลือเพียง 6.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น คิดเป็นการหดตัวลงกว่า 3 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน!
และไม่ใช่แค่ราคาบิตคอยน์ที่ปรับตัวลดลง ปริมาณ Active User ในแต่ละเดือนก็ลดลงในทิศทางเดียวกัน แม้จำนวนบัญชีผู้ใช้รวมจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปริมาณ 2.59 ล้านบัญชีในเดือนกุมภาพันธ์ 65 แต่ Active User กลับหดตัวลงเหลือเพียงราว 5 แสนบัญชี หรือเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น
นอกจากนี้ หากพิจารณาผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ต้นปี 65 เทียบถึงวันที่ 7 มีนาคม พบว่า ยังคงเป็นลบ โดยบิตคอยน์ (BTC) มีผลตอบแทนติดลบ 18.13% เหรียญ BitKub Coin (KUB) ลบ 16.90% ส่วนอีกหนึ่งเหรียญยอดนิยมอย่าง Etheruem (ETH) มีผลตอบแทนติดลบถึง 35.05%
นอกจากนี้ ข้อมูลจากก.ล.ต. ยังเปิดเผยอีกว่า นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทิศทางกลางเคลื่อนไหวของ BTC และ ETH เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นไทย (SET) ดังนั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลสกุลดังกล่าว จึงไม่สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากตลาดหุ้นไทยได้