เงินได้จากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เข้าเกณฑ์เงินได้ 40(4)
ตามพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2561 กำหนดเงินได้จากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) คือ
(ช) เงินส่วนแบ่งของกำไร หรือผลประโยชน์อื่นใดในลักษณะเดียวกันที่ได้จากการถือ หรือ ครอบครองโทเคนดิจิทัล
(ฌ) ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโตเคอเรนซี่ หรือโทเคนดิจิทัล ทั้งนี้เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินไดกินกว่าที่ลงทุน
ส่วนตามมาตรา 50 กำหนดให้หักภาษีในอัตรา 15%ของเงินได้
ปัจุบันบรรดาศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลยังไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% นี้ไว้ แต่ถึงแม้จะมีการหักไว้ ผู้ลงทุนก็ต้องนำมายื่นภาษีเพื่อคำนวณรวมกับเงินได้อื่นอยู่ดี
ลงทุนกระดานไทย กับ กระดาน ต่างประเทศ เสียภาษีต่างกันอย่างไร
การลงทุนในสินทรัพย์ ดิจิทัลในปัจจุบันมีทั้งการลงทุนdy[กระดานในประเทศไทยตามข้อมูลของ กลต.ราว 1.7 ล้านบัญชี และ กระดานต่างประเทศยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แน่นอนว่าหากลงทุนในกระดานไทยแล้วมีกำไร ต้องยื่นภาษีในไทย
กรณีเงินได้จากต่างประเทศ มีเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษีในไทย ก็ต่อเมื่อต้องเข้าเกณฑ์ 2 ข้อนี้ คือ
*****ซึ่งสำหรับการลงทุนในกระดานต่างประเทศยังมีช่องโหว่อยู่อีกมาก****
วิธีการคำนวณภาษี
วิธีการคำนวณกำไรที่ชัดเจน ยังเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุน เพราะในกระดานเทรดไม่ได้มีการคำนวณไว้ให้ดังนั้น คำถามที่ว่า แล้วเราจะยื่นภาษีอย่างไร คำตอบในเวลานี้คือ
***ผู้ลงทุนจะต้องหากำไร หรือบันทึกต้นทุนของตัวเองให้ได้ เพื่อยื่นต่อสรรพากร หรือ อย่างน้อยสามารถชี้แจงเจ้าหน้าที่สรรพากรได้**
ตัวอย่าง วิธีการคำนวณภาษีกำไรจากคริปโต
105,000 บาท(ภาษีเงินได้) - 22,500 บาท(ภาษีหัก ณ ที่จ่าย) = 82,500 บาท (ภาษีที่ต้องชำระ)
4. สำหรับผู้ที่ขาดทุนไม่ต้องเสียภาษีอยุ่แล้ว
วิธีการยื่นภาษี
แม้กฏหมายภาษีจะกำหนดให้ต้องเสียภาษีจากกำไรในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ปี 2561 แล้ว แต่ในการยื่นภาษีปี 2564 เป็นปีแรกที่มี การเพิ่มช่องทางที่ชัดเจนในเว็บไซต์ของกรมสรรพากร โดยในการยื่นภาษีออนไลน์ หน้าแรกที่ผู้ยื่นภาษีใส่รายละเอียดส่วนตัวแล้ว หัวข้อที่ 2 คื่อ การกรอกเงินได้และในส่วนเงินได้จากการลงทุนจะมีข้อความ
“ดอกเบี้ย เงินปันผลจากบริษัทต่างประเทศ ประโยชน์ใดๆ จากคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล เงินเพิ่มทุน เงินลดทุน 40(4)"
ผู้ลงทุนต้องใส่รายเละเอียดกไรของคริบโตในช่องนั้น เพื่อใหระบบคำนวณภาษีต่อไป
หากไม่ชำระในกำหนดเวลาหรือชำระไม่ถูกต้องจะมีความรับผิดอย่างไรบ้าง?
ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมสรพพากร ระบุคือ
ปัญหาหรือช่องโหว่
เลขาธิการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย นเรศ เหล่าพรรณราย ให้ความเห็นว่า ประเด็นเรื่องการเสียภาษีจากการลงทุนในสินทรัยพ์ดิจิทัล ยังมีช่องโหว่อยู่มาก แม้จะต้องมีการยื่นเสียภาษีตั้งแต่ปี 2561 แต่ในตอนนั้นความนิยมในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ยังไม่มากเท่าปัจจุบัน และยังมีความสับสนเกี่ยวกับการยื่นภาษีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาคล้ายกับต่างประเทศที่พอจะมีการเก็บภาษีจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นเรื่องยาก เพราะเทคโนโลยีมีความซับซ้อน เชื่อว่าทางการจะมีกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ ส่วนผลกระทบการเก็บภาษีจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เชื่อว่าจะมีผลกับนักลงทุนหน้าใหม่ เพราะภาษีเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่จะไม่กระทบกับนักลงทุนหน้าเดิม เพราะมีความเข้าใจเรื่องการลงทุนอยู่แล้ว
ขณะที่ก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประแทศฤ หรือ IMF ออกมาเรียกร้อง แนวทางการกำกับดูแลที่ ครอบคลุม สอดคล้อง และประสานความร่วมมือกัน ระหว่างประเทศ เพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ crypto ได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ทันกับการความนิยมที่แพร่หลายของคริปโตเคอเรนซี่
ที่มาข้อมูล