พอเข้าช่วงปลายปีกับสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ รัฐบาลเตรียมออกมาตรการฟื้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปีใหม่ 2566 ที่กำลังจะมาถึงก็เช่นกัน หลังการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.2565) ชัดเจนว่า รัฐบาลกำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปี 2565 นี้เติบโตได้มากกว่า 3%
ส่วนของขวัญที่ถูกแง้มๆออกมายังไม่มีอะไรแปลกใหม่จากเดิมที่เคยทำมา ไม่ว่าจะเป็น มาตรการ คนละครึ่ง ที่ดำเนินมาจนถึง เฟส 5 และกำลังจะหมดอายุลงในสิ้นเดือน ตุลาคมนี้ , มาตรการช้อปดีมีคืน ที่ให้สิทธิในการไปซื้อสินค้า แล้วนำมาลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปีได้ , หรือ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ล่าสุดดำเนินการมาถึงเฟส 4 ขยายครบ1.5 ล้านสิทธิแล้ว
ทีมงาน SPOTLIGHT ชวนคิด และ ชวนให้เสนอ ว่า “อะไรคือของขวัญปีใหม่ที่คนไทยอยากได้จากมาตรการของรัฐ” ? เพราะในปี 2565 นี้เป็นปีที่เศรษฐกิจทั่วโลกบอบช้ำจาก ราคาสินค้า ค่าครองชีพที่สูงลิ่ว ขณะที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากโควิด เรียกว่า สภาพเหมือนคนที่ยังไม่แข็งแรง และมาดูกันว่า ของขวัญชิ้นเดิมที่ใช้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากแค่ไหน
โครงการคนละครึ่ง ถูกใช้มาหลายปีต่อเนื่องจนเข้าสู่เฟสที่ 5 แล้วด้วยจำนวนผู้ใช้สิทธิล่าสุด 17 ตุลาคม 2565 อยู่ที่ 24.02 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 34,310.23 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 17,461.66 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 16,848.57 ล้านบาท โครงการนี้เป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน วงเงิน 800 บาท และโดยเงินกระจายไปยังร้านค้า ทั้งร้านอาหาร ร้าน OTOP ร้านธงฟ้า และกิจการขนส่งอีกด้วย โดยคนละครึ่งเฟส 5 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมจำนวน 9.67 แสนราย และกำลังจะสิ้นสุดโครงการในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
เราเที่ยวด้วยกัน มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยการให้ส่วนลดโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า และ ตั๋วเครื่องบิน ซึ่งได้ดำเนินการล่าสุดเฟส 4แล้ว และจะหมดอายุในสิ้นเดือนตุลาคมนี้เช่นกัน ซึ่งเราเที่ยวด้วยกันเป็นส่วนส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประทศที่รัฐบาลตั้งเป้าว่า จะเป็นส่วนช่วยให้รายได้ในภาคการท่องเที่ยวเมื่อรวมกับนักท่องเที่ยต่างชาติจะอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท ในปี2565 นี้
ช้อปดีมีคืน มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ด้วยการซื้อสินค้า แล้วนำมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งมาตรการถูกนำมาใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2563 และใช้ล่าสุดเมื่อต้นปี 2565 โดยให้วงเงินลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30,000 บาท โดยแม้รัฐฯจะสูญรายได้จากตัวภาษีเงินได้บุคคลรรมดา แต่จะได้กลับมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ประชาชนออกไปจับจ่ายใช้สอยนั่นเอง
งบประมาณเบื้องต้น 23,000 ล้านบาท หวัง GDP โตมากกว่า 3%
เรื่องของงบประมาณในการนำมาใช้ในแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิตนั้น สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบฯกลางปี 2566 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินเบื้องต้น 2.3 หมื่นล้านบาท สำหรับเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะนี้กำลังรอกระทรวงมหาดไทยประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมก่อน จึงจะสามารถคำนวณงบประมาณสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนได้
ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยภายว่า ขณะนี้สัญญาณทางเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 65 อยูที่ 3.3% ส่วนรัฐบาลประเมินไว้ที่ 3% ขึ้นไป โดยในส่วนของการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย โดยคาดว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยจะมีประมาณ 10 ล้านคน